คืบหน้า ! อดีตครูสอนกวดวิชาให้ ‘น้องเมย’ ตั้งข้อสงสัย ถึงสาเหตุการเสียชีวิตปริศนา

ประเด็นคือ – คืบหน้าการเสียชีวิตของ นตท.ภคพงษ์ ตันกาญจน์ หรือ น้องเมย ล่าสุด อดีตครูที่เคยสอนกวดวิชาให้กับเมย ได้ตั้งข้อสงสัย ถึงสาเหตุการเสียชีวิตของเมย

จากกรณีเมื่อวันที่ 24 ต.ค. 60 ที่ผ่านมา นายพิเชษฐ และนางสุกัลยา ตัญกาญจน์ ได้ร้องต่อสื่อว่า นายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตในวันที่ 17 ต.ค. 60 หลังกลับเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร เพียง 1 วัน และไม่ได้รับคำชี้แจงที่ละเอียดจากผู้เกี่ยวข้อง ได้รับเพียงใบมรณบัตรชี้แจงสาเหตุการตายว่า “เสียชีวิตเนื่องจากภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน” จากนั้นได้นำศพนายภคพงศ์ไปชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตพบว่า อวัยวะภายใน และสมองหายไป

วันที่ 23 พ.ย. 60 นายพิเชษฐ และ นางสุกัลยา ตัญกาญจน์ รวมถึง นางสาวสุพิชา ตัญกาญจน์ พี่สาวของ นตท.ภคพงษ์ ตันกาญจน์ หรือ น้องเมย เดินทางมายัง รพ.พระมงกุฏเกล้า เพื่อขอรับชิ้นส่วนอวัยวะของน้องเมย ประกอบด้วย สมอง หัวใจ ที่บรรจุไว้ในกล่องโฟม เพื่อนำไปให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ทำการตรวจพิสูจน์

ทางด้านแม่ของน้องเมยบอกว่า น้องทำหน้าที่ของตนเองได้ดีที่สุดแล้ว พร้อมกับเปิดเผยความรู้สึกว่า หัวใจของคนเป็นแม่ ที่ต้องมาเห็นชิ้นส่วนอวัยวะของลูกแบบนี้ ให้คิดเองว่ารู้สึกอย่างไร

https://www.youtube.com/watch?v=t-gpycxcNTU

จากนั้นเวลา 13.00 น. (23 พ.ย.) ครอบครัวของน้องเมยได้เดินทางมาที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี พร้อมนำอวัยวะของน้องเมยมาผ่าชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต

ส่วนเรื่องที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ออกมาพูดว่า ถ้าจะมาเป็นนักเรียนทหารก็ต้องเตรียมใจโดนซ่อม ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องเข้ามา นายพิเชษฐ ตัญกาญจน์ พ่อของน้องเมย บอกว่า “ท่านไม่น่าพูดออกมาแบบนั้นเลย ไม่นึกถึงหัวอกของคนเป็นพ่อเลย แต่ก็ต้องขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการเสียชีวิตของลูกชายของตน”

ด้านนายสมณ์ พรหมรส ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า “ขณะนี้ตรวจแล้วว่าอวัยวะที่ส่งมาให้ทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตรวจนั้นมีอะไรบ้าง และมีสภาพเป็นเช่นไร ซึ่งจะใช้เวลา 7 วัน ทางตนเองได้คุยกับทางญาติผู้เสียชีวิตแล้ว ทางญาติผู้เสียชีวิตก็บอกว่าไม่ได้รีบร้อน เพราะต้องการได้ข้อมูลที่แม่นยำมากที่สุด

ขณะที่ทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เผยถึงประเด็นที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อว่า “ถ้าไม่อยากถูกซ่อมก็ไม่ต้องมาเป็นทหาร” โดย พล.อ.ประยุทธ์ ถามสื่อกลับว่า “สื่อจะต่อว่ารองนายกรัฐมนตรีของตนใช่หรือไม่ ซึ่ง พล.อ.ประวิตร บอกกับตนว่าไม่ได้ตั้งใจตอบแบบนั้น แต่สื่อถามให้อารมณ์เสีย

“ส่วนการเปลี่ยนบทลงโทษธำรงวินัยหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับกองทัพเป็นผู้พิจารณา ขณะที่ต่างประเทศก็มีหลักสูตรธำรงวินัยแบบนี้เช่นกัน ถ้าฝึกแบบธรรมดา ก็ได้คนธรรมดาที่ไม่อดทน ดังนั้นต้องทำไม่ให้เกิดความสูญเสีย และมันคนละเรื่องกัน”

ทางด้านแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ อดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ยังมีข้อข้องใจการผ่าตัดอยู่ เพราะเป็นการเสียชีวิตแบบผิดปกติ เป็นการตายแบบกะทันหัน ซึ่งขั้นตอนในการชันสูตรพลิกศพต้องทำแบบพญาธิแพทย์ และนิติเวช ควบคู่กันไป แต่กระบวนการที่มีการผ่าพิสูจน์น้องเมย เป็นแบบพญาธิเท่านั้น คือการตัดอวัยวะนำไปแช่ฟอร์มาลีนเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต โดยไม่ได้แจ้งญาติถึงขั้นตอนต่างๆ

โดยขั้นตอนการผ่าพิสูจน์น้องเมย ตนเองไม่ติดใจ แต่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตว่าเสียชีวิตที่ใด อย่างไร ทั้งนี้เชื่อว่าปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นจากการสื่อสารไม่ตรงกันระหว่างแพทย์ที่ผ่าพิสูจน์ กับญาติ ดังนั้นจึงอยากให้แพทย์ออกมาชี้แจงเพื่อให้สังคมหายข้อข้องใจ

ล่าสุดผู้สื่อข่าวเวิร์คพอยท์ ได้คุยกับอดีตครูที่กวดวิชาให้น้องเมย ตอนสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร ได้ให้ข้อมูลที่น่าสนใจว่า ก่อนที่น้องเมยจะเสียชีวิต ก็เคยถูกรุ่นพี่ซ่อม (ซ้อม) มาก่อนด้วยวิธีการทิ้งบอมบ์ หรือเอาหัวทิ่มพื้น กระทั่งได้รับบาดเจ็บ

โดยก่อนที่จะเสียชีวิตไม่มีกี่วัน น้องเมยกลับมาอยู่ที่บ้าน แล้วก็ไป รพ. กระทั่งวันที่ 15 ต.ค. น้องเมยกลับไปอยู่ที่ รร.เตรียมทหาร พอวันที่ 16 ต.ค. ไปอยู่ที่กองพยาบาล ตอนเช้าให้น้ำเกลือ แล้วมาเสียชีวิตวันที่ 17 ต.ค.

ครูท่านดังกล่าวได้ตั้งข้อสังเกตจากกล้องวงจรปิดที่มีการเผยแพร่ว่า ก่อนวันที่น้องเมยจะเสียชีวิต น้องเมยได้ใช้มือกุมที่หน้าอกซ้าย แต่น่าจะเป็นการจับที่บริเวณซี่โครง ซึ่งอยู่ต่ำกว่าหัวใจ คาดว่าน้องเมยน่าจะมีอาการซี่โครงหักก่อนที่จะเสียชีวิต แล้วช่วงที่ซี่โครงหัก คงโดนลงโทษด้วย

แล้วก็มีข้อมูลเพิ่มเติมว่า เมื่อน้องเมยกลับเข้าไปโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 15 ต.ค. พอวันที่ 16 ต.ค. ก็ถูกนายทหารเวรสั่งให้ทุกคนวิ่งรอบโรงเลี้ยง 4 รอบ แล้วก็ถูกรุ่นพี่คนหนึ่งสั่งลุกหมอบเป็นเวลา 1 นาที กระทั่งน้องเมยไม่ไหว จึงมีการส่งห้องพยาบาล จนกระทั่งน้องเมยเสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 ต.ค.

โดยครูคนดังกล่าวตั้งข้อสังเกตว่า น้องเมยน่าจะมีอาการไม่ดีอยู่แล้ว มีปัญหาด้านซี่โครง แล้วมาถูกสั่งลงโทษทางวินัยอีก จนทำให้มีอาการย่ำแย่ลง