SHARE

คัดลอกแล้ว

อาจารย์ภาควิชาเภสัช จุฬาฯ ร่วมมือกับ University of Innsbruck และ ADSI ประเทศออสเตรีย คิดค้นสเปรย์ลำไยพ่นลำคอและจมูก ป้องกันการติดเชื้อไวรัสทุกชนิด รวมทั้งโควิด-19 คาดอีก 3 เดือน ผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาด

การใส่หน้ากากอนามัยและล้างมือบ่อยๆ เป็นขั้นตอนสำคัญที่สุดในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา แต่ถึงแม้จะปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัด ก็อาจเกิดการติดเชื้อได้ เนื่องจากต้องมีการปลดหน้ากากอนามัยขณะรับประทานอาหาร

ที่สำคัญเชื้อไวรัสมักจะปนเข้ามากับอากาศและเข้าสู่ร่างกายทางจมูกและปาก การรับประทานสมุนไพรเพิ่มภูมิคุ้มกันอาจเป็นข้อจำกัดในคนบางกลุ่ม เช่น ผู้มีโรคเรื้อรัง ผู้สูงอายุ ดังนั้น วิธีป้องกันการติดเชื้อไวรัสเฉพาะที่ด้วยสมุนไพรที่มีความปลอดภัยจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดย ศ.ภญ.ดร.พรอนงค์ อร่ามวิทย์ ภาควิชาเภสัชกรรมปฎิบัติ ได้ร่วมมือกับ University of Innsbruck และ ADSI ประเทศออสเตรีย ประสบความสำเร็จในการศึกษาวิจัยการนำลำไยสกัดเข้มข้นด้วยกรรมวิธีพิเศษ มาพัฒนาเป็นสูตรตำรับสมุนไพรพ่นลำคอและจมูก สามารถลดปริมาณไวรัสที่เกาะติดเยื่อบุและลดปริมาณไวรัสที่อาจเข้าสู่ร่างกายได้

ศ.ภญ.ดร.พรอนงค์ อร่ามวิทย์ อาจารย์นักวิจัยผู้พัฒนาสมุนไพรพ่นจมูกและลำคอจากลำไยสกัดเข้มข้น

เหมาะสำหรับการนำมาใช้ป้องกันการติดเชื้อไวรัสทุกชนิด รวมทั้งไวรัสโควิด-19 โดยลำไยสกัดเข้มข้นด้วยกรรมวิธีพิเศษ (P80) ได้ผ่านการทดสอบแล้วว่าสามารถลดการยึดเกาะของเชื้อไวรัสที่เยื่อบุอ่อน ไม่ว่าจะเป็นที่โพรงจมูกและลำคอได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังสามารถลดการสร้าง complementary C3a ซึ่งเป็นสารก่อการอักเสบที่รุนแรงในปอดได้ นับเป็นสมุนไพรตัวแรกที่พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ในการลดการติดเชื้อที่โพรงจมูกและลำคอได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียง

ผลการศึกษาพบว่าฤทธิ์ดังกล่าวสามารถอยู่ได้นานถึง 2 วัน ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการศึกษาประสิทธิภาพในผู้ป่วยจริงทางคลินิก โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ

ศ.ภญ.ดร.พรอนงค์ อร่ามวิทย์ อาจารย์นักวิจัยผู้พัฒนาสมุนไพรพ่นจมูกและลำคอจากลำไยสกัดเข้มข้น ด้วยกรรมวิธีพิเศษเพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 เปิดเผยถึงเหตุผลที่สนใจนำสารสกัดลำไยมาพัฒนาเป็นสูตรตำรับสมุนไพรดังกล่าว เนื่องจากลำไยเป็นผลไม้ที่เรานำมารับประทานเป็นอาหารอยู่แล้วจึงมีความปลอดภัยสูง เมื่อศึกษาตำราแพทย์แผนโบราณระบุว่า ลำไยสามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้ จึงได้ศึกษาวิจัยสารสกัดลำไยจนพบว่า สามารถลดการยึดเกาะเชื้อไวรัสและมีฤทธิ์ต่อเชื้อไวรัสแทบทุกชนิด โดยได้ทำการทดสอบไปแล้วกับเชื้อไวรัสหลายประเภท เช่น เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ เชื้อที่ก่อให้เกิดโรคเริม ฯลฯ ซึ่งได้ผลมีประสิทธิภาพดีกับเชื้อไวรัสทุกชนิดที่ทำการทดสอบ

สำหรับกระบวนการในการทำวิจัย ศ.ภญ.ดร.พรอนงค์ กล่าวว่า เริ่มจากการเลือกสารสกัดลำไยที่มีสารสำคัญในกลุ่มโพลีฟีนอลในปริมาณสูง ซึ่งเป็นสารสกัดลำไยที่ผ่านกระบวนการสกัดพิเศษ ด้วยอุณหภูมิต่ำภายใต้ความดันสูงและผ่านการกรองหลายครั้ง จนได้สารสกัดที่มีความเข้มข้นของสารสำคัญ จากนั้นจึงนำมาตั้งสูตรตำรับสำหรับพ่นจมูกและลำคอ เพื่อให้มีความหนืดและค่าความตึงตัวที่เหมาะสม เมื่อพ่นเข้าไปในโพรงจมูกและลำคอแล้วไม่ระคายเคือง ที่สำคัญต้องสามารถให้ขนาดละอองที่พอเหมาะ สามารถเข้าไปถึงอวัยวะที่ต้องการออกฤทธิ์ได้ ถ้าพ่นที่โพรงจมูก ต้องขนาดเล็กพอให้ทั่วโพรงจมูก แต่ไม่เล็กจนทำให้เข้าสู่ปอด ถ้าพ่นลำคอ ต้องให้สามารถให้ละอองถึงด้านในลำคอได้โดยไม่ติดที่ปาก ลิ้น และฟัน เมื่อศึกษาความคงตัวของสูตรตำรับแล้วจึงนำมาทดสอบทางคลินิก เพื่อดูประสิทธิภาพในผู้ป่วยจริง

เยื่อบุจมูกในภาวะปกติ

เยื่อบุจมูกที่ติดเชื้อไวรัสและมีสารก่อการอักเสบ

เยื่อบุจมูกติดเชื้อหลังได้รับสารสกัดลำไยเข้มข้น

ศ.ภญ.ดร.พรอนงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปริมาณการใช้สารสกัดลำไยที่เข้มข้นสำหรับป้องกันการติดเชื้อไวรัสนั้น ใช้ปริมาณเล็กน้อยเท่านั้น สามารถใช้สารสกัดนี้พ่นได้ทั้งลำคอและช่องจมูก วันละ 2 ครั้งเช้าเย็น ซึ่งสามารถออกฤทธิ์ได้ทันที ทั้งการออกฤทธิ์ทางกายภาพคือป้องกันการยึดเกาะของเชื้อไวรัสต่อเยื่อบุผิว และการออกฤทธิ์ทางชีวภาพเพื่อป้องกันการเกิดสารก่อการอักเสบ ในกรณีที่ผู้ใช้ต้องเดินทางไปในสถานที่ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ที่ที่มีคนแออัด ก็สามารถใช้พ่นจมูกหรือลำคอก่อนเข้าสู่บริเวณดังกล่าว แล้วจึงสวมหน้ากากอนามัย

วิธีการทดลอง

“งานวิจัยเรื่องนี้ได้ทำมาประมาณ 1 ปีครึ่งแล้ว ตั้งแต่ยังไม่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยทดสอบกับเชื้อไวรัสอื่น เมื่อมีการระบาดของเชื้อโรคนี้ จึงเริ่มนำมาทดสอบกับเชื้อโควิด ขณะนี้อยู่ในระหว่างการทดสอบทางคลินิกในอาสาสมัครจำนวน 62 ราย โดยมีความร่วมมือทางวิชาการกับโรงพยาบาลวิภารามชัยปราการ คาดว่าอีก 3 เดือน ผลิตภัณฑ์น่าจะออกสู่ท้องตลาดได้” ศ.ภญ.ดร.พรอนงค์ กล่าวทิ้งท้าย

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า