วัดใจ 3ป. ‘ยอมหัก’ หรือ ‘ยอมงอ’ ต่อเเรงบีบคนการเมือง

อดีตสองรัฐมนตรีกปปส.ที่พ้นเก้าอี้ไปเเล้วของพรรคพลังประชารัฐคือ “พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีตรมว.ดีอีเอส เเละ ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีตรมว.ศึกษาธิการ ” ตรงนี้เปิดโควตาให้หลายมุ้งใน พปชร.บีบ 3ป.

เพราะในตอนนี้กระเเสเเรงสุดจากผู้เเทนราษฎรพลังประชารัฐ ล่ารายชื่อส.ส.กว่าเเปดสิบชีวิตในการสกัดคนนอกไม่ให้ขึ้นเรือเหล็กเป็นรัฐมนตรีโควตาคนนอกนั้น อ่านนัยยะออกว่าควรให้คนในพปชร.ขึ้นเเท่นมากกว่า

เรื่องนี้ไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาล เพราะภาพลักษณ์การตัดสินใจเด็ดขาดของหัวหน้ารัฐบาล อย่างพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เเละพี่ใหญ่ค่าย 3ป. คือ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ บวกกับพี่รองคือ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา จะถูกทำลายโดยพลัน

หากยอมทำตามการล่ารายชื่อของคนการเมืองพรรคเดียวกัน…เเละบวกกับเเรงขย่มของพรรคร่วมก็ทำให้ 3ป.ปวดหัวไม่น้อย

อย่าให้คนการเมืองมาต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี

การเลือกรัฐมนตรี ขึ้นเรือเหล็กรอบนี้เป็นไปเพื่อฟื้นฟูเเละยกเครื่อง มองว่า 3ป.ควรจะชี้เป้าคนดี คนจริง มาร่วมในการขับเคลื่อนฟื้นฟูเศรษฐกิจเเละเรียกกระเเสนิยมกลับมาให้เร็วที่สุด เพราะหลังจากมีวัคซีนโควิด-19 เข้ามาช่วยคนไทยเเล้ว สถานการณ์เศรษฐกิจโลกน่าจะเริ่มฟื้นตัว แต่จะฟื้นตัวรูปแบบไหน ไม่มีใครเดาทางได้ ดังนั้น 3ป ต้องวางแผนแด้เกมล่วงหน้าด้วยการวางว่าที่ ‘รัฐมนตรี’ มีฝีมือเเละไร้เเรงกดดันมาช่วยเดินหน้าไทยเเลนด์ 4.0 โดยไม่ต้องใส่ใจเสียงนกเสียงกาของส.ส.พรรคพปชร.เเละ ‘ไอ้ห้อยไอ้โหน’ ที่คอยชิงส้มหล่น

ดังนั้นอ่านเกมออกว่าภาพแข็งเเกร่งเเต่พลิ้วไหว ของนายกฯ เเละลุงป้อม ต้องเเสดงออกให้ชัด คือไม่ให้คนการเมืองมาต่อรองได้ อาจโอนอ่อนตามเกมไปบ้างเเต่อย่าให้ไหลไปหมดก๊อก

จุดเน้นย้ำที่ควรจับตาคือ ลีลาของรมช.เกษตรเเละสหกรณ์ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ออกมาโชว์ออฟหลายๆ เรื่อง ตั้งเเต่ผลคะเเนนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่มีคะเเนนนิยมออกมาเเบบหักหน้า 3ป.เเละการขโมยซีนนายกฯ เช่น การบอกว่านิคมจะนะต้องยุติชั่วคราวเพื่อนับหนึ่งใหม่ ทั้งๆ ที่เป็นโครงการของนายกฯ ที่วางไว้หลายปีเเล้วนั้นไม่ใช่เรื่องดีต่อสถานภาพหัวหน้ารัฐบาล เพราะคะเเนนของรมช.เกษตรเเละสหกรณ์คนนี้กำลังเบ่งเเซงลุงตู่เเละทาบรัศมีลุงป้อม

ผู้กองธรรมนัส เเห่งเเก๊ง 3ช. (3 รมช. จากพปชร. ได้แก่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า, นฤมล ภิญโญสินวัฒน์, สันติ พร้อมพัฒน์) เวลานี้ออกตัวว่าเเจกกล้วยไปให้ส.ส.หลายพรรค ดังนั้นหากปล่อยให้ผู้กองที่รัก ‘ธรรมนัส พรหมเผ่า’ ขยับเรื่อย ๆ เชื่อว่า 3 ป. ต้องจำกัดวง ชะลอบทบาทผู้กองธรรมนัส เพื่อไม่ให้เกิดการหนุนผู้กองธรรมนัส ลุกลามจากส.ส.พปชร.เเละเครือข่ายส.ส.กินกล้วย

จากนี้ 3ป.น่าจะสั่งยันต์สะกดทัพ ไม่ให้ ‘ผู้กองธรรมนัส’ เเผ่อำนาจบารมีไปกระทบรัศมีลุงป้อมกับลุงตู่ให้สะเทือน

หากมองเจตนา3ป.ดีๆ จะอ่านออกว่าเเก๊ง 3ช.นั้นน่าจะวินเนอร์หนึ่งคน เเละคงไม่ใช่เส้นทางของผู้กองธรรมนัส เพราะนอกจากขยับตัวเองขึ้นชั้นเเล้วยังพยายามปั้นคนของตัวเอง เช่น ‘ไผ่ ลิกค์’ มาเป็นรมช.ด้วย โอกาสเกลี่ยเก้าอี้รมว.นั้นน่าจะเปิดให้ ‘สันติ พร้อมพัฒน์’ รมช.คลัง ขยับขึ้นชั้นรมว. เพราะสันติเสียสละอาคารของตัวเองให้เป็นที่ทำการพรรคพปชร. เเละยังเป็นการเปิดพื้นที่ ให้ลุงตู่เลือก รมช.คลัง สายเทคโนเเครตมาช่วยงาน ‘อาคม เติมพิทยาไพสิฐ’ รมว.คลัง ให้สานงานอย่างเป็นระบบอีกด้วย

หากสันติสมหวัง จะทำให้แรงบีบ 3ป. ในพปชร. ลดลง ส่วน ‘นฤมล ภิญโญสินวัฒน์’ รมช.เเรงงาน ที่ดูเเล 1 กรมถ้วน คราวที่เเล้วดร.เเหม่ม เข้าวินเเบบส้มหล่น คราวนี้คงหมดสิทธิ์ขยับไปกินตำเเหน่งที่ดีกว่านี้ เต็มที่ย้ายไปสำนักนายกฯ

ส่วนขั้วอื่นๆ ในพปชร.เช่น สามมิตรเเละกปปส.น่าจะต้องรอไปก่อน เว้นเเต่ส.ส.ปักษ์ใต้ที่คราวนี้คงพอมีลุ้นกับมุ้งอื่นๆ เขาด้วย บวกกับ ‘พรรคจิ๋ว’ ที่ควรเปิดพื้นที่ให้ได้เเสดงฝีมือบ้าง เช่น พรรคพลังท้องถิ่นไท ที่เป็นเด็กดีเสมอมา สำหรับ 3ป. เว้นเเต่ ส.ส.เหล่านี้ไปนิยมเจ้าของสวนกล้วยมากกว่า ก็อาจทำให้โอกาสนี้หลุดไป

ส่วนอีกโควตารมต.ค่ายพปชร.นั้นคาดว่า ‘ลุงตู่’ น่าจะเลือกคนนอกมาเเก้เกม โดยเฉพาะกระทรวงศึกษาธิการ เพราะมันคือจุดอ่อนของ ‘ลุงตู่’ ในการวางเส้นทางอนาคตของชาติเเละลบกระเเสที่กลุ่มสามนิ้วเเละนักเรียนเลวนำมากระพือขย่มในช่วงที่ผ่านมา จากบาดเเผลการปฏิรูปการศึกษาตั้งเเต่ ยุคคสช.จนถึงวันนี้ มันพิสูจน์บางอย่างได้เเล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเด็ดขาดกับการเลือกมืออาชีพมาทำหน้าที่เสมา1 ขับเคลื่อนโรดเเมปนี้ให้ลุล่วงสักที มิเช่นนั้น บาดแผลนี้ก็จะกลายเป็นตราบาปไปตลอด เมื่อมีโอกาสควรแก้ไขให้ถูกจุด

ส่วนพรรคร่วมรัฐบาล อันดับสองเเละสามนั้น พบว่าการเข้าหา ‘เสี่ยหนู – อนุทิน ชาญวีกุล’ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ของเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ‘เฉลิมชัย ศรีอ่อน’ นั้น คนการเมืองอ่านออกว่ามันคือเกมแสดงท่าทีขู่ ลุงตู่และบิ๊กป้อม กลายๆ ว่าสองพรรคนี้พร้อมสวิทช์ขั้ว หากเงื่อนไขการร่วมรัฐบาลเปลี่ยนก็ถึงคราวเเปรผัน เเละ 3ป.ควรฟังสองพรรคนี้มากกว่าเวลาที่ผ่านมา

เพราะถ้าพรรคภูมิใจไทย ที่เป็นพรรคอันดับสองด้วยจำนวน 61 ส.ส.กับพรรคประชาธิปัตย์ ที่มี 51 ส.ส.ไว้ในมือนั้นเกิดเเผลงฤทธิ์ขึ้นมา เมื่อพปชร.เเละ 3ป.รุกเส้นอธิปไตยของสองพรรคนี้ การตีรวนจากนี้บังเกิดขึ้นเเน่นอน

ตรงนี้ 3ป.ต้องตีเจตนาของสองพรรคร่วมให้ถ้วนถี่ เพราะเเผลของรมต.บางคนในสองพรรคนี้มิใช่ไม่มี เพียงเเต่รอวันสะกิดเเผลให้ปะทุเท่านั้น

หาก 3ป.อยากไปต่อเเบบสังคมเชื่อมั่นด้วยการยอมหักแต่ไม่ยอมงอ เลือกคนที่เหมาะกับงาน เเละไม่สนใจหรือเเรงบีบของคนการเมืองเพื่อให้รัฐบาลลุยงานต่อเนื่อง หรือจะยอมลากเรือเหล็กสนิมผุเเละลูกเรือในสังกัด พร้อมพันธมิตรขย่มเอาเเบบดิสเครดิต 3 ป.ไปเรื่อย ๆ

หากปล่อยไว้เเบบนั้น นับวันรอได้เลยว่า จะเลือกตั้งใหม่วันไหน เเละคงจะปิดฉาก 3ป.บนถนนการเมืองได้เลย

สามชายหัวใจสีม่วง (ร.2 รอ.) ต้องตรองให้ถ้วนถี่เพราะอนาคตของชาติคือเดิมพัน!