SHARE

คัดลอกแล้ว

นายกฯ ยืนยัน ไม่มีใครหนุนใช้ความรุนแรงกับประชาชน แจงไทยส่งตัวแทนร่วมงานวันกองทัพเมียนมา เป็นช่องทางติดตามพัฒนาการทางการเมือง เผยฝ่ายความมั่นคงพร้อมรับมือหากมีการอพยพ 

วันที่ 29 มี.ค. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงนโยบายของไทยในการดูแลผู้อพยพชาวเมียนมา รวมถึงหากมีแกนนำของเมียนมาเข้ามาในพื้นที่ไทยแล้วจับกุมเพื่อส่งคืนให้ทางการเมียนมาด้วยว่า ไทยทราบถึงปัญหาในเมียนมา ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องเหล่านี้อยู่ ขอให้เป็นเรื่องภายในของเขาไปก่อน เพราะไม่อยากให้มีการอพยพเข้ามาในพื้นที่ของเรา แต่ก็ต้องดูแลในเรื่องของสิทธิมนุษยชนด้วย

สำหรับกรณีที่ไทยส่งตัวแทนเข้าร่วมวันกองทัพเมียนมา ในขณะที่กองทัพนานาชาติ 12 ชาติมหาอำนาจประณามกองทัพเมียนมานั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นช่องทางการทหารที่เราจำเป็นต้องติดตาม และต้องหากลไกต่างๆ ที่สามารถติดตามในเรื่องพัฒนาการทางการเมืองในเมียนมา และความรุนแรงต่างๆ ที่เกิดขึ้น เราเป็นประเทศที่มีดินแดนติดกัน ก็ต้องมีผลกระทบ เมื่อมีการสู้รบก็ต้องมีการอพยพ ดังนั้น เราต้องเตรียมแก้ปัญหาตรงนี้ โดยเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาในชั้นต้นของเราก่อน และหากเกิดเหตุการณ์ขึ้นก็ต้องว่ากันอีกครั้ง ส่วนการคาดการณ์ตัวเลขของผู้อพยพและการเตรียมการรองรับนั้น เราก็ต้องเตรียมพื้นที่ไว้ ส่วนจะอยู่ตรงไหนหรือจะมากน้อยเพียงใดก็ค่อยว่ากันอีกที อย่าเพิ่งพูดไปถึงการจัดสถานที่พักพิงหรือศูนย์อพยพ ยังไม่พูดตรงนั้น เพราะวันนี้เป็นเรื่องของฝ่ายความมั่นคงที่ต้องจัดเตรียมไว้ให้อยู่แล้ว

ส่วนการเมืองในเมียนมาที่เริ่มทวีความรุนแรงนั้น ไทยจะกำชับเจ้าหน้าที่อย่างไรในการทำงานตามแนวชายแดนให้รอบคอบ เพราะหลายกรณีถูกเชื่อมโยงว่าไทยสนับสนุนทหารเมียนมา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทราบดีและติดตามทุกวัน ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศได้รายงานมาโดยตลอด ฝ่ายความมั่นคงก็รายงานขึ้นมา ซึ่งขณะนี้ไทยสนับสนุนทหารเมียนมาตรงไหนตนไม่เข้าใจ เพราะคงไม่มีใครที่จะไปสนับสนุนให้มีการใช้ความรุนแรงกับประชาชน

สำหรับในฐานะที่ไทยเป็นเพื่อนบ้านใกล้ชิดเมียนมา ขณะนี้ยังคงย้ำในจุดยืนเดิมคือ วินๆ ทั้งเศรษฐกิจและประชาชนอยู่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ยังมีการค้าขายกันอยู่ตามปกติ ซึ่งต้องดูคนที่อยู่ในวงจรเหล่านี้ด้วย คนที่ได้รับประโยชน์คือประชาชนคนไทยและเมียนมาที่ต้องอยู่ ต้องกิน รวมทั้งสินค้าก็ยังมีความต้องการอยู่ จึงเป็นสิ่งที่เราต้องดำเนินการควบคู่กับมาตรการอาเซียนหรือประชาคมอื่นๆ โดยย้ำว่าต้องระมัดระวังอย่างที่สุด

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า