ไทยยอดติดโควิด-19 เพิ่ม 194 ราย กทม.-นราธิวาสมากสุด ศบค.ห่วงคลัสเตอร์สถานบันเทิง

#UPDATE สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ประจำวันที่ 5 เมษายน 2563 พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 194 ราย มาจาหระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 87 ราย, การค้นหาเชิงรุก 95 ราย, และจากต่างประเทศและเข้า SQ 12 ราย รวมสะสม 29,321 ราย, หายป่วยเพิ่ม 66 ราย หายป่วยสะสม 27,840 ราย,  กำลังรักษาเพิ่ม 128 ราย กำลังรักษาใน รพ. 1,386 ราย และผู้เสียชีวิตคงที่สะสม 95 ราย

วันที่ 5 เม.ย.2564 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.แถลงสถานการณ์ประจำวันว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 194 ราย เป็นผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 87 ราย และจากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 95 ราย ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 12 ราย และผู้เสียชีวิตเพิ่มไม่มี
ทำให้ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 29,321 ราย หายป่วยแล้ว 27,840ราย และผู้เสียชีวิตยอดสะสม 95 ราย

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า สำหรับการะแพร่ระบาดในพื้นที่ กทม. พบการกระจายแล้วในเขตทองหล่อ, จตุจักร, เอกมัย และรัชดาฯ เชื้อได้มีการกระจายไปสู่ผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย ทั้งนี้พื้นที่สถานบันเทิง ผับบาร์ คาราโอเกะ มีลักษณะเพดานต่ำ อากาศปิด การระบายอากาศได้ไม่ดี โดยเฉพาะการคลุกคลี ใกล้ชิด พูดคุย ใช้ของใช้ร่วมกัน นักเที่ยวบางส่วนไปยังสถานบันเทิงหลายแห่งในคืนเดียว รวมถึงข้ามไปยังพื้นที่จังหวัดอื่น ๆ ใกล้เคียง และผู้ป่วยส่วนใหญ่ ไม่มีอาการ ทำให้สามารถกระจายไปยังพื้นที่อื่น ๆ เช่น ที่บ้าน ที่ทำงานเพิ่มเติมได้ง่าย

จากเคสสถานบันเทิงเมื่อปี 63 พบว่ากระจายได้ถึง 41 จังหวัด ศบค. จำเป็นต้องบริหารความเสี่ยง-การระบาดที่เกิดขึ้น ทำให้มีข้อสรุปในการเสนอ การจัดการสถานบันเทิงเป็น 3 ระดับด้วยกันคือ กรณีพบผู้ป่วย ในสถานบันเทิงใด จะมีการสั่งปิด 2 สัปดาห์, กรณีพบผู้ป่วยเป็นโซนพื้นที่ จะมีการสั่งปิด เป็นโซนไป เช่นทองหล่อ และกรณีที่มีพบการระบาดแพร่กระจายไปทั่วพื้นที่ ให้อำนาจผู้ว่าฯ สามารถสั่งปิดสถานบันเทิงทั้งจังหวัดได้ ดังนั้นหากมีการพบการระบาดในจุดใด ขอให้ผู้ให้บริการ พิจารณามาตรการในการป้องกันโรค เพื่อไม่ให้การระบาดลุกลามต่อไป