‘ชูวิทย์’ ลั่นมีหลักฐาน รมต. เที่ยวเลาจน์ เผย ‘คริสตัลคลับ’ เสมือน ‘ไทยคู่ฟ้าคลับ’ ย้ำ ต้องเปิดไทม์ไลน์ที่แท้จริง ไม่ต้องอาย

‘ชูวิทย์’ แฉ เลาจน์ วีวีไอพี ย่านทองหล่อ เปรียบเสมือน ‘ไทยคู่ฟ้าคลับ’ เป็นแหล่งเจรจาทางธุรกิจ เรียกร้องให้ นักการเมืองที่ติดโควิด-19 และที่เกี่ยวข้อง เปิดเผยไทม์ไลน์ที่แท้จริง ให้ประชาชนรับทราบ เพื่อเป็นตัวอย่างให้สังคม

วันที่ 8 เม.ย.2564 จากกรณีที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์คลิปและข้อความบนเฟซบุ๊ก ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์  เมื่อวันที่ 7 เม.ย.2564 โดยระบุข้อความบางส่วน ว่า ช่วงนี้โควิด-19 มารอบ 3 เริ่มแพร่กระจายในผับ แถวทองหล่อ ‘คริสตัลคลับ’ หรือจะเรียกว่า ‘ไทยคู่ฟ้าคลับ’ เพราะมีทั้งระดับ รัฐมนตรี นักการเมือง ส.ส. ฝั่งรัฐบาล ทีมงาน ไปซ่องสุมจับก๊วนกับนักธุรกิจใหญ่ในห้อง VVIP ที่ลี้ลับหลบสายตา คุยโครงการพันล้านหมื่นล้านอวดเด็ก ต่อไปหากกลับมาเปิดอีก คงมีรอบ 4 รอบ 5

ล่าสุด วันที่ 8 เม.ย.2564 ที่โรงแรมเดวิสกรุงเทพ สุขุมวิท24 นายชูวิทย์ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กรณีดังกล่าว ระบุว่า ‘คริสตัลคลับ’ เปรียบเสมือน ‘ไทยคู่ฟ้าคลับ’ เพราะมีคนใหญ่คนโตระดับประเทศไปเที่ยวกัน มีหลายโซนรองรับ ทั้งผับ บาร์ และโซนวีวีไอพี สำหรับแขกคนพิเศษ ที่รวมเป็น One Stop Service โดยมีเจ้าของเป็นนายทหารคนดัง อักษรย่อ อ. หรือ อ๊อด

ซึ่งการไปสถานที่แบบนี้ทั้งผู้ประกอบอาชีพ และแขกสามารถทำได้ตามหลักสิทธิมนุษยชน แต่ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 นี้ เมื่อไม่ได้ระวังตัวและผิดพลาดไปแล้วต้องยอมรับ และออกมาเปิดเผยไทม์ไลน์ สู่สาธารณชน เพราะไม่ใช่เรื่องน่าอาย เมื่อปัญหาเกิดขึ้นแล้วจะส่งผลกระทบในวงกว้าง ทำให้ชาวบ้านและคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง ต้องได้รับความเดือดร้อนและขาดรายได้ไปด้วย เช่น วินมอเตอร์ไซค์ แท็กซี่ พนักงานเสริฟในร้านอาหาร และอื่นๆ

นายชูวิทย์ บอกว่า ที่ออกมาพูดเรื่องนี้ เพราะต้องการเรียกร้องให้ฝั่งรัฐมนตรีและคณะ เปิดเผยไทม์ไลน์ที่แท้จริงออกมา เพื่อเป็นตัวอย่างให้สังคมและประชาชน ซึ่งจะทำให้เกิดความน่ายกย่องมากขึ้น ส่วนผู้มีตำแหน่งทางการเมือง ไม่จำเป็นต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก เพราะไม่ใช่เรื่องผิด และไม่ใช่สถานที่ผิดกฎหมาย แต่ควรออกมาขอโทษประชาชนที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในครั้งนี้

นายชูวิทย์ ยังกล่าวอีกว่า คลัสเตอร์ใหม่ รอบ 3 นี้ มีการแพร่กระจายเชื้อออกไปมากกว่าคลัสเตอร์ของดีเจมะตูม เพราะรอบนี้ระบาดในกลุ่มคนรวย และผู้นำประเทศ ที่ต้องพบปะผู้คนจำนวนมาก

นอกจากนี้ ยังบอกด้วยว่า มีหลักฐานเป็นภาพถ่ายทะเบียนรถของรัฐมนตรี ที่เข้าไปจอดยังลานจอดรถวีวีไอพี ในช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยได้เปิดคลิปบรรยากาศ ให้เห็นว่า ภายในสถานบันเทิงดังกล่าว มีกิจกรรมอย่างไรบ้าง และมีความใกล้ชิดและเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดได้ง่าย

ส่วนกรณีที่รัฐบาล โดย ศบค.มีมาตราการให้สถานบันเทิงที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในครั้งนี้ ปิดเป็นระยะเวลา 14 วัน นายชูวิทย์ ระบุว่า สถานบันเทิงที่เป็นลักษณะแบบนี้ไม่ได้มีเพียงในเขตกรุงเทพฯ เท่านั้น แต่มีในพื้นที่อื่นอีกมาก ทั้ง เชียงใหม่ ขอนแก่น พิษณุโลก และ อีกหลายๆ พื้นที่ ส่วนตัวมองว่า รัฐบาลควรมีมาตราการการป้องกันที่แน่วแน่และมั่นคง ถึงจะสามารถควบคุมโควิด-19 ได้จริง ที่สำคัญคือ ควรจำกัดในสิ่งที่ควรจำกัด ถ้าควบคุมป้องกันไม่ได้ ต่อให้ปิด 14 วัน แล้วกลับมาเปิดอีก ก็ไม่สามารถควบคุมได้เหมือนเดิม