SHARE

คัดลอกแล้ว

กระทรวงสาธารณสุขยืนยันคนไทยที่ติดเชื้อโควิด-19 ทุกคนจะต้องได้รับการรักษาฟรี มีเตียงรองรับทั้งโรงพยาบาลรัฐ เอกชน และมี Hospitel เสริม หากตรวจพบเชื้อแล้วยังไม่ได้เตียง โทรสายด่วนกรมการแพทย์ 1668 หรือ สายด่วน สปสช. 1330 ขอความร่วมมือทุกคนที่ป่วย แม้ไม่มีอาการให้เข้ารับการรักษาตามระบบ ป้องกันการแพร่เชื้อสู่ครอบครัวและผู้ที่อยู่ใกล้ชิด

นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์

วันที่ 12 เมษายน 2564 นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ แถลงข่าวในประเด็นการบริหารจัดการเตียงสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด 19 ว่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้นโยบายว่า ผู้ติดเชื้อโควิดทุกรายควรได้รับการรักษาในโรงพยาบาล ซึ่งกรมการแพทย์เป็นหน่วยงานหลักที่บริหารจัดการเตียงสำหรับผู้ติดเชื้อ โดยทุกโรงพยาบาลทั้งภาครัฐ และเอกชน ได้ทำงานเป็นเครือข่าย จัดทำข้อมูลเตียงผ่านระบบคอมพิวเตอร์ (Co-Ward) ในการบริหารจัดการเตียงร่วมกัน ข้อมูล ณ วันที่ 11 เมษายน 2564 ทั่วประเทศ มีเตียงรองรับผู้ติดเชื้อโควิด 19 ทั้งจากโรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม และ Hospitel ทั้งหมด 23,483 เตียง ว่างอยู่ 18,257 เตียง สำหรับภาพรวมในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล มีเตียงรองรับทั้งหมด 4,454 เตียง ว่างอยู่ 2,056 เตียง หากรวมเตียงสนามและ Hospitel ที่ได้รับความร่วมมือจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพและภาคเอกชน ที่ขณะนี้ว่างอยู่ อีก 944 เตียง จะสามารถรองรับผู้ติดเชื้อโควิด 19 ได้ทั้งหมด 3,000 เตียง ขอให้ความมั่นใจว่าผู้ติดเชื้อทุกคนไม่ว่าจะเป็นสิทธิการรักษาจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ประกันสังคม หรือสิทธิข้าราชการ จะต้องได้รับการรักษาฟรี จากทุกโรงพยาบาล ยกเว้นผู้ที่มีประกันสุขภาพ โรงพยาบาลจะคิดค่ารักษาจากประกันก่อน

นพ.สมศักดิ์กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ประสานความร่วมมือกับโรงพยาบาลเอกชนให้มีการบริหารจัดการเตียงเป็นเครือข่าย หากตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลเอกชนจะเข้ารักษาที่โรงพยาบาลเอกชนก่อน และจะมี Hospitel ซึ่งใช้ห้องพักโรงแรมทำเป็นโรงพยาบาล มีโรงพยาบาลคู่ขนานดูแลผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย และไม่มีอาการแทรกซ้อน มีแพทย์ พยาบาล ประจำ ประเมินอาการทุกวัน หากอาการแย่ลง จะส่งเข้ารักษาในโรงพยาบาลทันที นอกจากนี้ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกับ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จัดทำสายด่วน เพื่อรองรับสถานการณ์ และจัดการเตียงสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล ได้แก่ สายด่วนกรมการแพทย์ (เฉพาะกิจ) 1668 รับสาย 08.00-22.00 น. ทุกวัน และสายด่วน สปสช. 1330 รับสายตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน นอกจากนี้ กรุงเทพมหานคร โดยศูนย์เอราวัณ ได้เพิ่มสายด่วน 1669 ร่วมกันประสานหาเตียงให้กับผู้ติดเชื้อโควิด 19

“ขอความร่วมมือผู้ที่ได้รับการตรวจว่าติดเชื้อโควิด 19 แล้ว ทุกคนให้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล แม้จะไม่มีอาการ เนื่องจากอาจไม่เคร่งครัดการแยกตัวจากผู้อื่น และอาจพบอาการปอดอักเสบได้ในระยะหลัง ส่วนผู้ที่อยู่ระหว่างการรอผลการตรวจให้เคร่งครัดมาตรการ สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ ป้องกันการแพร่เชื้อสู่ครอบครัวและผู้ที่อยู่ใกล้ชิด” นพ.สมศักดิ์กล่าว

นพ.สมศักดิ์กล่าวต่อว่า สำหรับประเด็น ผู้ติดเชื้อที่อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์นั้น ส่วนใหญ่ (มากกว่า 2 ใน 3)ของหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อไม่แสดงอาการ อาจพบอาการรุนแรงได้ในหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะอ้วน อายุมาก มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือครรภ์เป็นพิษ ข้อมูลจากกกรมอนามัย พบว่าหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อจำนวน 60 ราย ยังไม่พบรายใดที่มีอาการรุนแรงหรือเสียชีวิต ส่วนการติดเชื้อจากแม่สู่ลูกข้อมูลจากทั่วโลกพบได้เพียงร้อยละ 2 – 5 และทารกมีโอกาสคลอดก่อนกำหนด ประมาณร้อยละ 15.1 และยังไม่มีหลักฐานชัดเจนเรื่องการแท้งบุตร อย่างไรก็ตามควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษจากสูติ-นรีแพทย์ ส่วนหญิงตั้งครรภ์ที่ไม่ได้ติดเชื้อ ขอให้เข้ารับการฝากครรภ์ตามปกติ ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเอง สวมหน้ากาอนามัย ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่างจากผู้อื่น หลีกเลี่ยงสถานที่แออัดหรือสถานที่ชุมชน อย่างเคร่งครัด

https://fb.watch/4QGTPeJZAm/

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า