นายกฯ ปัดรัฐบาลผูกขาดวัคซีน เผยนำเข้าวัคซีนไฟเซอร์ ตั้งแต่ ก.ค.-สิ้นปี 64 ประมาณ 5-10 ล้านโดส

นายกฯ ลั่น รัฐบาลผูกขาดวัคซีนเป็นไปไม่ได้ แจงต้องติดต่อแบบรัฐต่อรัฐ ไม่เหมือนซื้อยาทั่วไป เผยเจรจานำเข้าวัคซีนไฟเซอร์ ตั้งแต่ ก.ค.-สิ้นปี 64 ประมาณ 5-10 ล้านโดส วอนประชาชนเข้าใจ ต้องรักษาเตียง รพ.รัฐ-เอกชนให้ผู้ป่วยหนัก

วันที่ 20 เม.ย. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงกระแสโจมตีรัฐบาลกรณีโรงพยาบาลเอกชนอยากนำเข้าวัคซีนแบ่งเบาภาระรัฐบาล  แต่รัฐบาลยังไม่เปิดโอกาสให้นำเข้าวัคซีนเองว่า ที่ผ่านมาก็ได้ตอบสนองแล้ว ไม่ใช่ไม่ทำอะไรเลย โดยกระทรวงสาธารณสุขพิจารณาดำเนินการมาตลอด และตั้งคณะกรรมการฯ ขึ้นมาเพื่อหารือกับสมาคมโรงพยาบาลเอกชน รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญทั้งหลาย เพื่อให้ข้อมูลและดำเนินการเพื่อให้ได้วัคซีนทางเลือกเข้ามา ทั้งนี้ วัคซีนผลิตโดยบริษัทเอกชน การจะนำออกมาก็ต้องขออนุญาตรัฐบาลตัวเองเช่นกัน ซึ่งเราก็มีการติดต่อรัฐบาลต่อรัฐบาลด้วย ทั้งนี้ ที่รับวัคซีนมาในช่วงแรก เราสั่งมาในฐานะที่เราสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ดีมากในระยะที่ 1 จึงมีการจัดหาวัคซีนมาตามความจำเป็น และไม่อยากทำให้ประชาชนมีความเสี่ยงในกรณีที่วัคซีนเหล่านั้นยังไม่ได้รับการพิสูจน์ทราบ แต่วันนี้เมื่อพิสูจน์ทราบมาแล้ว ตนก็เปิดโอกาสและช่องทางให้หลายบริษัทได้เข้ามาเสนอความต้องการที่จะขายวัคซีนให้กับเรา และต้องหาว่าเราจะซื้อได้อย่างไร เนื่องจากเป็นการติดต่อระหว่างรัฐต่อรัฐในสถานการณ์ฉุกเฉิน ยืนยันว่า เราพร้อมรับวัคซีนมาในขณะนี้ แต่ต้องไปดูระหว่างภาคเอกชนที่ผลิตและรัฐของเขาด้วย

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า วัคซีนที่จะนำเข้ามาในวันที่ 24 เม.ย. 2564 นั้น บริษัท ซิโนแวค 5 แสนโดส และเดือน พ.ค. 2564 อีก 1 ล้านโดส ซึ่งในส่วนนี้ต้องรอนโยบายของรัฐบาลจีนด้วย นอกจากนี้ บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ที่ผลิตในประเทศไทย จะเริ่มส่งวัคซีนในช่วงเดือน มิ.ย. 2564 จำนวน 4-6 ล้านโดส นอกจากนี้ สถาบันวัคซีนเปิดเผยว่า กำลังเจรจากับบริษัท ไฟเซอร์ และมีความเป็นไปได้ที่จะส่งเข้ามาได้ในช่วงเดือน ก.ค. จนถึงสิ้นปี 2564 ประมาณ 5-10 ล้านโดส แต่ยังอยู่ในระหว่างการเสนอราคาและเงื่อนไข ทั้งนี้ ยืนยันว่า เป็นไปไม่ได้ที่รัฐบาลผูกขาดไม่เปิดทางให้เอกชน ตนไม่เคยคิดเรื่องนี้เลย แต่เพียงว่าทำอย่างไรให้ปลอดภัยและจัดหาได้ แต่เราไม่สามารถไปซื้อเหมือนกับไปซื้อยาปกติทั่วไปได้ เพราะเป็นวัคซีนที่ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน รวมทั้งผู้ผลิตเอกชนก็ต้องรับผิดชอบในกรณีที่เกิดผลกระทบหรือผลข้างเคียง ดังนั้น จึงจำเป็นต้องเป็นรัฐที่ต้องเป็นผู้จัดหา เชื่อว่าต่อไปก็จะคลี่คลายตรงนี้ไปได้

สำหรับการติดตามดำเนินคดีแหล่งแพร่ระบาด ตั้งแต่กรณีขบวนการลักลอบค้าแรงงานข้ามชาติผิดกฎหมาย บ่อน จ.ระยอง สถานบันเทิง จนถึงการจัดชกมวยที่ อ.จะนะ จ.สงขลานั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ตนได้กำชับสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้พิจารณาโทษและได้ลงโทษไปบ้างแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องการตรวจสอบต่อไปเพื่อหาถึงเจ้าของที่แท้จริงของสถานบริการต่างๆ เหล่านั้น เพื่อมาดำเนินคดีต่อไป ยืนยันว่า ให้มีการสอบสวนแหล่งการแพร่ระบาดทุกกรณี

ส่วนกรณีที่มีบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อจำนวนมากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องเข้าใจว่าติดมาอย่างไร เพราะคงไม่ได้ไปเที่ยวเตร่ที่ไหนมา จึงต้องเห็นใจบุคลากรทางการแพทย์ต่างๆ เหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำรวจ ที่ไปดูแลเรื่องการตรวจจุดสกัด ดูแลผู้ชุมนุม ที่มีการแพร่ระบาดแล้วติดเชื้อมา ก็ต้องเห็นใจและดูแลเขา ไม่อยากให้สร้างภาระให้เจ้าหน้าที่อีก เรื่องที่ไม่จำเป็น เรื่องที่ต้องใช้คนจำนวนมากลงไปดูแลใกล้ชิดกัน ซึ่งต้องรักษาบุคลากรทางการแพทย์ให้ได้มากที่สุด

สำหรับแผนการจัดหายาฟาวิพิราเวียร์นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หลายคนเข้าใจว่าขาดแคลน แต่รัฐบาลมีการจัดเตรียมแผนสำรองไว้แล้วโดยกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งยาดังกล่าวไม่ใช่ยาที่กินแล้วจะป้องกันโควิด วัคซีนก็เป็นวัคซีนที่สร้างภูมิต้านทานในตัวเราให้เข้มแข็งขึ้น เมื่อภูมิเข้มแข็งขึ้นก็สามารถต้านทานโรคนี้ได้พอสมควร และไม่ไปแพร่เชื้อให้คนอื่น อย่างไรก็ตาม จะต้องใช้มาตรการเดิมที่มีอยู่คือ การสวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือ โดยบางพื้นที่มีการกำหนดบทลงโทษผู้ที่ไม่สวมหน้ากากอนามัย ซึ่งตนไม่อยากให้ประชาชนต้องเดือดร้อนตรงนี้ แต่บางทีก็จำเป็นเหมือนกันไม่เช่นนั้นประชาชนก็ประมาท ทำให้การแก้ไขปัญหายากขึ้นเรื่อยๆ ตนโทษใครไม่ได้อยู่แล้ว เป็นเรื่องที่เราทุกคนต้องไม่โทษซึ่งกัน และต้องร่วมมือซึ่งกันและกัน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ตนได้เน้นย้ำเรื่องโรงพยาบาลสนามว่า ต้องทำความเข้าใจกับประชาชนว่า จะต้องเตรียมให้ได้ทุกพื้นที่ พร้อมทั้งขอความร่วมมือประชาชนให้เข้าใจตรงกันว่า หลายคนอยากเข้าโรงพยาบาลรัฐหรือเอกชน แต่เตียงไม่เพียงพอ ต้องรักษาเตียงไว้ให้กับผู้ป่วยที่มีอาการหนัก จึงต้องมีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ซึ่งมีเตียงว่างอยู่จำนวนมากพอสมควร และพร้อมที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่ อาจอยู่ไกลบ้านบ้างก็ขอให้เข้าใจ จะไปดึงดันเข้าโรงพยาบาลรัฐหรือเอกชนอย่างเดียวคงไม่ได้ และขอบคุณเอกชนที่ให้ความร่วมมือสนับสนุนอุปกรณ์ต่างๆ เราจะต้องข้ามผ่าน โควิดไปให้ได้ด้วยความร่วมมือร่วมใจของคนไทยทุกคน