Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

นายกฯ ตรวจความพร้อม รพ.สนาม เอราวัณ 2 แจงดูแลดี เป็นตนก็นอน จวกกลางวง ให้คนโทรสายด่วน แต่กลับไม่มีคนรับ สั่งกลาโหมนำรถทหารช่วยรับผู้ป่วยโควิด ปัดขัดแย้ง ‘อนุทิน’ ฉุนคนหยิบครอบครัวสายไหมติดโควิดมาบิดเบือน

วันที่ 21 เม.ย. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ในฐานะ ผอ.ศปก.ศบค. ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมของโรงพยาบาลสนาม เอราวัณ 2 สนามบางกอกอารีนา เขตหนองจอก เพื่อเตรียมรองรับผู้ป่วยโควิด-19 โดยมี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมคณะผู้บริหาร กทม.ให้การต้อนรับ ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวช่วงหนึ่งว่า ขอให้ทุกคนทุกฝ่ายประสานงานอย่างใกล้ชิด เพื่อวางแผนกำหนดการทำงานล่วงหน้า รองรับกับสถานการณ์ที่จะเกิดในอนาคต มีการประสานงานในส่วนของโรงพยาบาลสนามกับโรงพยาบาลอื่นๆ ในกรณีที่ผู้ติดเชื้อมีอาการป่วย หรือจัดเป็นผู้ที่อยู่ในกลุ่มสีเหลือง ให้มีความชัดเจนรวดเร็ว และมีความปลอดภัยตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ขณะเดียวกัน ได้สั่งการให้กระทรวงกลาโหม นำรถพยาบาลจากโรงพยาบาลทหาร และค่ายทหารต่างๆ ออกมาช่วยทำงานแก้ไขสถานการณ์ในขณะนี้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขและ กทม.

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่เป็นปัญหาปัจจุบันคือการให้บริการ ซึ่งวันนี้ถูกต่อว่าอย่างมาก โดยเฉพาะปัญหาในการรับแจ้งผ่านสายด่วน โดยตนให้คนโทรไป แต่กลับไม่มีคนรับสาย ซึ่งไม่ได้จับผิด แต่ไม่มีคนรับจริงๆ มันเกิดอะไรขึ้น ต้องไปแก้ตรงนี้ และจะให้กระทรวงกลาโหมช่วยด้วย นอกจากนี้ เรื่องรถรับส่งผู้ป่วย ตนทราบว่าโรงพยาบาลเอกชนไม่ค่อยอยากรับ เพราะเตียงเต็ม ในฐานะที่ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการให้รวบรวมรถพยาบาลของทหาร จากโรงพยาบาลและค่ายทหาร มารับส่งผู้ป่วยโควิดเพื่อไปร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้ (20 เม.ย. 2564) ตนไม่สบายใจที่มีการออกข่าวผู้ป่วยที่อยู่หมู่บ้านที่สายไหมมีการติดเชื้อโควิดทั้งบ้าน แล้วมีผู้นำเรื่องนี้ไปใช้ประโยชน์และบิดเบือน ตนไม่อยากให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก จะทำอย่างไรก็ได้ให้ประชาชนรู้ว่า ถ้ามาแจ้งในจุดนี้ไม่ได้แล้วจะแจ้งอย่างไรต่อ เพราะบางทีมีประชาชนที่ยังเข้าไม่ถึง ติดต่อผ่านโรงพยาบาลใกล้บ้าน แต่ถามไปแล้วโรงพยาบาลก็ยังไม่ตอบ จนต้องอยู่ในบ้านและติดเชื้อทั้งบ้าน ซึ่งเรื่องนี้วนกลับมาที่รัฐบาลต้องแก้ปัญหา

“การระบาดครั้งนี้ไม่ใช่ความบกพร่องของ ศบค. เป็นการทำงานร่วมกันของนายกฯ และรัฐมนตรี ซึ่งผมไปสั่งการในส่วนของกลาโหม หากมีปัญหาขึ้นมาก็รับผิดชอบไม่ไหว วันนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือ ไม่ทำให้เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ติดเชื้อโควิดเพิ่ม คนที่เข้ามาทำงานก็จะหายไปเรื่อยๆ ขอให้กำลังหมอและพยาบาลทุกคนที่ทำงานหนัก เปรียบเหมือนการสู้รบกับสิ่งที่จับต้องไม่ได้ มองไม่เห็น ไม่มีใครรู้ แต่หวังว่าสิ่งที่เราทำวันนี้จะเป็นสิ่งที่เกื้อหนุนให้การทำงานประสบความสำเร็จ ได้บุญกุศล ดูแลประชาชนทั้งประเทศในเรื่องสาธารณสุข อย่างไรก็ตาม ผมไม่เคยตำหนินายอนุทิน ไม่ได้มีอะไรสักนิด ไม่ได้ไปตำหนิอะไรเขาสักอย่าง ถามพี่หนูสิ ผมไม่เคยตำหนิเขาสักอย่าง ไม่เคยไปเล่นงาน คุยกันธรรมดา คุยกันทุกเรื่อง ขอให้ทุกคนอย่าขัดแย้งกันโดยเด็ดขาด ผมจะทำงานให้ท่านได้ ถ้าไม่ขัดแย้งกัน” นายกรัฐมนตรีกล่าว

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้สอบถามปลัดกระทรวงสาธารณสุขว่า มีรถพยาบาลให้บริการเท่าไหร่ พร้อมทั้งเสนอว่า ถ้าไม่เพียงพอ จะให้นำรถพยาบาลของทหารเสนารักษ์มาช่วย และถ้ายังไม่เพียงพออีก ก็จะนำรถสิบล้อทหารมาช่วยด้วย

พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการตรวจเยี่ยมว่า วันนี้มีความพอใจในการเตรียมการ ทราบว่ามีการเตรียมการเช่นนี้ในหลายพื้นที่ โดยวันนี้รองรับได้ 3,000 เตียง ต้องเข้าใจตรงกันว่าผู้ป่วยมี 3 ระดับคือ สีแดง เหลือง และเขียว ซึ่งคนที่มาอยู่ที่โรงพยาบาลสนามคือสีเขียว แต่ต้องกักตัว 14 วัน ดังนั้น ต้องอดทน จะได้ปลอดภัย ส่วนสีเหลืองและสีแดงต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาล นอกจากนี้ ยังเตรียม hospitel อีก และหากโรงแรมใดมีความพร้อม เสนอความต้องการมาได้เลย  รัฐบาลยินดี จะได้ดูแลเศรษฐกิจของโรงแรมด้วย ถือว่าช่วยกัน 2 ทาง ทั้งนี้ ยืนยันว่า รัฐบาลมีความพร้อมในการรับสถานการณ์ แม้ดูรุนแรงขึ้น ขอดูและพิจารณาระยะหนึ่งก่อนว่า จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มหรือลดลง ซึ่งหากควบคุมได้ก็จะเป็นไปตามขั้นตอนต่อไป ในเรื่องการฉีดวัคซีนต่างๆ ยืนยันว่า การนำเข้าวัคซีนไม่ได้ช้าเกินไป และการฉีดก็เป็นไปตามระยะ โดยต้องกระจายไปทุกจังหวัดตามพื้นที่ความเสี่ยง อย่าลืมว่า ต้องเตรียมในเข็มที่ 2 ด้วย ซึ่งวันนี้เกือบทั้งโลกมีปัญหาเรื่องวัคซีนเหมือนกัน เราเปิดเสรีนำเข้าได้ แต่ต้องผ่านกติกา เพราะเป็นการใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ไม่มีใครรับผิดชอบได้นอกจากรัฐบาล

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ขอบคุณภาคเอกชนที่พร้อมช่วยรัฐบาล ยืนยันว่ารัฐบาลทำอย่างเต็มที่ในการทำให้พี่น้องประชาชนปลอดภัย แต่อยากให้ฟังช่องทางจากรัฐบาลด้วย และตั้งใจฟัง เพราะบางเรื่องสลับซับซ้อน หากติดตามจากที่อื่นๆ จะทำให้เกิดความสับสน ไม่ฟังรัฐบาลก็เป็นปัญหา ซึ่งตนไม่โทษใคร แต่อะไรไม่ดีก็รับผิดชอบ อะไรก็ตามเข้ามาในประเทศไทยที่เป็นปัญหา ไม่ปลอดภัย รัฐบาลนี้จะดูแลและแก้ปัญหาให้ประชาชนอย่างดีที่สุด แต่อะไรที่ไม่เป็นประโยชน์อ่านได้ แต่ถ้าเชื่อทั้งหมดคงไม่ใช่ ย้ำว่ารัฐบาลทำเต็มที่แล้ว และสามารถทำได้มากกว่านี้ ซึ่งถ้ามาตรการต่างๆ คุมไม่อยู่ก็ต้องแรงขึ้นอีก แต่ทุกคนไม่อยากถึงจุดนั้น ตนเห็นใจประชาชน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย รัฐบาลจะมีการเตรียมการมาตรการด้านเศรษฐกิจต่อไป ต้องขอเวลาอีกระยะ ซึ่งมีหลายคนเสนอง่ายๆ ให้แจกเงิน คงไม่ได้ทั้งหมด เพราะงบประมาณที่มีก็จำกัด

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการยกระดับเพื่อควบคุมสถานการณ์หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถ้าภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ตัวเลขดีขึ้น ถือว่าเราสามารถควบคุมได้ ต้องมีการประเมินเป็นระยะๆ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการรายงานมาให้ตนทุกวัน พร้อมทั้งส่งกราฟตัวเลขมาตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งตนได้ย้ำเตือนหลายๆ เรื่อง ไม่มีอะไรสมบูรณ์ 100 % อย่างน้อยทำได้ 80-90% ดีกว่าไม่ถึงเลย ย้ำว่าวันนี้วัคซีนเรายังนำเข้าได้อยู่ ในขณะที่หลายประเทศยังมีปัญหา และโรงพยาบาลสนามถือว่าเราดูแลดีที่สุดแล้ว หากเป็นตน ตนก็อยู่ เพราะมีการดูแลดี ในขณะที่บางประเทศที่ติดเยอะๆ นอนเตียงละสองคน

สำหรับกรณีที่กำชับในเรื่องสายด่วนว่าไม่มีคนรับสายนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้ย้ำไปแล้ว วันนี้จะให้กระทรวงกลาโหมช่วยด้วย ต้องมีคนรับสาย เพิ่มคู่สาย และช่วยในเรื่องรถพยาบาล ซึ่งตนลองโทรก็มีปัญหา ก็ต้องแก้ และต้องไปดูว่าที่โรงพยาบาลไม่รับเพราะอะไร เต็มหรือไม่ แต่วันนี้ถือว่ายังรับไหว ซึ่งต้องขอความร่วมมือและขอบคุณโรงพยาบาลด้วย สิ่งสำคัญวันนี้คือ การบริหารความเข้าใจและความรู้สึก

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า