Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ศบค.เผย ติดเชื้อรายใหม่ทะลุ 2 พันรายครั้งแรก เสียชีวิตเพิ่มอีก 4 ราย เปรยอาจต้องมีไอซียูสนาม หลังเตียงไอซียูเพียงพออีกแค่ 1 สัปดาห์ เตียงผู้ป่วยใน รพ.เหลือ 1,000 เตียง รองรับได้อีก 19 วัน มอบ สธ.บริหารจัดการภาวะเร่งด่วน

วันที่ 23 เม.ย. 2564 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,070 ราย แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อภายในประเทศ 2,062 ราย และผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 8 ราย โดยผู้ติดเชื้อภายในประเทศมาจากระบบบริการ 1,902 ราย และการค้นหาเชิงรุก 160 ราย รวมยอดผู้ติดเชื้อยืนยันสะสม จำนวน 50,183 ราย ซึ่งกำลังรักษาตัว 19,783 ราย แบ่งเป็นรักษาตัวในโรงพยาบาล 15,642 ราย และรักษาตัวอยู่ภายในโรงพยาบาลสนามและอื่นๆ 4,231 ราย โดยอาการหนัก 352 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 91 ราย อย่างไรก็ตาม มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 4 ราย รวมยอดผู้เสียชีวิต 121 ราย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า สำหรับผู้เสียชีวิตรายที่ 118 เป็นชายไทย อายุ 72 ปี อยู่ที่กรุงเทพฯ ไม่มีโรคประจำตัว มีอาการไข้ไอ เจ็บคอ และถ่ายเหลว ต่อมาอาการไม่ดีขึ้น ไปรักษาที่โรงพยาบาลพบปอดอักเสบ ก่อนที่แพทย์จะใส่ท่อช่วยหายใจและเสียชีวิต รายที่ 119 เป็นชายไทย อายุ 74 ปี อยู่ที่ จ.สงขลา มีโรคประจำตัวความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ  ผลพบเชื้อเข้ารักษาที่โรงพยาบาล ต่อมาเอกซเรย์พบปอดอักเสบมากขึ้น หัวใจหยุดเต้น ทำการกู้ชีพและเสียชีวิต รายที่ 120 เป็นหญิงไทย อายุ 29 ปี อยู่ที่ จ.สมุทรปราการ โรคประจำตัวโรคอ้วน มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ต่อมามีภาวะหัวใจล้มเหลว ปอดอักเสบติดเชื้อรุนแรง และเสียชีวิต และรายที่ 121 เป็นชายไทย อายุ 83 ปี อยู่ที่ จ.สมุทรปราการ โรคประจำตัวเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไตเรื้อรัง และโรคหัวใจ มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยัน ต่อมาผลพบเชื้อ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล อาการไม่ดีขึ้น พบปอดอักเสบรุนแรง ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ และเสียชีวิต

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ขณะที่สถานการณ์ผู้ติดเชื้อทั่วโลก ยอดผู้ติดเชื้อรวม 145,324,030 ราย อาการรุนแรง 110,090 ราย รักษาหายแล้ว 123,309,918 ราย เสียชีวิต 3,085,061 ราย อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 32,669,121 ราย 2.อินเดีย จำนวน 16,257,309 ราย 3.บราซิล จำนวน 14,172,139 ราย 4.ฝรั่งเศส จำนวน 5,408,606 ราย และ5.รัสเซีย จำนวน 4,736,121 ราย ขณะที่ประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 105 อย่างไรก็ตาม ที่น่ากังวลคือ อัตราผู้ติดเชื้อใหม่ในประเทศอินเดีย ที่มีเคสผู้ติดเชื้อรายใหม่กว่า 3 แสนคน เพราะเป็นประเทศที่มีคนจำนวนมาก ซึ่งในส่วนของเราเองต้องดูแลเข้มคนที่จะเข้ามาในประเทศด้วย ทั้งนี้ ที่ประชุม ศบค.รับแจ้งความเสี่ยงในกลุ่มก้อนสถานดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งมีผู้ช่วย พยาบาลสถานดูแลผู้สูงอายุแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ติดเชื้อจากสามี และเมื่อมาทำงานในสถานดูแลผู้สูงอายุก็ได้นำเชื้อมาติดหอผู้ป่วย ทำให้ผู้สูงอายุติดเชื้อ 2 ราย เป็นผู้ป่วยหญิงอายุ 88 ปี และผู้ป่วยชายอายุ 84 ปี ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียงทั้งคู่ ดังนั้น ได้กำชับให้สถานรับดูแลผู้สูงอายุทั้งรัฐและเอกชน มีแผนเตรียมความพร้อมและหาโรงพยาบาลร่วมดูแลกรณีพบผู้สูงวัยติดเชื้อ ขณะเดียวกันมีข่าวการติดเชื้อที่สถานปฏิบัติธรรมใน จ.เชียงใหม่ จึงได้กำชับในเรื่องการประกอบกิจกรรมทางศาสนาต่างๆ ต้องมีการประสานไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเพิ่มการป้องกันในกรณีอื่นๆ ที่มีกิจกรรมที่คล้ายๆ กัน

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวด้วยว่า ปลัดกระทรวงสาธารณสุขมีการประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อรับทราบถึงสถานการณ์ปัญหาทั้งหมด และมีการพยากรณ์เรื่องเตียงว่า จะมีการใช้เตียงอย่างไร โดยมีความห่วงใยว่าขณะนี้เตียงที่ต้องใช้ในไอซียูในกรุงเทพฯ มีทั้งหมด 262 เตียง ต้องมีการขยายหรือเติมเตียง ซึ่งวันนี้มีเตียงไอซียูว่างอยู่ 69 เตียง และห้องแยกความดันลบ มีเตียงทั้งหมด 479 เตียง ใช้ไป 410 เตียง ว่างอยู่ 69 เตียง ที่ประชุมจึงให้คิดไปข้างหน้าว่า ถ้ามีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น เตียงและทรัพยากรที่มีอยู่จะต้องถูกใช้หรือหมดไปอย่างไรบ้าง ทั้งนี้ มีการพยากรณ์ว่า หากมีการติดเชื้อประมาณ 1,500 รายต่อวัน มีการใช้เตียงเพิ่มขึ้นจำนวนมากทั้งประเทศประมาณ 12-15 เตียงต่อวัน ขณะที่กรุงเทพฯ ประมาณ 10-13 เตียงต่อวัน ซึ่งจะใช้ได้เต็มที่ประมาณ 6-8 วันข้างหน้า ตรงนี้เป็นมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขจะต้องรับไปบริหารจัดการในกรุงเทพฯ ขณะที่ในส่วนของประเทศไทยทั้งหมดตอนนี้มีเตียงทั้งหมดคงเหลือประมาณ 1,000 เตียง ซึ่งใช้ประมาณ 52 เตียงต่อวัน ดังนั้น จะรองรับได้ประมาณ 19 วัน หรือเกือบ 3 สัปดาห์ นี่คือสิ่งที่เป็นภาวะเร่งด่วน ตัวเลขเหล่านี้กระทรวงสาธารณสุขไม่นิ่งนอนใจ พยายามบูรณาการเตียงและบูรณาการทรัพยากรอย่างเต็มที่

ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้ตัวเลขแตะที่ 2,070 เป็นวันแรก จะส่งผลกระทบต่อสาธารณสุข ทั้งโรงพยาบาลสนาม บุคลากรทางการแพทย์ และยารักษาหรือไม่ ศบค.มีแผนรองรับอย่างไร นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า มีผลกระทบแน่นอน เรายังไม่รู้ปลายทางเป็นอย่างไร แต่เราได้ประเมินสถานการณ์หากภาวะวิกฤตรุนแรงมากๆ ว่าต้องทำอย่างไร ย้ำว่าตอนนี้เตียงไอซียูเพียงพอในระยะ 1 สัปดาห์ จึงต้องเร่งบริหารจัดการเพิ่มจำนวนเตียงเร่งด่วน และอาจเกิดลักษณะการปรับใช้พื้นที่ไอซียูกว้างขึ้น ปรับพื้นที่รองรับคนไข้ไอซียูมากขึ้น และอาจต้องมีไอซียูสนาม ซึ่งกำลังพูดคุยกัน แต่เรื่องนี้อาจมีความยุ่งยากในการปรับสถานที่ โดยโรงพยาบาลราชวิถีจะขยายเตียงรองรับในส่วนนี้ก่อน ยืนยันว่า เราพยายามเต็มที่ และผู้ป่วยหนักต้องได้รับการรักษา

สำหรับกรณีผู้ป่วยสีแดงที่ไม่ได้เตียงเร่งด่วน โดยมีข่าวว่ามีคุณยายท่านหนึ่งเสียชีวิตนั้น เกิดจากสาเหตุอะไร ซึ่งผู้ป่วยสีแดงมีช่องทางพิเศษตรงไหนที่จะแจ้งได้บ้าง นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ในนาม ศบค. กราบขออภัยทุกสายที่รอเข้ามา ทั้งผ่าน 1668 1669 และ 1330 วันนี้มีการพูดคุยกัน ใน ศบค. โดย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า ได้รับอนุญาตจากปลัดสาธารณสุขให้มาเป็นผู้บูรณาการเรื่องสายด่วน ซึ่งขณะนี้มีสายจำนวนมาก แต่ก็ยังไม่เพียงพอ จึงให้มีการปรับระบบ โดยผู้ที่โทรเข้ามาในรายที่มีผลการติดเชื้อยืนยันจริงๆ จะให้ฝากเบอร์โทรศัพท์และข้อมูลสำคัญไว้ โดยวันนี้จะจัดชุดคู่สายขึ้นมาอีก 1 ทีม 50 เบอร์ เพื่อโทรกลับไปหาผู้ที่แจ้งข้อมูล เพื่อแยกแบ่งกลุ่มสีแดง เหลือง และเขียว อย่างไรก็ตาม วันนี้ทราบว่ามีผู้ป่วยรอเตียง 1,423 รายที่อยู่ในระบบ จะได้รับการติดต่อกลับไปทั้งหมด ซึ่งเมื่อวานนี้ (22 เม.ย.) รับรักษาแล้ว 474 คน

“วันนี้กลุ่มสีเขียวที่มีอาการไม่หนัก ต้องหาสถานที่ให้อยู่ก่อนเพื่อไม่ให้แพร่เชื้อสู่ผู้อื่น แต่ปัญหาหนักคือ ในส่วนของกลุ่มสีเหลืองและสีแดงที่เตียงไม่พอ จึงต้องขอให้อดทนอีกนิด ยืนยันว่าเราพยายามเต็มที่ สุดความสามารถ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ไม่สบายใจคือ มีหลายคนเผยแพร่ภาพและตั้งคำถามว่า นี่หรือสายด่วนดูแลสุขภาพ ซึ่งเป็นภาพโต๊ะเอกสาร ซึ่งภาพมีหลายมุม แต่มุมที่นำเสนอออกไปทำให้บั่นทอนกำลังใจคนทำงาน ในยามนี้มีแต่กำลังใจให้กัน ซึ่งไม่มีใครมีเจตนาไม่ดี มีแต่ทุกคนอยากทำให้ดีที่สุด และทุกคนทำงานไม่มีวันหยุด นอกจากนี้ เรื่องวัคซีน นายกรัฐมนตรีในฐานะ ผอ.ศบค. ได้หาหนทางเพิ่มวัคซีนยี่ห้ออื่นๆ รวมถึงวัคซีนของรัสเซียที่จะเข้ามาหลังจากนี้ด้วย”นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า