สหรัฐฯ เผยยังไม่ต้องใช้วัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าเร็วๆ นี้ เตรียมส่งให้ชาติอื่น 60 ล้านโดส

ทำเนียบขาวยืนยันยังไม่ต้องใช้วัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าในช่วงนี้ ย้ำมีวัคซีนตัวอื่นเพียงพอสำหรับฉีดให้ประชากรแล้ว

วันที่ 26 เม.ย. 2564 เว็บไซต์เอ็นบีซีนิวส์ (NBC News) รายงานว่า รัฐบาลสหรัฐฯ มีแผนที่จะส่งวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่พัฒนาโดยแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) ให้กับชาติที่ต้องการใช้งานเป็นจำนวน 60 ล้านโดส เนื่องจากวัคซีนยี่ห้อดังกล่าวยังไม่ได้รับอนุมัติให้ใช้งานในสหรัฐฯ และเชื่อมั่นว่ามีวัคซีนตัวอื่นเพียงพอสำหรับฉีดให้กับประชากร

แอนดี้ สลาวิตต์ ที่ปรึกษาทำเนียบขาวด้านโควิด-19 เปิดเผยผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า สหรัฐฯ จะส่งวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 60 ล้านโดสให้กับประเทศอื่นๆ ทันทีที่วัคซีนเหล่านี้พร้อม พร้อมชี้แจงว่าขณะนี้สหรัฐฯ มีอยู่ในครอบครองเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และไม่ได้กักตุนไว้แต่อย่างใด

ตามรายงานระบุว่า ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้พูดคุยกับ นายกรัฐมนตรี นเรนทร โมที ของอินเดียเมื่อวันจันทร์ โดยสหรัฐฯ จะส่งความช่วยเหลือในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ให้ออกซิเจน วัตถุดิบสำหรับใช้ผลิตวัคซีน ชุดตรวจหาเชื้อ Rapid Test และยาเรมเดซิเวียร์ (Remdesivir) เพื่อใช้ในการรักษา

ด้านโฆษกทำเนียบขาว เจน ซากี บอกกับสื่อว่า ปัจจุบันสหรัฐฯ มีวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าในครอบครอง 10 ล้านโดส และคาดว่าจะได้รับอีก 50 ล้านโดสในเดือนพ.ค.-มิ.ย. เนื่องจากวัคซีนตัวนี้ยังไม่ได้รับอนุมัติให้ใช้งานในสหรัฐฯ พวกเขาจึงไม่ต้องใช้ในอีกหลายเดือนต่อจากนี้ และทางองค์การอาหารและยาจะเป็นผู้ยืนยันถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ก่อนจะส่งต่อไปยังประเทศอื่นๆ

ทางรัฐบาลสหรัฐฯ เชื่อว่าพวกเขามีวัคซีนของไฟเซอร์ (Pfizer) และโมเดอร์นา (Moderna) เพียงพอสำหรับฉีดให้กับประชากรของตนเองแล้ว โดยทำข้อตกลงกับทั้งสองบริษัทไว้ว่าจะได้รับวัคซีน 600 ล้านโดสภายในเดือนก.ค. อีกทั้งยังมีวัคซีนของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (Johnson and Johnson) ที่สัปดาห์นี้เริ่มนำมาใช้อีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ระงับใช้งานเป็นการชั่วคราว เพื่อตรวจสอบกรณีที่มีรายงานเกิดผลข้างเคียงเป็นอาการลิ่มเลือดหลังได้รับวัคซีน