‘เพื่อไทย’ ออกแถลงการณ์ จี้รัฐเร่งดำเนินมาตรการด้านสาธารณสุขและเศรษฐกิจ

‘เพื่อไทย’ ออกแถลงการณ์ จี้รัฐเร่งดำเนินมาตรการด้านสาธารณสุขและเศรษฐกิจ ชี้ต้องไม่มีผู้ป่วยรอเข้าสู่ระบบจนเสียชีวิตเกิดขึ้นอีก แนะเยียวยาเป็นเงินสด 5 พัน 3 เดือน แบบเฉพาะเจาะจง อย่าเหวี่ยงแห

วันที่ 27 เม.ย. 2564 พรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์ว่า สถานการณ์การระบาดของโควิดระลอกที่ 3 สร้างความเสียหายต่อประเทศทั้งทางด้านสาธารณสุข สุขภาพของประชาชน และสภาวะเศรษฐกิจ ที่ผ่านมา การรับมือโควิด-19 ของรัฐบาลผิดพลาด ล้มเหลว และไร้ประสิทธิภาพ พรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการดังต่อไปนี้ 1.ด้านสาธารณสุข รัฐบาลต้องเร่งแก้ไขปัญหาผู้ป่วยตกค้างที่รอเข้าสู่ระบบการรักษา และต้องไม่มีเหตุการณ์ผู้ป่วยรอเข้าสู่ระบบจนเสียชีวิตเกิดขึ้นอีก ต้องให้ความสำคัญกับปัญหาคอขวดด้าน ICU และอุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับรองรับผู้ป่วยหนัก เพื่อป้องกันการเสียชีวิตของประชาชน ต้องบริการจัดการระบบโลจิสติกส์ด้านการตรวจเชื้อ การเข้ารักษาในโรงพยาบาล ปัญหาเตียงเต็ม ให้เป็นระบบ โดยใช้ฐานข้อมูลเดียวในการบริหารจัดการ และรายงานสถานะให้ประชาชนทราบอย่างต่อเนื่อง

รัฐบาลต้องเร่งจัดหาวัคซีนที่มีคุณภาพ โดยตั้งเป้าหมาย 100 ล้านโดส ภายในปีนี้ เร่งฉีดให้ได้ 400,000 โดสต่อวัน เพื่อให้ครอบคลุม 50-60% ของประชาชนภายในสิ้นปีนี้ รวมทั้งต้องรับฟังและแก้ไขข้อผิดพลาดในการทำงาน ตอบสนองต่อข้อเรียกร้อง และร่วมมือกับภาคเอกชนเพื่อเพิ่มปริมาณการฉีดวัคซีนให้คนไทย เพื่อความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุดในภาวะวิกฤต และการล็อกดาวน์ หากจำเป็นต้องดำเนินการ ต้องยึดหลักเฉพาะเจาะจง ไม่สร้างภาระกับประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศเกินความจำเป็น

2.ด้านเศรษฐกิจ รัฐบาลต้องเร่งเยียวยาประชาชนและภาคเอกชนที่ได้ผลกระทบจากการระบาดในระลอกที่ 3 โดยเยียวยาเป็นเงินสดจำนวน 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน โดยใช้ระบบเฉพาะเจาะจง หลีกเลี่ยงการเยียวยาแบบเหวี่ยงแห นอกจากนี้ ต้องเร่งรัดการเบิกจ่ายจริงของงบฟื้นฟูที่ยังไม่ได้เบิกจ่ายอยู่ราว 300,000 ล้านบาท ให้มีการใช้จริงและเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโดยเร่งด่วน โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่น วงเงิน 4.5 หมื่นล้านบาท ต้องใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และต้องไม่มีเรื่องผลประโยชน์ทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง อีกทั้งรัฐบาลต้องเร่งช่วยเหลือเอสเอ็มอีซึ่งเดือดร้อนอย่างหนัก โดยเยียวยาผู้ประกอบการที่ถูกสั่งปิดโดยภาครัฐ และที่ได้รับผลกระทบ เร่งแก้ไขกลไกในมาตรการสินเชื่อฟื้นฟู และมาตรการพักทรัพย์พักหนี้ ให้ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐและภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเรื่องสินเชื่อและการตีโอนทรัพย์ รวมถึงมาตรการเพื่อรักษาระดับการจ้างงาน

ส่วนมาตรการสิทธิพิเศษด้านภาษี เงินคืน ส่วนลดนั้น เพื่อดึงกำลังซื้อจากคนมีรายได้สูง โดยระบุเงื่อนไขมุ่งเป้าไปที่การซื้อสินค้าคงทน เครื่องจักร อสังหาริมทรัพย์ และสินค้าชิ้นใหญ่ๆ เพื่อเหนี่ยวนำให้เกิดการลงทุนภาคเอกชนรอบใหม่ สร้างการจ้างงาน สร้างเงินหมุนในระบบเศรษฐกิจ รวมทั้งสนับสนุนการส่งออกในจังหวะที่ประเทศคู่ค้าเริ่มฟื้น โดยสนับสนุนเรื่องต้นทุนการนำเข้าวัตถุดิบและเครื่องจักร มาตรการด้านภาษีศุลกากร เพื่อทำให้ผู้ประกอบไทยส่งออกในราคาที่แข่งขันได้ เพื่อดึงรายได้เข้าประเทศ รวมถึงการดูแลค่าเงินบาท ทั้งนี้ วิกฤตโควิด-19 หนักหนาทั้งด้านสาธารณสุขและเศรษฐกิจ  พรรคเพื่อไทยพร้อมทำหน้าที่อย่างสร้างสรรค์ และพร้อมผนึกกำลังภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อฝ่าฟันและพ้นผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน