SHARE

คัดลอกแล้ว

นักวิเคราะห์ประเมินสหรัฐฯ จะมีวัคซีนป้องกันโควิด-19 เกินใช้งานในประเทศ 1 พันล้านโดสในช่วงสิ้นปีนี้ 

วันที่ 5 พ.ค. 2564  สถาบันบรู้คกิ้งส์ตีพิมพ์บทความชี้ สหรัฐฯ อาจมีวัคซีนโควิด-19 เกินการใช้งานมากถึง 1 พันล้านโดสในช่วงสิ้นปีนี้ หลังจากที่สามารถฉีดให้กับประชาชนในประเทศได้ครบตามเป้าหมาย 

ศาสตราจารย์ไซมอน เจ. เอเวอร์เรตต์ นักวิเคราะห์ของสถาบันบรู้คกิ้งส์ระบุในบทความดังกล่าวว่า แม้ตอนนี้รัฐบาลสหรัฐฯ จะให้ความสำคัญกับการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนเป็นอันดับแรก แต่เมื่อเทียบกับปริมาณวัคซีนที่ผลิตได้ทุกวันนี้ อีกไม่นานทำเนียบขาวอาจต้องเผชิญความท้าทายในการตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง เมื่อวัคซีนที่มีอยู่ในประเทศนั้นมากเกินความจำเป็น ในขณะที่ทั่วโลกกำลังประสบกับปัญหาการขาดแคลนวัคซีน

เมื่อพิจารณาจากกำลังผลิตในปัจจุบัน คาดว่าสหรัฐฯ จะสามารถผลิตวัคซีนได้เพียงพอต่อการฉีดให้กับผู้ใหญ่ทุกคนในประเทศภายในวันที่ 20 มิถุนายน ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น หลังจากวันที่ 25 กันยายน จะมีปริมาณวัคซีนเกินใช้งานในประเทศอยู่ถึง 500 ล้านโดส แต่หากมีการปรับเปลี่ยนแผนการฉีดวัคซีนให้กับประชากรวัยเด็กด้วยแล้ว ระยะเวลาที่จะสามารถผลิตวัคซีนให้เพียงพอต่อความต้องการอาจยืดไปถึงวันที่ 18 กรกฎาคม และในวันที่ 18 ตุลาคม สหรัฐฯ จะมีวัคซีนสะสมอยู่เกินใช้ 500 ล้านโดส เท่ากับว่าภายในสิ้นปีสหรัฐฯ จะมีวัคซีนเกินใช้งานอยู่มากกว่า 1 พันล้านโดส 

ปริมาณวัคซีนส่วนเกินนี้เป็นความท้าทายของรัฐบาลสหรัฐฯ ว่าจะตัดสินใจดำเนินการอย่างไร โดยก่อนหน้านี้ ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้ให้ประเทศเพื่อนบ้านอย่างแคนาดาและเม็กซิโกยืมวัคซีนไปแล้ว 4 ล้านโดส 

เจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่า “แม้ว่าการฉีดวัคซีนให้กับชาวอเมริกันนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แต่ความจริง การแพร่ระบาดของโรคไม่ได้มีพรมแดน การสร้างความมั่นใจว่าประเทศเพื่อนบ้านของเรานั้นปลอดภัย จึงเป็นภารกิจที่สำคัญยิ่งในการหยุดยั้งการแพร่ระบาด”

ศาสตราจารย์เอเวอร์เรตต์ได้ระบุถึงความเป็นไปได้ 3 ประการ หากสหรัฐฯ มีวัคซีนในปริมาณที่เกินความจำเป็นแล้ว ประการแรกคือ อาจมีการขยายการฉีดวัคซีนให้กับเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป ในขณะที่มีวัคซีนบางตัวกำลังเข้าสู่กระบวนการทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานกับเด็กแล้ว ประการที่ 2 รัฐบาลอาจตัดสินใจเก็บวัคซีนส่วนเกินไว้เป็นวัคซีนสำรองเพื่อเตรียมพร้อมรับมือหากกลับมามีการแพร่ระบาดอีกครั้งในอนาคต หรือประการที่ 3 คือการนำวัคซีนที่มีอยู่ไปฉีดให้กับประชากรของแคนาดาและเม็กซิโก ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดกัน 

อย่างไรก็ตาม เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ออกมาประกาศว่าจะแบ่งปันวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าจำนวน 60 ล้านโดสให้แก่ประเทศอื่นๆ เนื่องจากสหรัฐฯ มีปริมาณวัคซีนที่เพียงพอต่อประชากรในประเทศแล้ว โดยเป็นที่จับตากันว่าวัคซีนส่วนใหญ่นั้นอาจจะถูกส่งไปให้อินเดีย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในประเทศยุทธศาสตร์สำคัญในการคานอำนาจจีน และกำลังมีความต้องการวัคซีนเป็นอย่างมาก 

ศาสตราจารย์เอเวอร์เรตต์กล่าวทิ้งท้ายว่า ปริมาณวัคซีนที่มีมากเกินความจำเป็นซึ่งอาจเกิดขึ้นภายในสิ้นปีนี้ นับเป็นอีกความท้าทายสำคัญของรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่กำลังถูกจับตาท่ามกลางความกังวลต่อการกระจายวัคซีนอย่างเท่าเทียมทั่วโลก

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า