นายกฯ เผยเจรจาผู้ผลิตวัคซีน 7 ราย เร่งหาเพิ่มให้ได้ 150 ล้านโดส 

นายกฯ แจงเดินหน้า 3 แนวทาง เร่งหาวัคซีนเพิ่มเป็น 150 ล้านโดส เจรจาผู้ผลิต 7 ราย ปูพรมฉีดวัคซีนเข็มแรกให้มากที่สุด

วันที่ 8 พ.ค. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์เฟซบุ๊กว่า ตนตัดสินใจเดินหน้า 3 แนวทางเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโควิด-19 แนวทางแรก เราต้องเพิ่มจำนวนวัคซีนของเราให้มากกว่านี้ ปัจจุบันเราตั้งเป้าสั่งซื้อวัคซีนที่ 100 ล้านโดส ประเทศไทยควรต้องหาวัคซีนเพิ่มอีกเป็น 150 ล้านโดสหรือมากกว่านั้นให้ได้ แม้ว่าบางส่วนอาจจะส่งมอบให้เราได้ในช่วงปีหน้าก็ตาม ด้วยสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด เราไม่ควรจัดหาวัคซีนด้วยเป้าหมายที่ตั้งอยู่บนสมมติฐานที่ว่า ภูมิคุ้มกันหมู่ภายในประเทศจะเกิดขึ้น เพราะทุกวันนี้ทั่วโลกยังมีความไม่ชัดเจนว่า การสร้างภูมิคุ้มกันหมู่จากไวรัสตัวนี้จะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ และจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่

แนวทางที่สอง ตนได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งทำงานเชิงรุกมากยิ่งขึ้น เพื่อให้การเจรจาสั่งซื้อวัคซีนของเรามีความคืบหน้าที่เร็วกว่านี้ ให้มีการเจรจากับผู้ผลิตหลายรายเพิ่มขึ้นอีก เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้วัคซีนเพิ่มขึ้น เรามีการเจรจากับผู้ผลิตวัคซีนถึง 7 ราย และกำลังหาเจรจาเพิ่มอีก รวมถึงวัคซีนใหม่ๆ จากผู้ผลิตรายใหม่ๆ ด้วย

และแนวทางสุดท้ายคือ การปรับแนวทางการฉีดโดยเร่งการฉีดวัคซีนเข็มแรก หลังการหารืออย่างเข้มข้นกับผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์และสาธารณสุข เราจะปรับมาให้ความสำคัญกับการเร่งฉีดวัคซีนเข็มแรกให้ประชาชนจำนวนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เนื่องจากทางการแพทย์มีความเห็นไปในทางเดียวกันว่า หลังจากได้รับการฉีดวัคซีนแม้แค่เพียงเข็มแรก ก็สามารถช่วยลดโอกาสในการรับเชื้อ ลดความรุนแรงของอาการ และลดโอกาสในการเสียชีวิตได้อย่างมาก ดังนั้น เราต้องเร่งเดินหน้าให้เร็ว ปูพรมฉีดวัคซีนเข็มแรกให้กับประชาชนจำนวนมากที่สุด ซึ่งจะทำให้ในช่วงประมาณปลายเดือนกรกฎาคม 2564

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝ่ายกฎหมายของนายกรัฐมนตรีได้ติดตามผู้ที่มาแสดงความคิดเห็นในเฟซบุ๊กของนายกรัฐมนตรี โดยพบว่ามีการใช้ถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม ดังนั้น การโพสต์เฟซบุ๊กล่าสุดในวันนี้ (8 พ.ค.) จึงมีการปิดไม่ให้มีการเข้ามาแสดงความคิดเห็น ซึ่งมีการปิดตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค. 2564 แต่ยังคงโพสต์ข้อความสื่อสารบนเฟซบุ๊กกับประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนทราบถึงความคืบหน้าในการบริหารราชการ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด-19 นอกจากนี้ ยังเปิดให้แชร์โพสต์ได้ตามปกติด้วย