‘เอส แอนด์ พี’ เดินหน้าฝ่าวิกฤตโควิด เปิดโมเดลธุรกิจใหม่ ‘Delta’ เร่งขยายจุดขาย สู้ศึกเดลิเวอรี

‘เอส แอนด์ พี’ เดินหน้าฝ่าวิกฤตโควิด-19 ลุยเพิ่มยอดขายด้วยโมเดลธุรกิจใหม่ “Delta” (Delivery & Take Away) เร่งขยายจุดขาย รุกตลาดเดลิเวอรี

วันที่ 20 พ.ค. 2564 นายอรรถ ประคุณหังสิต ประธานเจ้าหน้าที่สายปฏิบัติการธุรกิจเอส แอนด์ พี บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป เน้นความสะดวกสบายและความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น รวมถึงการสั่งอาหารผ่านช่องทางเดลิเวอรีที่เติบโตและได้รับความนิยม
ในปีนี้บริษัท จึงดันยอดขายผ่านช่องทางเดลิเวอรีโดยได้พัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ให้สามารถใช้งานได้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยในปีนี้บริษัทต้องการเติบโตยอดขายของเดลิเวอรี 2 เท่าของปีที่ผ่านมาหรือ 1000 ล้านบาท ภายใต้ 4  กลยุทธ คือ

1. เปิดโมเดลร้าน เอส แอนด์ พี รูปแบบใหม่ “Delta” (Delivery & Take Away) ที่มีทั้งบริการจัดส่งถึงบ้านและซื้อกลับบ้าน จำนวน 31 จุด ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งจะเป็นรูปแบบ Convenient Bakery Shop ที่มีครัวสำหรับทำอาหารอยู่ในตัว โดยร้านรูปแบบนี้จะตั้งอยู่ในคอม มูนิตี้มอลล์ ไฮเปอร์มาร์เก็ต ปั๊มน้ำมัน และอาคารพาณิชย์ เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่ายขึ้น อีกทั้งลูกค้ายังสามารถซื้ออาหารกลับบ้าน รวมถึงสั่งอาหารผ่านช่องทาง S&P Delivery 1344 ได้อีกด้วย ซึ่งการเปิดจุดขาย Delta ทั้ง 31 จุดนี้จะครอบคลุมการให้บริการเดลิเวอรีได้ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑลซึ่งจะทำให้สามารถส่งอาหารให้ลูกค้าได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น

2.ขยายพื้นที่การจัดส่งให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ผ่านจุดขายร้าน เอส แอนด์ พี กว่า 300 จุด ทั้งทาง S&P Delivery และพันธมิตร นอกจากการให้บริการเดลิเวอรีในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลแล้ว บริษัทฯ ยังขยายการให้บริการไปยังต่างจังหวัดตามหัวเมืองใหญ่ ผ่านจุดขายร้าน เอส แอนด์ พี ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นจุดแข็งที่ทำให้บริษัทฯ สามารถเพิ่มยอดขายเดลิเวอรีได้อย่างก้าวกระโดด โดยในช่วงที่ผ่านมามีการเติบโตของธุรกิจ เดลิเวอรีสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนเมษายนที่ผ่านมา มียอดเติบโตขึ้น 20% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

3.พัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์รูปแบบใหม่ให้สามารถใช้งานได้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น ทั้งแอปพลิเคชั่น S&P Delivery และ www.snp1344.com ซึ่งลูกค้าสามารถสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ตามโอกาสสำคัญๆ ได้ เช่น การสั่งเค้กวันเกิด ชุดอาหารกล่อง Snack Box สำหรับงานประชุม หรืองานสวดอภิธรรม รวมถึงขั้นตอนการจ่ายเงินที่รวดเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังเพิ่มช่องทางในการให้บริการลูกค้า ผ่าน S&P Line Cake Assistant (@snpcaketh) โดยจะมีผู้ช่วยมืออาชีพที่จะช่วยให้ลูกค้าสั่งเค้กในโอกาสสำคัญ หรือสั่งเค้กรูปแบบพิเศษได้ง่ายขึ้น เพื่อสร้างความประทับใจและประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าอีกด้วย

4.ออกเมนูอาหารไทยรูปแบบใหม่ “กับข้าวไทย” และ “เค้กปอนด์” ให้ถูกใจและคุ้มค่าสำหรับลูกค้า สำหรับเมนูกับข้าวไทยจะมีทั้ง “ต้ม ผัด แกง ทอด” ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกเมนูได้หลากหลายกว่า 30 เมนู พร้อมทั้งจัดโปรโมชั่นอาหารจานเดียวซื้อ 1 ฟรี 1 ซึ่งเป็นเมนู ซิกเนเจอร์ ของ เอส แอนด์ พี เช่น เมนูข้าวคลุกกะปิ ข้าวผัดกุ้ง ข้าวผัดอเมริกัน ข้าวหน้ากุ้งผัดพริกขี้หนู เป็นต้น สำหรับเค้กปอนด์ บริษัทฯ ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลาย สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ทุกกลุ่ม รวมทั้งมีเค้กลายลิขสิทธิ์ที่เราเป็นผู้นำในตลาด”

“ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ เรามองว่า เดลิเวอรี จะเป็นช่องทางหลักในการสร้างรายได้ให้องค์กร เพราะฉะนั้นเราต้องกำหนดกลยุทธ์ให้ชัดเจนเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของทั้งลูกค้าส่วนบุคคลและลูกค้าองค์กรองค์กร  และด้วยตัวเลขประมาณการณ์มูลค่าตลาดเดลิเวอรี  ปี2564 นี้ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 47,000ล้าน เติบโต 9 % จาก68,000ล้าน ในปีที่ผ่านมา
ส่งผลให้การแข่งขันสูง และมีผู้เล่นรายใหม่ๆเข้ามาในตลาดในว่าจะเป็นเจ้าของธุรกิจเอง ผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน หรือไรเดอร์ ซึ่งก็จะเป็นส่วนที่จะช่วยกันสร้างตลาดเดลิเวอรี เติบโตมากยิ่งขึ้น”