เซอร์ไพรส์คนไทยได้ดูบอลยูโร 2020 ของขวัญจากกลุ่มสามมิตร เบรคฝันบางขั้วหวืดเก้าอี้เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ

นาทีนี้ นอกจากกระแส ยูโร 2020 จะกลับมาเป็นที่ถูกพูดถึงอีกครั้ง หลังคนไทยลุ้นกันจนตัวโก่ง ว่า จะได้ดูถ่ายทอดสดกันหรือไม่ ชื่อของ โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ที่ยอมจ่ายเงินส่วนตัวกว่า 310 ล้านบาทเพื่อซื้อลิขสิทธิ์ ‘ยูโร 2020’ ดูจะกลายเป็นเป้าของความสนใจไม่แพ้กัน

‘โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ’ เป็นใคร เหตุใดจึง ‘ป๋า’ ถึงเพียงนี้

โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ มังกรตัวที่ 3 ของตระกูล ‘จึงรุ่งเรืองกิจ’ (แซ่จึง) บิดาคือ ‘โหลยช้วง แซ่จึง’ มารดาชื่อ ‘บ่วยเชียง แซ่โป่ว’ มีพี่น้อง 5 คน ‘สรรเสริญ จุฬางกูร’ เป็นพี่ใหญ่ ส่วนพี่รองคือ ‘พัฒนา จึงรุ่งเรืองกิจ’ (บิดาของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ) ‘โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ’ เป็นลูกคนที่ 3 เป็นพี่ชาย ‘สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ’ รมว.อุตสาหกรรม และ น้องเล็กคือ อริสดา จึงรุ่งเรืองกิจ

ปัจจุบัน โกมล เป็นประธาน บริษัท ซัมมิท ไพน์เฮิร์สท กอล์ฟ คลับ จำกัด สนามกอล์ฟชื่อดังระดับประเทศ และยังเป็นประธานกรรมการ บริษัท ซัมมิท ฟุตแวร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรองเท้ายี่ห้อ ‘แอโร่ซอฟท์’ (Aerosoft) ที่ผลิตเดือนละ 2 ล้านคู่ ส่งออกไปขายต่างประเทศเป็นหลักที่ 70% โดยมีตลาดหลักอยู่ที่ตะวันออกกลาง นอกจากนี้ เขามีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เป็นเจ้าของอพาร์ตเม้นต์ให้เช่าหลายหมื่นยูนิต ย่านรังสิต เป็นเจ้าของรับเหมาก่อสร้าง ไปจนถึงโรงงานผลิตเคมีสำหรับงานเคลือบหลังคากระเบื้อง

หลายคนทราบเพียงว่า โกมล เป็นคน มุ่งมั่นทำธุรกิจแบบเรียบง่ายเก็บตัวไม่ออกสื่อ เพราะส่วนหนึ่ง คือ ในบรรดาตระกูล ‘จึงรุ่งเรืองกิจ’ ทั้งหมด เขาน่าจะเป็นคนที่เข้าถึงได้ยากที่สุดคนหนึ่งด้วย เหตุจากการไม่ชอบเปิดตัวหรือเข้าสังคมไฮโซไฮซ้อกับใคร

ชื่อของ ‘โกมล’ กลับเริ่มถูกค้นหาบ่อยขึ้น หลังลูกชายอย่าง ‘โฟม-พงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ’ ก้าวเข้าสู่ถนนการเมืองในพรรคประชารัฐ ด้วยฐานะ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ทำให้คนเริ่มสนใจความเป็นมาของคนอื่น ๆ ในตระกูล ‘จึงรุ่งเรืองกิจ’ นอกจาก ‘สุริยะ’ และ ‘ธนาธร’
แต่ในอีกมุมชื่อของ “โกมล” บ่อยครั้งปรากฏออกมาในตลาดหุ้น ด้วยการถือหุ้นหลายบริษัท ที่นักลงทุนคิดโยงใยว่าเขามีส่วนกับการเก็งกำไรหุ้นร้อนหลายตัวในตลาด โดยไม่รู้ว่าเขาคือแหล่งเงินทุนที่นักธุรกิจรายใหญ่ ต่างก็วิ่งมาหาเขา

โอกาสที่ ‘โกมล’ จะปรากฏตัวกับสื่อไม่ใช่เรื่องง่าย แต่วันนี้ ‘โกมล’ เป็นมังกรที่ยอมออกจากถํ้าอย่างไม่น่าเชื่อ หรือเป็นไปได้ว่าอาจมี วัตถุประสงค์และภารกิจสำคัญ

เปิดปฏิบัติการ ‘สามมิตรคอนเน็กชั่น’ ค้ำบัลลังก์พ่อบ้าน พปชร.

สืบเนื่องจาก วันที่ 11 มิถุนายน 64 เวลา 16.00 น.ที่ สนามกอล์ฟไพน์เฮิร์สท นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในงานแถลง สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (เอ็นบีที) กรมประชาสัมพันธ์ ได้รับลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป2020 (ยูโร 2020) อย่างเป็นทางการ ภายใต้สโลแกน “คืนความสุข ให้คนไทยได้ดูบอล ยูโร 2020”
โดยมีนายโกมล จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานบริหาร บริษัท ซัมมิทฟุตแวร์ จำกัด นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ , พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ , นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการ กระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เข้าร่วม

นายอนุชา นาคาศัย กล่าวว่า มีเวลาในการประสานแบบจริงจังเพียง 2 วันเท่านั้น ซึ่งได้ปรึกษาฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และตกลงให้ ทรู คอร์ปอเรชั่น ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการประสานไปยังเจ้าของสิทธิ์เพื่อขอซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด ซึ่งเดิมเราได้คุยกับภาครัฐและเอกชนมากมาย ที่สนใจจะเข้ามาสนับสนุน
แต่ด้วยระยะเวลาที่กระชั้นชิด นายโกมล จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานบริหาร บริษัท ซัมมิทฟุตแวร์ จำกัด จึงได้ทุ่มเงินซื้อเพียงผู้เดียว และมอบให้ NBT ถ่ายทอดสดให้ชม ทำให้คนไทยได้ชมการแข่งขันแบบครบทุกคู่ และไม่ได้ใช้งบประมาณของภาครัฐเลย ซึ่ง บริษัท ซัมมิทฟุตแวร์ จำกัด ได้ทุ่มเงินซื้อลิขสิทธิ์ กว่า 10 ล้านดอลลาร์ หรือราว 310 ล้านบาทในการซื้อลิขสิทธิ์ครั้งนี้

ด้านนายโกมล จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานบริหาร บริษัท ซัมมิทฟุตแวร์ จำกัด กล่าวว่าตอนแรกที่คุยกัน คิดว่าจะช่วยสนับสนุน 10 ล้านบาท แต่ด้วยเวลากระชั้นชิด จึงจำเป็นต้องทุ่มเงินเพื่อซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดเข้ามาเพียงผู้เดียว ซึ่งใช้เวลาในการตัดสินใจเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น โดยขณะนี้การเซ็นสัญญาได้เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว รับรองว่าประชาชนคนไทยจะได้รับชมครบทุกคู่ ผ่านทางช่อง NBT โดยกำลังดูช่องอื่น ๆ เข้ามาเสริมหากมีการแข่งขันพร้อมกัน

ล่าสุด วันที่ 12 มิ.ย. นายองอาจ ประภากมล หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านมีเดีย บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่มทรู รับสิทธิถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร 2020 ทุกแพลตฟอร์ม ทั้ง เพย์ทีวี ทีวีออนไลน์ ‘ทรูไอดี’ จาก นายโกมล จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ได้ลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดยูโร 2020 อย่างเป็นทางการ

ตอนแรกเมื่อนักข่าวสายกีฬาได้ทราบหมาย การแถลงข่าวใน วันที่ 11 มิถุนายน ณ สนามกอล์ฟไพน์เฮิร์สท ก็เล่นเอางงไปตาม ๆ กันว่าทำไมต้องไปแถลงข่าวถ่ายทอดสดฟุตบอลฯ ที่สนามกอล์ฟ แต่เมื่อไปฟังการแถลงจบ ก็ถึงบางอ้อ
สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับคนในพลังประชารัฐที่จะมีสิ่งเเปลกใหม่ยั่วใจตามจังหวะเกมการเมือง
งบสิบล้านยูโร สำหรับการถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร 2020 เพื่อให้คนไทยคลายทุกข์ พบสุขช่วงกลางปีนี้ผ่านช่อง NBT ของรัฐบาลแบบด่วนจี๋ จัดเต็มเช่นนี้ คงเป็นใครไปไม่ได้นอกเหนือจากบรรดาคอการเมืองสารพัดมุ้งในค่ายพลังประชารัฐ พลิกเกมเพื่อหวังโอกาสไปต่อ…เป็นเเน่เเท้

คนไทยได้ดูบอล แต่ ‘สามมิตร’ ได้แตะตัดขาคู่แข่ง

คำตอบเรื่องนี้ คงหนีไม่พ้นเป้าหมายทางการเมือง ที่อย่างน้อย ตอกหมุด ‘กลุ่มสามมิตร’ กับบทบาทในพรรคพลังประชารัฐ เพราะต้องอย่าลืมว่า ‘อนุชา นาคาศัย‘ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่รับโจทย์มาจากนายกรัฐมนตรี ให้หาแนวทางถ่ายทอดฟุตบอล ‘ยูโร 2020’ นั้น อีกหมวกหนึ่งคือ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ที่จะมีการประชุมใหญ่ที่ขอนแก่น 18 มิ.ย. 2564 นอกจากมีวาระกรรมการบริหารพรรคแล้ว ก่อนหน้านี้มีวาระการเปลี่ยนตัวเลขาธิการพรรค อยู่ด้วย

อนุชา นาคาศัย ที่กำลังเพลี่ยงพล้ำตกที่นั่งลำบากในพรรคพลังประชารัฐ รับไมตรีจาก โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้เป็นทั้งพ่อของ พงศ์กวิน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ และเป็นพี่ชาย สุริยะ แกนนำกลุ่มสามมิตร (ที่ตอนนี้เหลือสองมิตร) ค่ายพปชร. ในการเบรคจังหวะร้อนการเมืองบนภาวะโควิด-19 รอบสามที่สุดอลวนเพราะรัฐบาลพลิกเเผนฉีดวัคซีนรายนาทีบนภาวะคนกันเองในรัฐบาลเตะตัดขากันเเบบช็อตต่อช็อต จนครม.ชุดนี้เสียศูนย์

ภาวะนี้แปลได้ว่ากลุ่มสามมิตร แห่งค่ายพปชร. คือผู้สนับสนุนหลักการคืนความสุขให้คนในชาติแบบบิ๊กเซอร์ไพรส์ สามารถลดแรงบีบ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปได้มากแถมยังเพิ่มอำนาจต่อรองในสายตา พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ว่าอย่าเปลี่ยนม้ากลางศึกเป็นอันขาด เพราะกระแสข่าวเปลี่ยนพ่อบ้านพปชร. ในการประชุมใหญ่ที่กำลังจะถึงดังขึ้นเรื่อย ๆ เพราะก่อนหน้านี้เพราะลุงป้อมพูดง่าย ๆ สั้นว่า ‘หากจะเปลี่ยนพ่อบ้านพรรคก็แล้วแต่ที่ประชุมพรรค’ สะท้อนถึงสถานะกลุ่มสามมิตรที่ดูเหมือนจะตกกระป๋อง

‘สามมิตร’ กับลีลาเดินเกมเพิ่มแต้มต่อ

ด้วยอานุภาคของ ‘สามมิตรคอนเน็กชั่น’ ทำให้คนไทยได้ดู บอล ยูโร 2020 ฟรีได้ สมาชิกพรรคบางส่วนน่าจะเลิกปันใจในการลงมติเปลี่ยนพ่อบ้านพรรคเป็นแน่แท้ เพราะน่าจะมีดีลลับจากขั้วสามมิตรรวมทั้งสายตรงจากบางอาคารที่ถนนวิภาวดีรังสิต ,ถนนพิษณุโลกและถนนรัชดาภิเษก ไปเสนอให้เลิกปันใจไปยังขั้วอื่นใน พปชร.

แปลว่าท่ามกลางเสียงลือว่ากลุ่ม 4ช.หรือ 4 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคมและ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน ที่ต้องการเปลี่ยนตัวนายอนุชา นาคาศัย กลุ่มสามมิตร โดยจะชิงเสนอชื่อ สันติ พร้อมพัฒน์ และ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ในฐานะคนเลี้ยงลิงบนเรือเหล็กขึ้น เป็นพ่อบ้านพรรคเเทน อนุชา นาคาสัย นั้นมีมูล และหวังใช้บันไดลัดวางหมากยาว ๆ บนถนนการเมืองเพราะทราบดีเเล้วว่าหากไวรัสมรณะอยู่บนภาวะคุมได้ จังหวะการเมืองจะสู่บทยุบสภาเพราะนายกฯลุงตู่ น่าจะเลือกเดินเกมนี้ในห้วงหนึ่งปีจากนี้เพื่อวางรันเวย์ใหม่ในการกลับมาป้องกันตำแหน่ง
ดังนั้นเเม่ทัพนายกองในค่ายพปชร.ต้องยึดเก้าอี้กรรมการบริหารพรรคเเละอื่น ๆ ที่มีสิทธิชี้เป็นชี้ตายกิจกรรมในพรรคให้มากสุดเพื่อเป็นแต้มต่อทางการเมือง

อย่าลืมว่า สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรมเเละเเกนนำพปชร.เเห่งขั้วสามมิตร เคยลั่นวาจาเเบบทีเล่นทีจริงว่า หากเปลี่ยนเสี่ยเเฮงค์ออก จะให้ตนไปทำหน้าที่พ่อบ้านพรรคเเทนหรือไม่ เเสดงถึงขั้วสามมิตรจับไต๋ได้มาล่วงหน้าแล้ว

สามมิตร VS 4ช. ใครได้เปรียบ

หมากง่าย ๆ แบบนี้ไม่ต้องอ่านกันหลายจังหวะว่ากลุ่มสามมิตรเทหน้าตักจาก ‘โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ’ พี่ชายของ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ค้ำบัลลังก์พ่อบ้านพปชร. ของ เสี่ยแฮงค์- อนุชา นาคาสัย ไม่ให้โดนเปลี่ยนถ่ายอำนาจและเเบ่งความสนใจบนหน้าสื่อที่รุมเกาะไวรัสมรณะมาชมกีฬาระดับโลกแทนเเค่นี้หากไม่ได้ใจจากกลุ่ม 3ป. ก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรเเล้ว

เว้นเสียเเต่ว่ากลุ่ม 4ช.จะงัดกลวิธีที่ใหญ่กว่านี้มาบลัฟกลับ…แต่ภาวะแบบนี้ใช่ว่าจะหาปัจจัยการเมืองแบบมหึมาได้ พูดตรง ๆ คือยากมาก เเละเอาเข้าจริงการเบิกเบี้ยเลี้ยงรายเดือนของส.ส.พปชร.นั้น ขึ้นกับ 1 ใน 4ช. ที่ทำบัญชีนี้เเละขึ้นตรงกับบิ๊กตัวจริงในพปชร.พ่อบ้านพรรคเเทบไม่มีบทบาทในการดูแล ส.ส.เหมือนในวันวาน

ดังนั้นเเทงหวยล่วงหน้าเลยว่า เกมการเมืองในพปชร.รอบนี้ไม่มีอะไรพลิกบนตำเเหน่งหลัก เเต่ควรจับกระเเสภายในไปเรื่อย ๆว่าการชิงเหลี่ยมในเกมต่อไปของเเต่ละมุ้งในพปชร.จะเกิดอย่างไร เช่น การส่งคนเข้าประกวดในการปรับครม.รอบสุดท้าย การเกลี่ยงบประมาณ การยกมือหนุนวาระครม.ของเเต่ละกระทรวงเเละเเต่ละหน่วยงานที่รมต.ค่ายพปชร.เป็นเรื่อง การวางคนลงสมัครเป็นว่าที่ผู้เเทนราษฎร การลงมติในวาระสองเเละสามของร่างกฎหมายงบประมาณฯลฯ

เพราะการขบเหลี่ยมและงัดข้อกันเองเเบบนี้ ยากที่จะเชื่อมใจกันเเล้ว …