โควิดสายพันธุ์อินเดีย มีแนวโน้มระบาดไปทั่วโลก ไทยจำเป็นต้องรีบฉีดวัคซีน

ผู้เชียวชาญด้วนไวรัสวิทยา ชี้ โควิดสายพันธุ์อินเดียมีแนวโน้มแพร่กระจายเข้าไปแทนที่สายพันธุ์อังกฤษ สายพันธุ์ใหม่ที่เกิดขึ้น จะทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนเริ่มลดลง วิธีเดียวที่จะยับยั้งคือต้องฉีดวัคซีนให้มากที่สุดและเร็วที่สุด

วันที่ 15 มิ.ย. 2564 ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า โควิด-19 มีการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรม กลายพันธุ์ไปอยู่ตลอด สายพันธุ์ที่แพร่กระจายได้ง่ายก็จะกระจายเข้ามาแทนที่สายพันธุ์เดิม

สายพันธุ์ G แพร่ได้ง่ายกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิมอู่ฮั่นจะไปแทนที่สายพันธุ์อู่ฮั่น ส่วนสายพันธุ์อังกฤษ (อัลฟา) แพร่กระจายได้ง่ายก็กระจายไปทั่วโลกครอบคลุมทั้งหมด

ศ.นพ.ยง กล่าวว่า ขณะนี้สายพันธุ์อินเดีย (เดลต้า) แพร่กระจายง่ายกว่าสายพันธุ์อังกฤษ กำลังจะมีแนวโน้มที่จะระบาดไปทั่วโลก ประเทศไทยก็เช่นเดียวกัน ในการระบาดรอบแรกเป็นสายพันธุ์อู่ฮั่น ระบาดระลอก 2 เป็นสายพันธุ์ G และรอบ 3 เป็นสายพันธุ์อังกฤษ ขณะนี้มีแนวโน้มพบสายพันธุ์อินเดียเพิ่มมากขึ้น และมีโอกาสที่จะกระจายได้มากขึ้นมาแทนที่สายพันธุ์อังกฤษในอนาคต เพราะการติดต่อสายพันธ์เดลต้าติดต่อได้ง่ายและจะระบาดได้ง่ายโดยเฉพาะเป็นคลัสเตอร์ และพร้อมที่จะกระจายออก

สายพันธุ์แอฟริกาใต้ ( เบต้า) ถึงแม้จะทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนลดลง แต่อํานาจการกระจายน้อย ต่อไปจะถูกกลบ ด้วยสายพันธุ์ที่แพร่กระจายได้มากกว่าเช่นสายพันธุ์อินเดีย เป็นหลักตามวิวัฒนาการตามธรรมชาติ

“สิ่งที่สำคัญอีกประการหนึ่งเมื่อสายพันธุ์ใหม่ที่เกิดขึ้นจะทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนเริ่มลดลง การติดตามสายพันธุ์จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง จึงมีการถอดรหัสพันธุกรรมกันอย่างมากอย่างไม่เคยมีมาก่อน การให้วัคซีนในคนหมู่มาก และรวดเร็ว เป็น วิธีหนึ่งที่จะสกัดสายพันธุ์กลายพันธุ์ ไม่ให้มีการแพร่ระบาดภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้น ถึงแม้ว่าจะลดลงบ้างก็ยังช่วยสกัดได้ไม่ให้สายพันธุ์ใหม่แพร่ระบาด” ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา ระบุ