‘ภูเก็ต’ คลายล็อก 10 กิจกรรม รับภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ส่วนผับ–บาร์–โอเกะ ยังไม่เปิด
วันที่ 21 มิ.ย. 2564 นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ได้ลงนามในคำสั่งจังหวัดภูเก็ต ผ่อนคลายการปิดสถานที่ และกำหนดมาตรการป้องกัน เฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (เพิ่มเติม)
เพื่อเป็นการผ่อนคลายให้บางสถานที่สามารถเปิดทำกิจกรรมบางอย่างได้ และประชาชนสามารถประกอบกิจกรรมอันจำเป็นต่อการดำรงชีวิตและประกอบอาชีพ เพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมสามารถดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่องควบคู่ไปกับมาตรการด้านสาธารณสุข และเพื่อเตรียมการรองรับการเปิดรับนักท่องเที่ยวแบบไม่กักตัว ตามแผน Phuket Tourism Sandbox ในวันที่ 1 ก.ค. 2564
ผ่อนคลาย 10 กิจกรรม
1.โรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาทุกประเภทสามารถใช้อาคารหรือสถานที่เพื่อการจัดการเรียนการสอน การสอบ การฝึกอบรมหรือการทำกิจกรรมใดๆ ได้ตามความเหมาะสม
2.ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติ ยกเว้นส่วนที่เป็นตู้เกมเครื่องเล่นร้านเกมและสวนสนุกที่งดการให้บริการ
3.ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มที่มิได้ประกอบกิจการเป็นสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ ให้บริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มในร้านได้ภายในเวลาที่กำหนด โดยให้มีการจำหน่ายและบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้านได้ ไม่เกินเวลา 23:00 น.
4.ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้นๆ
5.สนามกีฬาหรือสถานีเพื่อการออกกำลังกาย ยิม ฟิตเนส แบดมินตัน สามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ และจัดการแข่งขันได้โดยจำกัดผู้เข้าชมในสนาม
6.ร้านเสริมสวย ร้านตัดผมตกแต่งทรงผมสุภาพบุรุษและสตรีสามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ
7.สถานที่จัดให้มีโต๊ะสนุกเกอร์ บิลเลียดโต๊ะพูล หรือการเล่นที่มีลักษณะคล้ายกันโดยจัดให้มีการเล่นได้ระหว่างเวลา 15.00 น. ถึง 23.00 น .
8. ร้านเกมคอมพิวเตอร์ เกมออนไลน์ สามารถเปิดดำเนินการได้ตามกฎหมายกำหนด
9.โรงภาพยนต์ โรงมหรสพ สวนน้ำให้เปิดดำเนินการได้ตามปกติของสถานที่นั้นๆ ยกเว้นสวนสนุก เครื่องเล่นประจำที่ หรือเครื่องเล่นแบบเคลื่อนที่กลางแจ้ง ให้เปิดดำเนินการได้ตั้งแต่ 06.00-20.00 น.
10.การรวมกลุ่มทำกิจกรรมสังสรรค์จำหน่ายบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่สาธารณะ ชายหาด สวนสาธารณะให้ถือปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด
ห้ามจัดกิจกรรมรวมกลุ่มเกิน 200 คน
ห้ามการจัดกิจกรรม ที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลซึ่งมีจำนวนมากกว่า 200 คน หรือเว้นแต่เป็นกิจกรรมที่ดำเนินการโดยพนักงานเจ้าหน้าที่หรือเป็นกิจกรรมในพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นสถานที่กักกันโรค เป็นต้น
นอกจากนี้ให้สามารถการจัดกิจกรรมทางสังคม การจัดกิจกรรมทางสังคม งานสังสรค์ งานเลี้ยง งานรื่นเริง งานวันเกิด งานขึ้นบ้านใหม่ เลี้ยงรับ – ส่ง และเลี้ยงฉลองแสดงความยินดีในโอกาสต่าง ๆ รวมถึงการจัดพิธีการตามประเพณีนิยม เช่น งานพิธีการศพ งานอุปสมบท งานมงคลสมรส วันสำคัญทางศาสนาหรืองานบุญ ให้สามารถดำเนินการได้ภายใต้มาตรการป้องกันโรคที่เพียงพอเพื่อลดโอกาสเสี่ยงจากการติดเชื้อ และปฏิบัติตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
ผ่อนคลายถ่ายทำภาพยนตร์ตาม ศบค.
การผ่อนคลายสำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ การถ่ายทำภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ หรือการถ่ายทำสื่อในลักษณะคล้ายกัน ให้สามารถดำเนินการได้ภายใต้มาตรการที่ประกาศกำหนด ในการจำกัดจำนวนบุคคลที่เข้าร่วมการถ่ายทำ การยกเว้นไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าในบางกรณี หรือบางช่วงเวลาของการถ่ายทำ และต้องดำเนินการตามแนวปฏิบัติสำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ตามที่ได้รับอนุมัติจาก ศบค.
ผับ-บาร์-คาราโอเกะยังไม่เปิด
นอกจากนี้ มาตรการปิดสถานบริการหรือสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค เพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ให้ปิดสถานบริการ ผับ บาร์ คารโอเกะ สถานบันเทิง และสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการทุกแห่งในท้องที่จังหวัดภูเก็ต เป็นการชั่วคราวต่อไป และให้ปิดสนามชนไก่ สนามกัดปลา สนามแข่งนก สนามแข่งไก่ สนามมวย หรือสถานที่จัดให้มีการเล่นการพนัน เป็นการชั่วคราวต่อไป
คุมเข้มพื้นที่เสี่ยง
มาตรการตรวจสอบเข้มงวดกับสถานที่หรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคแบบกลุ่มก้อน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เข้มงวดในการตรวจสอบสถานที่หรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค เช่น โรงงาน สถานที่พักของแรงงานต่างด้าว หรือสถานที่อื่นๆ ให้เป็นไปตามเงื่อนไข เงื่อนเวลา การจัดระบบและระเบียบรวมทั้งมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด ในกรณีที่พบผู้ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ ว่ากล่าวตักเตือนและสั่งให้ผู้นั้นปฏิบัติให้ถูกต้อง ถ้าผู้นั้นไม่ปฏิบัติตามให้ดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ อาจมีความปิดตามมาตรา 51 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือมาตรา52 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน1ปีหรือ1แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558
คำสั่งมีผลตั้งแต่ 21 มิ.ย. 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง