SHARE

คัดลอกแล้ว
นพ.มานพ ตั้งคำถามชวนประชาชนวิเคราะห์สถานการณ์โควิด-19 ในไทย ตลอด 10 วันที่ผ่านดีขึ้นหรือไม่ เมื่อดูสถิติผู้ติดเชื้อรายใหม่ มากกว่าผู้หายป่วย เสนอภาครัฐ ล็อกดาวน์ประเทศ คือทางออกสุดท้ายที่ดีที่สุด
วันที่ 7 ก.ค. 2564 ศ.นพ.มานพ พิทักษ์ภากร หัวหน้าศูนย์วิจัยการแพทย์แม่นยำ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว เกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 โดยกล่าวในเชิงตั้งคำถามไปถึงประชาชนทุกคนว่า ผ่านมา 10 วัน ของมาตรการสกัดการระบาดเชื่อว่าทุกคนคงบอกได้ว่าประสบผลสำเร็จหรือไม่ เมื่อย้อนกลับไปดูจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ยังคงสูงขึ้นเรื่อย ๆ สอดคล้องกับการระบาดโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาที่ทั่วประเทศกำลังเผชิญไปก่อนหน้านี้ และคาดว่าภายในเดือนนี้สายพันธุ์เดลตา น่าจะมาแทนสายพันธุ์อัลฟา เป็นสายพันธุ์ของไทย หลังจาก กทม. พบผู้ป่วยติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาแทบจะทุกราย
บทเรียนจากประเทศอังกฤษในช่วงการที่สายพันธุ์เดลตาระบาดในระยะแรก จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นราว 3 เท่าจากฐานเดิม ขณะที่ไทยก็เดินมาถึงจุดนี้เหมือนกันคือจาก 2-3 พันคน เพิ่มมาเป็น 6,500 คนเมื่อวานนี้ ถ้าเราดูแบบแผนการระบาดของอังกฤษจะเห็นว่าหลังจากสายพันธุ์เดลตา ยึดครองพื้นที่ได้หมด จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังพุ่งสูงขึ้นอีก 3-4 เท่าถ้าไม่มีมาตรการอะไรเพิ่มเติม
“ข้อมูลผู้ป่วยหนัก ผู้ป่วยในไอซียูเพิ่มมากแค่ไหน ตัวเลขที่สื่อนำเสนอคงเห็นกันอยู่ เมื่อวานเรามีผู้ป่วยหนักสูงเป็นอันดับ 12 ของโลก แม้จะระดมสร้าง รพ.จริง, จัดหาเตียง, เนรมิตเครื่องช่วยหายใจ, ออกซิเจน, อุปกรณ์การแพทย์ต่าง ๆ ได้ชั่วข้ามคืน เราก็ไม่สามารถเพิ่มจำนวนบุคลากรได้มากกว่านี้อีก”
นพ.มานพ ยังกล่าวอีกว่า ทางเลือกอื่นในการสกัดการระบาด ไม่ว่าจะเป็นการระดมสร้างภูมิคุ้มกันผ่านวัคซีน กทม. และอีกหลายจังหวัดเสี่ยงมีการฉีดวัคซีนไปพอสมควร แต่ด้วยประสิทธิภาพของวัคซีน ระยะเวลาในการกระตุ้นภูมิ รวมถึงจำนวนผู้ได้รับวัคซีนที่ยังไม่มากพอ เราหวังผลจากมันไม่ได้มากพอแน่นอน การตรวจก็มีข้อจำกัด ตัวเลขการตรวจรวมรายสัปดาห์ ฉบับล่าสุดของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ยังไม่เผยแพร่ออกมา แต่ถ้าดูข้อมูล ศบค. ในตาราง พบว่าตรวจหาผู้ติดเชื้อได้ต่ำมาก กทม. และปริมณทล ตรวจได้เพียงวันละ 3,000 คน แต่จำนวนการติดเชื้อกลับสูงมาก ๆ จนน่าตกใจ การค้นหาผู้ป่วยและแยกโรคแทบเป็นไปไม่ได้ ในเมื่อ 2 ทางเลือกข้างต้นทำไม่ได้ คงเหลือทางสุดท้ายในการตัดตอนการระบาด คือล็อกดาวน์ประเทศเต็มรูปแบบ
“ ท่าน ผู้บริหาร ศบค. กล่าวไว้ว่า การทำล็อกดาวน์ประเทศแบบ 100 % แบบช่วงเมษายนปีที่ผ่านมา รัฐหมดค่าใช้จ่ายถึงเดือนละ 3 แสนล้านบาท เงินจำนวนนี้สามารถเพิ่มความจุในการตรวจเชื้อ, ปรับปรุงระบบการเฝ้าระวังการระบาด, เพิ่มศักยภาพของระบบโรงพยาบาล, ซื้อวัคซีนประสิทธิภาพสูง วางแผนการจัดหาและกระจายรวดเร็ว และมีปริมาณเกินพอสำหรับคนทั้งประเทศได้ และเรามีเวลาให้เตรียมการนานถึง 1 ปี บางที … พวกเราในฐานะประชาชน ควรใช้เหตุการณ์ทั้งหมดเป็นบทเรียนว่า เราปล่อยให้สถานการณ์เดินมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร”

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า