ผ่าอาณาจักร 2.3 แสนล้าน ‘เซ็นทรัลพัฒนา’ ยักษ์ศูนย์การค้าเมืองไทย

 ชื่อของ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา หรือ CPN ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงเป็นวงกว้างอีกครั้งในช่วงไม่กี่วันมานี้ หลังจากที่เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 2564 เซ็นทรัลพัฒนาประกาศเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของ บมจ.สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ หรือ SF ที่เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ถือครองอยู่ หรือคิดเป็นจำนวน 30.36% มูลค่ากว่า 7.76 พันล้านบาท

ซึ่งหลังจากการซื้อขายแล้วเสร็จในเดือน ส.ค. 2564 ก็จะส่งผลให้ CPN กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน SF ซึ่งทำธุรกิจในการบริหารศูนย์การค้าหลายแห่ง เช่น เมกาบางนา, วิลล่า อารีย์, ดิ อเวนิว, เจ อเวนิว, เอสพลานาด รัชดา เป็นต้น

และที่สำคัญคือ CPN ระบุว่าดีลนี้จะช่วยขยายพอร์ตศูนย์การค้าขนาดใหญ่ Super Regional Mall ของบริษัท เพิ่มขึ้นเป็น 2 แห่ง คือ เซ็นทรัล เวสต์เกต และเมกาบางนา ที่ซึ่งมีพันธมิตรระดับโลกอย่าง ‘อิเกีย’ อยู่ด้วย

สำหรับเซ็นทรัลพัฒนา ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 17 มิ.ย. 2523 ทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท ก่อนจะเติบโตและแปรสภาพมาเป็นบริษัทมหาชนในปี 2537 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2538

โดยปัจจุบัน CPN เป็นผู้พัฒนาและบริหารจัดการศูนย์การค้า 34 แห่ง มีพื้นที่ให้เช่าสุทธิรวม 1.8 ล้านตารางเมตร (อยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 15 โครงการ, ต่างจังหวัด 18 โครงการ และในมาเลเซีย 1 โครงการ) โดยโครงการใหม่ที่เตรียมเปิดตัวในปีนี้ ได้แก่ เซ็นทรัลพลาซา อยุธยา และ เซ็นทรัลพลาซา ศรีราชา

นอกจากนี้ในมือ CPN ยังมีศูนย์อาหาร 30 แห่ง อาคารสำนักงาน 10 อาคาร โรงแรม 2 แห่ง โครงการที่พักอาศัยอีก 18 โครงการ ประกอบด้วยคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ ESCENT, ESCENT VILLE, ESCENT PARK VILLE, PHYLL PAHOL 34 และ BELLE GRAND RAMA 9

และโครงการแนวราบภายใต้แบรนด์ ESCENT TOWN พิษณุโลก (ทาวน์โฮม) นินญา กัลปพฤกษ์ (บ้านแฝด) โครงการนิยาม บรมราชชนนี (บ้านเดี่ยวระดับลักชูรี่) และโครงการบ้านเดี่ยวแบรนด์ใหม่ ได้แก่ นีรติ เชียงราย และนีรติ บางนา โดยโครงการดังกล่าวได้รวมส่วนที่อยู่ภายใต้บริษัท แกรนด์ คาแนล แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLAND ที่เซ็นทรัลพัฒนาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่

ขณะเดียวกันยังเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีสินทรัพย์ที่ดำเนินการแล้ว และสินทรัพย์ที่รอการพัฒนาอยู่บนทำเลศักยภาพสูงในกรุงเทพฯ อีกทั้งมีโครงการระดับโลกที่ร่วมกับพันธมิตรชั้นนำ อาทิ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค อีกด้วย

ทั้งนี้ ธุรกิจศูนย์การค้าถือเป็นธุรกิจหลักที่สร้างรายได้กว่า 80% ของรายได้รวม โดยปีที่ผ่านมามีรายได้รวม 33,161 ล้านบาท ลดลง 13.6% และมีกำไรสุทธิ 9,557 ล้านบาท ลดลง 19% จากปีก่อน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลกระทบมาจากโควิดที่กระทบกับเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง

ขณะที่ SF มีโครงการที่ดำเนินการอยู่ทั้งหมดจำนวน 18 โครงการ ประกอบด้วย ศูนย์การค้าชุมชน ศูนย์ไลฟ์สไตล์ ศูนย์รวมสินค้าเฉพาะอย่าง ร้านค้าปลีก ศูนย์บันเทิง และการลงทุนในโครงการเมกาบางนา ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ในกรุงเทพและปริมณฑลฯ ด้วยพื้นที่เช่าเพื่อการค้าปลีกรวมกันกว่า 4 แสนตารางเมตร

ดังนั้น เรียกได้ว่าการเสริมทัพเซ็นทรัลพัฒนาด้วยการซื้อกิจการในครั้งนี้ เป็นการติดปีกตำแหน่งผู้นำในธุรกิจศูนย์การค้าของ CPN ได้เป็นอย่างดี จากที่ CPN รั้งเบอร์ 1 ในตลาดอยู่แล้วด้วยมาร์เก็ตแชร์ 36% รองลงมาคือกลุ่มเดอะมอลล์ 20% (คิดส่วนแบ่งทางการตลาดจากปริมาณพื้นที่รวม 18.9 ล้านตารางเมตร)