SHARE

คัดลอกแล้ว

รมว.ดีอีเอส เตือน ดารา-อินฟลูเอนเซอร์ ที่ออกมาใช้โซเชียลโจมตีรัฐบาล เข้าข่ายบิดเบือนข้อมูล เผย เตรียมดำเนินคดี มือโพสต์หมิ่นจากสถานการณ์ชุมนุม 18 ก.ค. 2564 จำนวน 147 ราย พบมากสุดบนทวิตเตอร์

วันที่ 21 ก.ค. 2564 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า จากกรณีสถานการณ์การชุมนุมที่ผ่านมา และมีการโพสต์หรือส่งต่อข้อความที่เข้าข่ายการกระทำความผิด ศูนย์เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์การชุมนุมและใช้โซเชียลมีเดีย กระทรวงดิจิทัลฯ พบว่า มีการโพสต์หรือแชร์ข้อความที่เข้าข่ายการกระทำความผิด ทั้งหมด 147 ราย ประกอบด้วย จากเฟซบุ๊ก 15 ราย ทวิตเตอร์ 132 ราย ซึ่งทั้งหมดอยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินการตามข้อกฎหมายต่อไป

สำหรับ การโพสต์หรือแชร์ข้อความผิดกฎหมายลงในระบบคอมพิวเตอร์ / ผ่านโซเซียลมีเดีย จะมีโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 ม.14 (3) การนำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดใดอันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญา ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายชัยวุฒิ กล่าวด้วยว่า ผมอยากเตือนผู้ใช้สื่อออนไลน์ทุกคนด้วยความห่วงใยว่า ให้เพิ่มความระมัดระวังในการโพสต์ เพราะหากโพสต์ข้อความที่เป็นเท็จ สร้างข่าวปลอมในระบบคอมพิวเตอร์ รวมถึงการแชร์ข้อความเท็จนั้น ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย รวมทั้งให้มีความตระหนักในการรวมกลุ่มกันทำกิจกรรมที่สุ่มเสี่ยงต่อการฝ่าฝืนข้อกำหนดหรือกฎหมายในช่วงสถานการณ์วิกฤติโควิด-19

ทั้งนี้ กระทรวงดิจิทัลฯ และกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานติดตามความเคลื่อนไหวสถานการณ์ชุมนุมโดยเฉพาะสื่อสังคมออนไลน์ นอกจากติดตามแล้วก็จะสืบค้นถึงต้นโพสต์ แม้จะเป็นอวตารก็จะหาตัวให้ได้เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำไปดำเนินคดีต่อไป

“ที่สำคัญกลุ่มดารานักแสดง Influencer เป็นบุคคลสาธารณะที่ประชาชนรักและศรัทธา ขอความกรุณาอย่าใช้สิ่งเหล่านี้เคลื่อนไหวทางการเมืองโจมตีรัฐบาล เพราะสิ่งที่ทำเป็นการบิดเบือนข้อมูล เป็นการสร้างเฟคนิวส์ขึ้นในระบบโซเชียลมีเดีย ท่านพูดแต่ว่าทุกวันนี้มีคนตายเป็นจำนวนมากเพราะโควิดเนื่องจากวัคซีนไม่ดีเป็นความผิดของรัฐบาล แล้วมันจริงหรือไม่ ขอให้อย่ามองเพียงด้านเดียว ต้องนึกถึงสิ่งที่รัฐบาลได้ทำมาได้จัดหาวัคซีนมาอย่างดีตามมาตรฐาน เทียบกับประเทศเพื่อนบ้านเราตอนนี้” นายชัยวุฒิ กล่าว

ทั้งนี้ ปัจจุบัน หากมองภาพรวมในภูมิภาคอาเซียน ประเทศไทยได้รับการฉีดวัคซีนเป็นอันดับ 2 ในภูมิภาคนี้ ซึ่งช่วงวิกฤติที่ผ่านมา ทุกภาคส่วนของประเทศไทย ได้ช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่เพื่อให้สถานการณ์การระบาดโควิด-19 คลี่คลายให้เร็วที่สุด จึงจำเป็นจะต้องได้รับความร่วมมือและให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ร่วมแรงร่วมใจกันต่อสู้กับภัยโควิด-19 บนพื้นฐานความปลอดภัยและความรับผิดชอบต่อสังคมในสถานการณ์นี้

ด้าน พล.ต.ต. ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวย้ำว่า การโพสต์เชิญชวนด้วยประการใดๆ ให้มีการร่วมกระทำผิดโดยเฉพาะการชุมนุมหรือการมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นความผิดทางกฎหมาย ผู้โพสต์ ผู้เชิญชวน ผู้ประกาศ ส่งต่อด้วยประการหนึ่งประการใด จะเป็นความผิดตามกฎหมายที่ได้กล่าวไปแล้ว

ต่อมา นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า การที่กลุ่มดารา หรือ บุคคลมีชื่อเสียงออกมา Call Out เพื่อประชาชนเป็นเรื่องสิทธิที่ตัดสินใจจะกระทำได้ ส่วนการแชร์เฟกนิวส์ต่างๆ ตนเองเชื่อว่าคนดังและประชาชนสามารถวิเคราะห์ แยกแยะ ว่าอะไรที่ทำได้ หรือทำไม่ได้อยู่แล้ว

นายธัญวัจน์ กล่าวอีกว่า หากมองสิ่งที่นายชัยวุฒิ ออกมาให้ความเห็นผ่านสื่อครั้งนี้ และเราต้องยอมรับตรรกะอันนี้จริงๆ สมมุติว่า คนดังห้ามเคลื่อนไหวทางการเมือง ก็ต้องถามว่า การที่นายชัยวุฒิ บอกว่า อย่าเคลื่อนไหวทางการเมืองโจมตีรัฐบาล นั้น ก็ย้อนแย้งในคำพูดเพราะมันควรจะเป็น อย่าเคลื่อนไหวทางการเมืองโจมตีรัฐบาล และ ชื่นชมรัฐบาล แบบนี้ดูจะเป็นมาตรฐานเดียวกัน หากจะให้สังคมไทยไม่มีหลายมาตรฐาน ก็อยากจะให้ นายชัยวุฒิ ออกมาพูดห้ามปรามคนที่ชื่นชมรัฐบาลเหมือนกันว่า อย่าชมรัฐบาลมาก เพราะคุณคือบุคคลสาธารณะที่ประชาชนรักและศรัทธา การชื่นชมเกินไป ก็จะทำให้สังคมไร้การตรวจสอบรัฐบาล และไม่สามารถสะท้อนความต้องการความเดือดร้อนของสังคมได้

อย่างไรก็ดี คนดังทุกคนล้วนมีราคาที่ต้องจ่ายจากการตัดสินใจของเขา และเป็นสิทธิเสรีภาพในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่งพวกเขาย่อมกระทำได้ และผลที่ตามมา คนดังก็ต้องยอมรับ และมีหลายคนที่ได้ตัดสินใจเลือกแล้ว วันนี้เรามีดาราประชาชน หรือ ดาราประชารัฐ ประชาชนก็คงเลือกศรัทธานั่นก็คือเสรีภาพของประชาชนเช่นกัน

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า