ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วจะไม่ต้องกักตัวเมื่อเดินทางกลับเข้ามายังสิงคโปร์ แต่ต้องมีการพิจารณาถึงความเสี่ยงของประเทศปลายทางอีกที
วันที่ 26 ก.ค. 2564 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า รัฐบาลสิงคโปร์กำลังวางแผนที่จะเปิดให้เดินทางเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องเข้ารับการกักตัวในเดือนก.ย. นับเป็นครั้งแรกที่สิงคโปร์จะเปิดประเทศอีกครั้งหลังจากปิดพรมแดนไปเป็นเวลากว่า 1 ปี
ลอว์เรนซ์ หว่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสิงคโปร์กล่าวในสภาว่า ทางรัฐบาลคาดว่าเมื่อถึงตอนนั้น จะมีประชากรที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วในสัดส่วน 80%
การฉีดวัคซีนให้กับประชากรได้เป็นจำนวนมาก ทำให้รัฐสามารถผ่อนคลายมาตรการได้มากขึ้น รวมไปถึงการเปิดให้ประชาชนที่ฉีดวัคซีนครบแล้วสามารถรวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่ได้
ทั้งนี้ สิงคโปร์จะเริ่มจับคู่กับประเทศต่างๆ ที่การระบาดอยู่ในระดับควบคุมได้ โดยนายหว่องยืนยันว่า การมีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่หรือแม้กระทั่งการเสียชีวิต เป็นสิ่งที่ทางสิงคโปร์ไม่อยากจะปล่อยให้เกิดขึ้น แต่ในเวลาเดียวกัน ก็ไม่จำเป็นต้องรอให้ประชาชนทุกคนได้รับวัคซีนครบก่อนจึงจะเปิดประเทศเช่นกัน เพราะนั่นเท่ากับว่าอาจจะต้องรอไปจนสิ้นปี
หลังจากที่ฉีดวัคซีนได้ตามเป้าที่วางไว้แล้ว ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบโดสจะสามารถเดินทางได้โดยไม่ต้องกลับมากักตัวในโรงแรม 14 วัน แต่ก็ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงของประเทศปลายทางด้วย ส่วนผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนก็สามารถเดินทางได้เช่นกัน โดยจะต้องกลับมากักตัวตามปกติหลังจากกลับเข้าประเทศ
ปัจจุบันมีชาวสิงคโปร์กว่าครึ่งได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว และตั้งเป้าว่าจะฉีดให้ครบ 2 ใน 3 ของประชา่กรภายในวันที่ 9 ส.ค. ซึ่งเป็นวันฉลองอิสรภาพ
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนก.ค. สิงคโปร์ประสบปัญหาการระบาดอีกครั้ง โดยมีต้นตอมาจากคาราโอเกะเลานจ์และท่าเรือประมง ทำให้มีผู้ติดเชื้อรวมจากคลัสเตอร์เหล่านี้กว่า 1,000 คน
การระบาดครั้งนี้สร้างความกังวลให้กับบางส่วน ที่เป็นห่วงว่าผู้สูงอายุราว 200,000 คนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน อาจได้รับผลกระทบจากการเปิดประเทศได้