SHARE

คัดลอกแล้ว

ไม่ไว้วางใจ ทำไมยังให้งบฯ ไปบริหาร ปมร้อนระอุ จนเดือด จับตาร้อยร้าว ‘ก้าวไกล-เพื่อไทย’ อีกครั้ง เท 16,300 ล้านบาท เข้ามือ นายกรัฐมนตรี

หลังมติคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 (กมธ. งบประมาณ 2565) คืนงบประมาณที่ได้ตัดลดงบจากหน่วยงานต่างๆ กว่า 16,300 ล้านบาท ไปไว้ที่งบกลางทั้งหมด โดยมี กมธ. จากพรรคเพื่อไทย เป็นเสียงข้างมากที่เห็นด้วยกับมติดังกล่าว เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 2564 ได้เกิดความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วยกัน

ค่ำวันที่ 3 ส.ค. 2564 คณะก้าวหน้าและพรรคก้าวไกล ได้เปิด Clubhouse  แฉสิ่งที่เกิดขึ้นใน ห้องกมธ. งบประมาณ 2565

‘งบกลาง’ คืออะไร ?

นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส. พรรคก้าวไกล อธิบายว่า ‘งบกลาง’ คือ เงินรายจ่าย On top ของงบประมาณตามปกติ งบประมาณตามปกติที่แยกเป็นราย ‘กรม’ ต้องผ่านการกลั่นกรองหลายชั้น ตั้งแต่สำนักงบประมาณ สภาฯ มีการแจกแจงรายละเอียดชัดเจนว่า โครงการใด ใช้เงินเท่าไหร่ โครงไหนไม่จำเป็นต้อตัดออก ยกเว้น งบกลาง เพราะเป็นงบที่สามารถนำไปเสริม เติม แต่ง ใช้ตรงไหนก็ได้ โดยไม่มีการกลั่นกรอง และไม่มีแผนการใช้เงินชัดเจน

ปี 2565  มีการตั้งงบกลางไว้ที่ 571,047 ล้านบาท แยกเป็นรายการ 11 ประเภท ซึ่งประเภทที่เป็นประเด็น ในทางปฏิบัติน่าห่วงที่สุด คือส่วนที่เรียกว่า ‘เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น’ มีการตั้งไว้ 89,000 ล้านบาท ส่วนนี้นายสุรเชษฐ์ และส.ส. ก้าวไกล ย้ำว่า เหมือน ‘เช็คเปล่า’ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้ได้ตามอำเภอใจ และที่ผ่านๆ มา ก็พบการใช้งบที่ซ้ำซ้อนกับการใช้งบตามปกติ และยังเป็นช่องทางให้ส.ส. วิ่งเข้าไปของบฯ จากนายกฯ แทนที่จะให้กับหน่วยงานราชการโดยตรง

การอ้าง เท 16,300 ล้านบาท จากที่กมธ. และอนุฯ รีดไขมัน หน่วยงานอื่นๆ มา แต่นำไปใส่งบกลางให้งบกลางทั้งหมด ด้วยการอ้าง  เพื่อเป็น ‘ค่าใช้จ่ายในการบรรเทาแก้ไขปัญหาและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด’ นั้น เป็นสิ่งที่พรรคก้าวไกลไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะรัฐบาลเพิ่งออก พ.ร.ก. เงินกู้ 2 ฉบับ ฉบับแรก 1 ล้านล้านบาท ฉบับที่สองอีก 5 แสนล้านบาท ซึ่งใน พ.ร.ก. เงินกู้ทั้ง 2 ฉบับ แม้มีการแบ่งกรอบการใช้ไว้ 3 ก้อน แต่ทั้งหมดสามารถใช้แก้ปัญหาเยียวยาฟื้นฟู จากโควิด-19 ได้

ขนบการเมืองจัดสรรงบฯ ที่ผ่านมา และ มาตรา 144 ที่ถูกพูดถึง

นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส. ก้าวไกล เล่าว่ามีความผิดปกติก่อนลงมติ ในขณะที่กมธ. คนอื่นๆ กำลังขอตัดงบประมาณหน่วยงานต่างๆ มีกมธ. คนหนึ่งเปิดไมค์พูดขึ้นว่า การที่มาตัดงบประมาณโดยที่อนุฯ รายงานเสร็จไปแล้ว ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ซึ่ง ประธาน กมธ. ยืนยันว่า อำนาจการตัดงบอยู่ที่กมธ. แน่นอน ทำให้กมธ. คนดังกล่าว บอกว่า ถ้าจะทำอย่างนี้จะไปร้องว่าการกระทำอย่างนี้มันผิดกระบวนการ และผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 144 กลายเป็นการล้มโต๊ะการตัดงบทั้งหมด ทั้งๆ ที่หลายรายการสามารถโน้มน้าวให้ฝั่งรัฐบาล ทั้งพรรคพลังประชารัฐ ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ ซึ่งคนที่ทำแบบนี้ดันเป็นคนที่เราไม่คิดว่าจะทำ

ขณะที่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส. ก้าวไกล กล่าวว่าที่ผ่านมางบที่ตัดจากหน่วยงานอื่นๆ ไม่เคยเทลงงบกลางเลยแม้แต่บาทเดียว อย่างในปี 63 จะแปรไปที่กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา กองทุนประกันสังคม ศาลยุติธรรม สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร องค์กรอิสระ เพราะปีนั้นสามารถเจรจาทางการฝั่งรัฐบาลได้ ส่วนปี 64 ตัดงบมาได้ 33,000 ล้านบาท แล้วตกลงไม่ได้ แปรเพิ่มให้หน่วยงาน 17,000 ล้านบาท ที่เหลือ 15,000 ล้านบาทจึงตัดทิ้งไปเลย ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ทำกัน แม้จะมีการขู่เรื่อง มาตรา 144 แต่ก็มีกมธ. อีกส่วนที่กล้าพอจะท้าทายว่าไม่น่าจะผิดจริง

เรื่อง ม.144 มีการขู่กันมาทุกปี ตั้งแต่ปี 63-64 จะกังวลกันมาก พอถึงเวลาโหวตแปรงบเพิ่ม ก็จะมีกมธ. บางคนขอออกนอกห้องทันที โดยเฉพาะ ผอ. สำนักงบประมาณ เพราะโทษของเจ้าพนักงาน หรือเจ้าหน้าที่รัฐที่ทำหน้าที่อนุมัติ จัดสรรเงิน โทษค่อนข้างรุนแรง ยึดทรัพย์ 20 ปี หากแปรงบเพิ่มให้หน่วยงาน และมีอีกสายบอกว่าเป็นธงจากนายกฯ ว่าจะไม่ให้หน่วยงานอื่นนอกจากงบแก้ไขปัญหาโควิด

นายปกรณ์วุฒิ  กล่าวเสริมถึงเนื้อหาในมาตรา 144 นั้น แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1. ส.ส. ห้ามแปรงบเพิ่ม ตัดลดได้อย่างเดียว ห้ามเพิ่มรายการ 2. ไม่สามารถแปรญัตติโดยการใช้งบประมาณโดยทางตรงหรือทางอ้อมจะกระทำมิได้ ซึ่งหากดูรัฐธรรมนูญ ปี 60 ใน มาตรา 144 แล้วย้อนไปที่ รัฐธรรมนูญ 40 มาตรา 180 และรัฐธรรมนูญ 50 มาตรา 168 พบว่า เนื้อหาเหมือนกันแสดงว่าเรื่องนี้มีมา 24 ปี ซึ่งถ้าลองนับ 3 ปีที่ผ่านมา ปีนี้เป็นปีแรกที่โอนเข้างบกลาง 100% ทั้งที่ 2 ปี ก่อนหน้านี้ก็แปรงบเข้าหน่วยงานอื่น ไม่เคยมีใครมีปัญหา คนที่เป็นกมธ. ในปีนี้ ปีที่แล้วก็นั่งเป็นกมธ. หลายคนมีประสบการณ์มาแล้ว ไม่เข้าใจว่าทำไมมากลัวตอนนี้

“ถ้ากลัวมาก ๆ กลัวไปทุกอย่าง ก็ไม่ต้องคืนใคร ให้มันแหว่งไป 16,000 ล้านบาท ไม่เดือดร้อนขนาดนั้น อนุฯ พยายามรีดไขมัน ถ้ากลัว 144 จริง ๆ ก็ไม่เลือก แต่นี่เลือกงบกลาง”

ข้ามมาอีกห้อง ในคืนเดียวกัน ดูเหมือนอุณหภูมิดุเดือดกว่า เพราะมีตัวแทนจากเพื่อไทย อย่าง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว, ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร เข้ามาร่วมเวที เจอกับ ปิยบุตร แสงกนกกุล แล้วตามมาด้วย วิโรจน์ ลักขณาอดิศร จากพรรคก้าวไกล

โดยสรุปที่ นพ.ชลน่าน ชี้แจงกรณีที่เพื่อไทยเห็นควรให้เทงบที่ตัดลดจากหน่วยอื่นๆ ไปอยู่ที่งบกลาง เพราะเพื่อไทยเห็นว่าถูกระบุมาชัดเจนว่าใช้เพื่อกรณีฉุกเฉินเกี่ยวกับโควิดในขณะที่ส่วนอื่นไม่ได้ระบุชัดเจน งบ 16,000 ล้านบาท พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ไปใช้ตามอำเภอใจอยู่แล้ว เพราะต้องผ่านเสียงข้างมากของสภาอีกที มั่นใจว่าจะตามเรื่องและตรวจสอบได้ และยืนยันว่าไม่ได้เป็นการโยกมาให้พรรคตัวเอง

อย่างไรก็ตามหนึ่งในประโยคที่ นพ.ชลน่าน พูดแล้วทำให้เกิดเสียงฮือฮาขึ้นทันที คือ “ตัวผมเองก็ไม่อยากให้ประยุทธ์ใช้งบนี้หรอกครับ แต่หลังตุลานี้ อาจจะเป็นคนอื่นมาใช้ แล้วมีเครื่องไม้เครื่องมือที่พร้อมใช้งาน” 

ขณะที่ ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ประกาศท้า “จะลาออกจากตำแหน่ง ส.ส.” ถ้าใครหาหลักฐานได้ว่า งบกลางนี้ไม่ได้เอาไปช่วยเหลือโควิด แต่นำไปซื้อกระสุนยาง แก๊สน้ำตา

(สุทิน คลังแสง ส.ส.เพื่อไทย ประธานวิปฝ่ายค้าน)

นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน แถลงข่าวในเช้าวันที่ 4 ส.ค. 2564 ว่า เป็นการมองต่างมุมที่แปร 16,000 ล้านบาทไปงบกลาง ยืนยันเพื่อไทยไม่ได้มีจุดยืนที่จะร่วมมือเห็นดีเห็นงามกับรัฐบาลทุกเรื่อง เพิ่งมีเรื่องเดียวตรงกันคืองบกลาง เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล ยังทำงานร่วมกันได้ สักพักจะเข้าใจกัน โดยเฉพาะในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่กำลังจะมาถึง

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า