สธ. เผยยอดเสียชีวิตจากโควิดไทยต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก 

สธ.เผยภาพรวมสถานการณ์โควิด-19 ของไทย การติดเชื้อยังสูงแต่อัตราการเสียชีวิตไทยต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก 

วันที่ 15 ส.ค. 2564 นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โควิด-19 ว่าวันนี้ มีผู้ติดเชื้อเพิ่มใหม่ 21,882 ราย ตั้งแต่การระบาดปี 2563 สะสม 907,157 ราย หายป่วยกลับบ้าน 21,106 ราย เป็นวันที่มีการติดเชื้อเกิน 2 หมื่นอีกครั้งและหายป่วยอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน 

อย่างไรก็ตามหลายประเทศดูจุดสำคัญนอกจากตัวเลขติดเชื้อใหม่ คือ ผู้ป่วยที่มีอาการหนัก โดยเฉพาะประเทศทางตะวันตกที่มีการติดเชื้อจำนวนมาก แต่ผู้ที่มีอาการป่วยจนเข้าโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตจะเป็นตัวบอกแนวโน้มสำคัญ ซึ่งไทยมียอดผู้ป่วยปอดอักเสบ 5,615 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 1,172 รายในจำนวนนี้อยู่ในกรุงเทพมหานคร (กทม.) 362 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตใหม่ 209 ราย สะสมในการระบาดรอบเดือน เม.ย. 2564 รวม 7,458 ราย คิดเป็น 0.85% เป็นตัวเลขต่ำกว่า 1% ที่เป็นค่าเฉลี่ยทั่วโลก

นพ.เฉวตสรร กล่าวว่า ผู้เสียชีวิต 209 ราย อยู่ใน กทม. 83 ราย ใน 5 จังหวัดปริมณฑล 58 ราย รวมกันเป็น 141 รายซึ่งเป็นส่วนใหญ่ของผู้เสียชีวิตโดยรวม เป็นเพศชาย 117 ราย เพศหญิง 92 ราย ค่ากลางอายุที่ 68 ปี จะเห็นว่าจุดสำคัญคือผู้สูงอายุ 

โดยข้อมูลผู้เสียชีวิตอายุ 60 ปีขึ้นไปมี 137 รายคิดเป็น 66% และน้อยกว่า 60 ปี พบว่า โรคเรื้อรัง/โรคประจำตัว 48 รายคิดเป็น 23% ซึ่งเมื่อรวมกันแล้วสูงถึง 89% ซึ่งเป็นเหตุผลที่เน้นย้ำให้มีการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันป่วยรุนแรงและเสียชีวิต ขณะที่หญิงตั้งครรภ์ พบ 2 รายที่ร้อยเอ็ด และศรีสะเกษ ปัจจัยเสี่ยงสำคัญคือ ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง เบาหวานและภาวะอ้วน โรคประจำตัวอื่นๆ

นพ.เฉวตสรร กล่าวว่า กองระบาดวิทยา ได้รวบรวมผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ข้อมูลตั้งแต่ 1 พ.ค. – 14 ส.ค. จำนวน 6,758 ราย พบว่าเป็นกลุ่มอายุ 60 – 69 ปีขึ้นไป 24% อายุ 70 ปีขึ้นไป 42% รวมกันสูงถึง 68% ซึ่งต้องติดตามต่อเนื่องเพื่อระบุความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตให้ชัดเจนเพื่อเน้นการเข้าถึงวัคซีนป้องกัน

ภาพรวมสถานการณ์ไทย การติดเชื้อยังรายงานอยู่ในระดับสูงและคงตัวอยู่ เป็นเหตุผลส่วนหนึ่งเกิดจากมาตรการที่เข้มข้นต่อเนื่องตั้งแต่เดือน ส.ค. พื้นที่ต่างจังหวัด เดิมจะน้อยกว่ากทม. และปริมณฑล และช่วงหลังการกระจายออกไปเยอะ จึงเป็นส่วนที่มากขึ้นมาก