ครม. รับหลักการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.โรคติดต่อให้ทันสมัย-เพิ่มอำนาจคุมโควิด-19 คุ้มครองบุคลากรทางสาธารณสุขด่านหน้า และอาสาสมัครที่ทำงานในสถานการณ์ฉุกเฉิน-โรคระบาดรุนแรง
วันที่ 17 ส.ค. 2564 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบในหลักการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โรคติดต่อให้ทันสมัย นอกจากนี้ ยังให้เพิ่มหมวดสถานการณ์ฉุกเฉินของการแพร่ระบาดของโรคอย่างรุนแรงเพื่อเพิ่มอำนาจด้านสาธารณสุขให้เข้มข้นขึ้น รวมถึงคุ้มครองบุคลากรทางแพทย์และบุคคลากรที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการโรคระบาด
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุม ครม. ได้ให้กระทรวงสาธารณสุข และคณะกรรมการกฤษฎีกา ไปปรับปรุงในรายละเอียดเพิ่มเติม และยังไม่ได้ข้อยุติว่าจะออกเป็นพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) หรือ พ.ร.บ.
มีรายงานด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ซึ่งถูกยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจได้กล่าวส่งท้ายในที่ประชุม ครม. ว่า ให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่ถูกยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ชี้แจงให้ดี และยังระบุว่า ข้อกล่าวหาที่ฝ่ายค้านยื่นมานั้นใช้คำรุนแรงมากเกินไป
ด้าน น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุม ครม. เห็นชอบในหลักการร่างพระราชบัญญัติโรคติดต่อ (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม) ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 กำหนดให้มีมาตรการที่จำเป็นและมีประสิทธิภาพในการป้องกัน ระงับ ควบคุม หรือขจัดโรคติดต่อที่มีการระบาดในกรณีปกติและในกรณีที่มีความรุนแรงให้ยุติหรือบรรเทาลงโดยเร็ว
“โดยเพิ่มหมวดเกี่ยวกับการจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุข เพื่อแยกการจัดการโรคติดต่อในสถานการณ์ปกติออกจากโรคติดต่ออันตรายร้ายแรงที่มีลักษณะของการเป็นโรคอุบัติใหม่/โรคติดต่ออุบัติซ้ำที่อาจกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนหรือความมั่นคงของรัฐ เพื่อให้สาระของกฎหมายมีความสอดคล้องกับการดำเนินการด้านสาธารณสุขในภาวะฉุกเฉินโรคระบาดมากยิ่งขึ้น และต่อไปจะได้ไม่ต้องประกาศใช้พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พรก.ฉุกเฉิน)”
ทั้งนี้ ครม. เห็นชอบให้คณะกรรมการกฤษฎีกา นำสาระของฏหมายไปพิจารณาปรับปรุงในรายละเอียดต่อไป โดยหามาตรการคุ้มครองบุคลากรทางสาธารณสุขด่านหน้า และอาสาสมัครที่ทำงานไปตามปกติ