ไทยติดโควิดเสียชีวิตทำสถิติสูงสุด 312 ราย ติดเชื้อ 20,515 ราย

อัปเดตสถานการณ์โควิด-19 วันนี้ ยอดเสียชีวิตทำสถิติสูงสุด รักษาตัวหายกลับบ้านได้แล้ว 730,437 ราย และมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 20,128 ราย

วันที่ 18 ส.ค. 2564 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์โควิด-19 วันนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 20,128 ราย สะสม 948,442 ราย พบผู้เสียชีวิตใหม่ 239 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมทั่วประเทศอยู่ที่ 7,973 ราย ผู้ป่วยรักษาตัวหายกลับบ้านเพิ่ม 20,791 ราย รวมยอดผู้ป่วยรักษาตัวหายกลับบ้านได้แล้ว 730,437 ราย ยังเหลือรักษาตัวในโรงพยาบาล 210,032 ราย

ไทยฉีดวัคซีนล่าสุดกว่า 24.3 ล้านโดส

กระทรวงสาธารณสุข เผยประสิทธิภาพวัคซีนทั้งซิโนแวค และแอสตราเซนเนกา ที่ฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์ พบว่าช่วยป้องกันอาการรุนแรง เสียชีวิต และการติดเชื้อได้ ทั้งการฉีดแบบสูตรเดิม และสลับชนิด ข้อมูลการระบาดของเชื้อโควิด-19 ล่าสุด พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา มากที่สุดถึง 78.2 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่สายพันธุ์แอลฟา พบ 21.2 เปอร์เซ็นต์ และสายพันธุ์บีตา พบ 0.6 เปอร์เซ็นต์

นพ.ทวีทรัพย์ ศิรประภาศิริ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า แม้เชื้อกลายพันธุ์จะระบาดหนัก แต่ผลการประเมินประสิทธิภาพ หลังฉีดวัคซีนในบุคลากรทางการแพทย์ พบว่า หลังฉีดวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็ม ไป 14 วัน สามารถป้องกันการป่วยรุนแรงและเสียชีวิต 98% และป้องกันการติดเชื้อได้ 72%

ส่วนวัคซีนแอสตราเซนเนกา หลังฉีดไป 1 เข็ม 14 วัน สามารถป้องกันการติดเชื้อและการป่วยได้ 88%  และหากครบ 2 เข็ม ไป 14 วัน ก็จะสามารถป้องกันการติดเชื้อและการป่วยได้ 96%

นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กล่าวว่า ผลการฉีดวัคซีนสลับชนิด เข็มแรกซิโนแวค เข็ม 2 แอสตราเซนเนกา พบว่า กระตุ้นให้เกิดภูมิคุ้มกันระดับที่สูง และมีระยะห่างในการฉีดเข็มที่ 2 สั้นกว่าการฉีดวัคซีนแอสตราเซนเนกา 2 เข็ม เพียงแค่ 3-4 สัปดาห์เท่านั้น

ความคืบหน้าการฉีดวัคซีนล่าสุด ฉีดไปแล้วกว่า 24.3 ล้านโดส