นายกฯ เล็งประเมินล็อกดาวน์ หลัง 31 ส.ค.นี้ ขอทุกคนร่วมมือ

นายกฯ ให้กำลังใจคณะแพทย์ผลิตวัคซีน ChulaCov19 มั่นใจไทยจะมีวัคซีนใช้เองได้ ขอประชาชนให้ความร่วมมืออยู่กับโควิดให้ได้ด้วยความสงบ เผยหลังวันที่ 31 ส.ค.นี้จะประเมินมาตรการล็อกดาวน์

วันที่ 19 ส.ค. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการตรวจเยี่ยมระบบการดูแลผู้ป่วยโควิด -19 ในระบบ Home Isolation และติดตามความคืบหน้าการพัฒนาวัคซีน ChulaCov19 ของจุฬาลงกรณ์ว่า วันนี้ได้มาให้กำลังใจ และให้ความสำคัญแนวทางในการใช้เทคโนโลยีดิจิตอลที่มาเสริมในระบบ Home isolation และเห็นความพึงพอใจของคนไข้ในระบบที่รักษาจากที่บ้าน โดยมีการรักษาติดตามตรวจสอบอาการแบบออนไลน์ เพื่อลดภาระการเข้าโรงพยาบาลที่มีความแออัดในขณะนี้

นอกจากนี้เป็นการมาให้กำลังใจคณะแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตวัคซีนของไทย mRNA ซึ่งจากการรับฟังฝ่ายปฏิบัติทราบว่า ประมาณเดือน ก.ย.นี้ จะมีความคืบหน้าในระดับหนึ่งในการทดสอบกับมนุษย์ ถ้าทำได้ปีหน้า ไทยก็น่าจะมีวัคซีนใช้เอง เหมือนเช่นประเทศอื่นที่ทำกัน อันนี้เป็นความหวังของเรา และเชื่อมั่นว่าเราต้องทำได้ เราไม่เคยน้อยหน้ากว่าใครในเรื่องนี้ และเราก็เดินหน้ามาตลอด

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งที่สำตัญวันนี้จากการคุยกับคณะแพทย์สิ่งสำคัญต้องดูว่าสถานการณ์ช่วงล็อกดาวน์เป็นอย่างไร คงไม่ถึงกับทุกกิจกรรม แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าบางกิจกรรมที่เปิดคนก็ไม่กล้ามากัน เพราะกลัวจะติดเชื้ออะไรทำนองนี้ เราก็ต้องดูแลตัวเองกันให้ดี ในส่วนที่รัฐบาลจะต้องดูแลก็จะทำให้ดีที่สุด ในสถานการณ์วัคซีนก็มีปัญหาเยอะ แต่เราไม่ท้อแท้หรอก เราจะร่วมมือกันแก้ปัญหาให้ได้โดยเร็วที่สุด

ขอบคุณบุคลากรทุกคน ทั้งในส่วนของรัฐบาล กระทรวง รัฐมนตรี และรองนายกฯ ทุกท่าน รัฐบาลต้องมองไปข้างหน้า หลายวันที่ผ่านมาอาจจะไม่ได้ออกมาพบสื่อ เพราะต้องแก้ปัญหาอย่างอื่นไปด้วย ไม่ได้แก้ปัญหาโควิดอย่างเดียวยังมีปัญหาเศรษฐกิจต่างๆ ก็ต้องมีสมาธิในการทำงาน และวันนี้ก็อยากมาดูความก้าวหน้า และรับเรื่องที่ต้องการให้สนับสนุนในระยะต่อไป

วันนี้เราจะต้องทำอย่างไรให้ประเทศไทยอยู่กับโควิคให้ได้ ด้วยความสงบ ถ้าเราไม่สงบมันก็อยู่ไม่ได้ มันจะวุ่นวายร้อนรุ่มไปหมด และทำให้เป็นปัญหาในการทำงาน วันนี้มาให้กำลังใจ และขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ทุกคน และฝากไปถึงที่อื่นด้วยเพราะวันนี้มันเกิดหลายอย่าง

แต่ถ้าเรามองสถานการณ์ติดเชื้อการแพร่ระบาด เสียใจไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่วันนี้สิ่งหนึ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต คือเราจะมีระบบสาธารณสุขที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม ถ้าเราสามารถดำเนินการได้อย่างที่ได้ทำกันในตอนนี้ ทำแบบครบวงจรทั้งระบบ มันจะเตรียมการรับสถานการณ์โรคระบาดในอนาคตได้ นั่นคือเรามองวิสัยทัศน์ในภายภาคหน้า และเราจะเดินหน้าเศรษฐกิจอย่างไร ซึ่งก็ต้องดูควบคู่กันไป

วันนี้กำลังให้พิจารณาอยู่ว่า หลังวันที่ 31 ส.ค.นี้ ขึ้นอยู่กับตัวเลขและผลการทำงาน ว่าจะไปได้อย่างไร เพียงแต่ขอความร่วมมือจากประชาชนนั่นก็คือในเรื่องของใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือ และอย่าไปทำกิจกรรมอะไรที่เขาไม่ให้ทำ มันเป็นภาระที่ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องมาเสียแรงเสียเวลา และมีโอกาสติดเชื้อไปที่อื่น ขอให้ร่วมมือตรงนี้ ฝากไว้ด้วย แค่นี้นะเรื่องอื่นไม่ต้องตอบ เพราะตอบแล้วจะเป็นเรื่อง