โฆษกรัฐบาล ขอผู้ชุมนุมก่อนออกมาให้นึกถึงผลกระทบส่วนรวม ระบุช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค. มีผู้ชุมนุมดูดำเนินคดีแล้ว 90 คดี มีผู้ต้องหาอยู่ในข่ายดำเนินคดีทั้งสิ้น 481 ราย ผิดพ.ร.ก. ฉุกเฉิน-พ.ร.บ.การชุมนุม
วันที่ 23 ส.ค. 2564 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ ‘แจงให้เคลียร์กับทีมโฆษกรัฐบาล’ ถึงกรณีผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองช่วงที่ผ่านมา ว่า ช่วงนี้เป็นช่วงที่มีการประกาศพระราชกำหนดการบริหารราชการฉุกเฉิน หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
ดังนั้น การรวมตัวกันเพื่อทำกิจกรรมเป็นสิ่งที่ไม่สมควรจะดำเนินการตอนนี้ เนื่องจากมีประชาชนส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีกับมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ในการลดการแพร่ระบาดของโควิด-19 การรวมตัวกันเพื่อชุมนุมทางการเมือง ขณะนี้ ถือว่าผิดพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะอยู่แล้ว
นายอนุชา กล่าวว่า ที่สำคัญคือ ขณะนี้มีการใช้ความรุนแรงทำลายทรัพย์สินของราชการ และเอกชน โรงพยาบาลราชานุกูล รวมถึง ชุมชนที่อยู่อาศัยได้รับความเดือดร้อน เพราะการชุมนุมทำให้เกิดการยากลำบากกับประชาชนเป็นรายวัน จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่ตำรวจจะต้องดำเนินการตามกฏหมาย
นายอนุชา กล่าวด้วยว่า ตั้งแต่เดือน ก.ค.-ส.ค. ได้ดำเนินการกับผู้ชุมนุมไปแล้ว 90 คดี มีผู้ต้องหาอยู่ในข่ายดำเนินคดีทั้งสิ้น 481 ราย มีการจับกุมดำเนินคดีแล้วตามกฏหมาย 224 ราย ออกหมายเรียกเพิ่มเติมอีก 118 ราย และจะเรียกตัวมารับทราบข้อกล่าวหาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น สิ่งต่างๆ เหล่านี้ รัฐบาลยืนยันว่า จะต้องดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ทำให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยในขณะนี้แก่ชาติบ้านเมือง
พร้อมทั้ง ขอให้ทุกคนที่จะออกมาชุมนุม นึกถึงความยากลำบากในส่วนที่มีผลกระทบต่อประชาชนส่วนรวมด้วย ขอให้ผู้ที่จะออกมาชุมนุมพิจารณาด้วย