SHARE

คัดลอกแล้ว

ส.ส.งูเห่า พรรคร่วมรัฐบาล ประท้วงวุ่น “วัคซีนลวงโลก” วิโรจน์ ชี้ นายกฯ – อนุทิน ผิดคำสัญญาจัดหาวัคซีนให้ประชาชน

วันที่ 1 ก.ย. 2564 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข เกี่ยวกับการแก้ปัญหาสถานการณ์โควิด-19 ล้มเหลว ทำให้ปัจจุบันมีประชาชนติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศแล้วกว่า 1,200,000 ราย เสียชีวิตกว่า 12,000 ราย ประชาชนจำนวนไม่น้อยถูกเลื่อนฉีดวัคซีนจนติดโควิด-19 หลายคนสูญเสียพ่อแม่อย่างเฉียบพลัน โดยไม่มีโอกาสร่ำลาอย่างใกล้ชิด มีเด็กหลายรายกำพร้าพ่อแม่ หญิงตั้งครรภ์หลายรายเสียชีวิต

นายวิโรจน์ กล่าวว่า ได้เตือนนายกฯ และนายอนุทิน เกี่ยวกับความสำคัญการจัดหาวัคซีนแล้ว พร้อมเปิดคลิปเมื่อวันที่ 17 ก.พ. 2564 ที่นายอนุทิน เคยให้คำมั่นสัญญาว่า “วัคซีนเต็มแขน” ไตรมาส 3 วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า จะอยู่เต็มโรงพยาบาลอยู่เต็มแขนประชาชน

ต่อมา นายศุภชัย ใจสมุทร ลุกขึ้นประท้วง กรณีที่ นายวิโรจน์ นำคลิปมาเปิดกลางสภา มีการดัดแปลงไม่ตรงกับข้อเท็จจริง นายอนุทิน ไม่ได้พูดด้วยสำเนียงแบบนี้ เป็นการทำให้ดูเสียดสี ตลกขบขัน เกรงว่าจะทำให้ประชาชนสับสนจึงขอประท้วงห้ามเปิดคลิปลักษณะแบบนี้

นายวิโรจน์ กล่าวอภิปรายไม่ไว้วางใจต่อว่า เมื่อวานนี้ 31 ส.ค. นายอนุทิน ระบุว่า ตอนนี้วัคซีนเต็มแขนแล้วไม่ได้ผิดคำพูด แต่ข้อมูลวันนี้ 1 ก.ย. 2564 คนที่ฉีดเข็มแรก 23.8 ล้านนคน เข็มที่ 2 อยู่ที่ 8.2 ล้านคน ประชากรทั้งประเทศ 67 ล้านคน

“ล่าสุด หมอโรงพยาบาลที่ส่งไปศึกษาต่อประเทศแคนาดา จนรองอธิบดีกรมควบโรคออกชี้แจง ที่หมอต้องฉีด 4 เข็ม เพราะซิโนแวค 2 เขาไม่รับรอง ฉีดแอสตร้าเซนเนก้าแม้ก็ฉีดแล้วก็ยังไม่ผ่าน เข็มที่ 4 ต้องฉีดไฟเซอร์ แบบนี้ไม่เรียกวัคซีนเต็มแขน อย่างนี้เรียกว่าวัคซีนพรุนแขน ไม่ได้บอกว่าวัคซีนซิโนแวคไม่มีประสิทธิผล แต่ซิโนแวคไม่เหมาะกับสถานการณ์ เพราะไม่มีประสิทธิผลเพียงพอต่อสู้กับไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์เดลตา หากนายอนุทิน มีงานวิจัยตีพิมพ์ระดับสากล ที่ยืนยันได้ว่าวัคซีนเชื้อตายมีประสิทธิผลต่อเชื้อกลายพันธุ์ ขอให้เอางานวิจัยระดับโลกมายืนยันด้วย” นายวิโรจน์ กล่าว

วันที่ 24 ก.พ. 2564 นายอนุทิน ให้คำมั่นสัญญาว่าปะเทศไทยมีวัคซีนมากสุดในเอเชีย ไม่แพ้ใครในโลก พร้อมเปิดคลิป ที่นายอนุทินพูดย้ำว่า ไทยมีวัคซีนโควิดอยู่ในมือมากที่สุดในทวีปเอเชีย หน่วยงานต่างๆ ซึ่งการประชาสัมพันธ์และการปฏิบัติจริงไม่สอดคล้องกัน ไม่มีใครกล้าคิดว่าจะเป็นแผนจัดหาวัคซีนลวงโลก ภายใต้การบริหารงานของ พล.อ.ประยุทธ์ และนายอนุทิน จนกระทั่งการระบาดระลอก 3 เกิดขึ้น วันที่ 3 เม.ย. 2564 โดยมีจุดเริ่มต้นการระบาดที่สถานเบินเทิงย่านทองหล่อ ถือว่ารุนแรงมาก จนมีประชาชนป่วย เสียชีวิตคาบ้าน ไม่มีระบบความพร้อมรองรับด้านสาธารณสุข เมื่อค้นข้อมูลการเบิกจ่ายวันที่ 20 ก.ค. 2564 โครงการเพื่อจัดซื้อจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์และสาธารณสุขป้องกันวัคซีนโควิดและห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ วงเงินอนุมัติสูง 15,000 ล้าน เบิกจ่าย1,081 ล้าน แค่ 7.09%

แผนงานโครงการด้านสาธารณสุขเพื่อรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน มีวงเงินอนุมัติ 1,721 ล้าน เบิกได้เพียง 156 ล้าน 9.06%  การขาดการเตรียมความพร้อมแบบนี้ จึงเป็นหลักฐานชี้ชัดได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ และนายอนุทินปล่อยปะละเลยขาดความพร้อมดูแลประชาชน จนสุดท้ายประชาชนเสียชีวิต ป่วยจนเสียชีวิตคาบ้าน เพราะเข้าไม่ถึงการรักษา การลงทะเบียนจองคิวฉีดวัคซีนหมอพร้อม แต่ ศบค. กลับยกเลิกและสั่งให้ไปลงทะเบียนกับโรงพยาบาลรัฐ รพ.สต.  ซึ่งพบว่ามีความผิดพลาดในระบบฐานข้อมูลของประชาชน

นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ลุกขึ้นประท้วงจากมุมที่นั่งของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งนายวิโรจน์ กล่าวว่า เชิญครับงู นายคารม กล่าวต่อทันทีว่า ขอประท้วงที่ประธานสภาฯ เพิกเฉยกับคำว่า วัคซีนลวงโลก คำนี้ไม่มี  นายสุชาติ ประธานสภากล่าว ไม่ได้ระบุว่าชนิดไหนเป็นวัคซีนลวงโลก แต่เป็นกระบวนการที่ไม่ตรงตามคำสัญญา จึงใช้ได้

นายวิโรจน์ ได้กล่าวต่อว่า “ท่านประธานเก่ง ฟังภาษางูรู้เรื่องด้วย” จนทำให้ นายคารม ลุกขึ้นท้วงอีกว่า ผมมีกิริยามารยาท ผมประท้วง ท่านชี้ว่าเหมาะสมก็เหมาะสม อย่ามาส่อเสียด เก่งกาจแต่ลีลาก็ไป ผมไม่กลัวท่านหรอก ก่อนที่นายสุชาติ จะให้อภิปรายต่อ

ต่อมา พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี พรรคพลังประชารัฐ ได้ลุกขึ้นประท้วง ทำให้ นายวิโรจน์ กล่าวว่า น่าจะหากำมะถันมาโรย งูเพ่นพ่านเหลือเกิน ซึ่ง พ.ต.ท.ฐนภัทร ได้กล่าวโต้ว่า สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล โดย นายสุชาติ กล่าวเตือนนายวิโรจน์ ว่าอย่าไปเสียดสี แม้จะไม่ได้เอ่ยชื่อ แต่ไม่ต้องถึงกับเอากำมะถันมาโรย

หากพิจารณาจากผลการกลั่นกรองพิจารณาใช้จ่ายเงินกู้ ในการประชุมครั้ง 207 วันที่ 24 ส.ค. 2563 นำมาเพื่อประกอบพิจารณาการอุดหนุนเงินวัคซีนไวรอลเวคเตอร์ เพื่อให้ประเทศไทยได้รับสิทธิในการซื้อวัคซีนที่ผลิตในไทยเป็นอันดับแรกตามจำนวนที่ต้องการ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ เอาเงินงบประมาณกลาง ไปอุดหนุน แต่ไม่ได้ใช้เงินกู้ โดยอ้างว่าถ้าใช้เงินกู้จะมีเงื่อนไขจำกัดการส่งออก สิ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กระทำเป็นสิ่งไม่สมควร เป็นการนำเอาสถาบันพระมหากษัตริย์สร้างความนิยมทางการเมืองโดยไม่คำนึงถึงชีวิตของคนไทย

ต่อมา พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี พรรคพลังประชารัฐ ลุกขึ้นประท้วง ทำให้ นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า น่าจะหากำมะถันมาโรย งูเพ่นพ่านเหลือเกิน ซึ่ง พ.ต.ท.ฐนภัทร ได้กล่าวโต้กลับทันทีว่า สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล ซึ่งนายสุชาติ ได้กล่าวเตือนนายวิโรจน์ อย่าไปเสียดสี แม้จะไม่ได้เอ่ยชื่อ แต่ไม่ต้องถึงกับเอากำมะถันมาโรย

นายวิโรจน์ อภิปรายต่อว่า ประเด็นที่ประชาชนสงสัยและยังไม่ได้คำตอบคือทำไมต้องซื้อวัคซีนซิโนแวค และดึงดันจะซื้ออยู่ต่อไป เพราะสายพันธุ์ไวรัสกลายพันธุ์เดลตา ไม่มีประสิทธิผลรับมือกับสายพันธุ์นี้ได้

กระทั่งนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ประท้วงว่ามีการอภิปรายซ้ำซ้อนกับคนอื่นพูดกันตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว และการอภิปรายถึงวัคซีนซิโนแวค ที่หน่วงานแพทย์กำลังฉีดให้ประชาชนอยู่ขณะนี้ เกรงว่าผู้ได้รับสารจะเข้าใจผิดจำเป็นต้องให้ข้ามประเด็นการฉีดวัคซีนซิโนแวค

ขณะที่ นาย กรุง ศรีวิไล ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ ก็ลุกขึ้นประท้วงว่า ผู้อภิปรายเสียดสี ใส่ร้าย ตลอดเวลา 2 วัน 1 คืนผ่านไป มีแต่การกล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์ อย่างเดียว จนนายสุชาติ กล่าวว่า เป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทำได้ นายกรุง จึงได้ตอบว่า ขอให้ ส.ส. อยู่ในวาระ ประชาชนจะเป็นคนตรวจสอบเองว่า พล.อ.ประยุทธ์ โกงอย่างไร อนุทิน ทำผิดจริยธรรมอย่างไรบอกมาเอาใบเสร็จมา ผมยอมลาออกจาก ส.ส.

จากนั้น นายรังสิกร ทิมาตฤกะ ส.ส.บุรีรัมย์ ภูมิใจไทย ได้ลุกขึ้นประท้วง ว่ามีการ เสียดสี ให้ร้าย กับพล.อ.ประยุทธ์ และนายอนุทิน จากการใช้คำว่า โง่ และวัคซีนลวงโลก นายสุชาติ จึงกล่าวว่า ไม่ใช่คำพูดเสียดสี เป็นคำที่อยู่ในญัตติ จึงได้อนุญาต ที่เสียดสีนายกฯ กับอนุทิน ก็เพราะเป็นคิว หลีกเลี่ยงไม่ได้

ต่อมา นายศุภชัย ได้ลุกขึ้นประท้วงอีกว่า การใช้วาจาเช่นนี้ เป็นการนำความเท็จมากล่าว ท่านเป็นนักโต้วาที ท่านใช้ภาษาไทยไม่ถูกต้อง เพื่อให้เยาวชนทางบ้านได้เข้าใจ นายสุชาติ ได้กล่าวว่า เข้าใจแล้ว ไม่เป็นไร เนื่องจากข้อบังคับห้ามเอ่ยถึงคนอื่นโดยไม่จำเป็น หากจำเป็น ผู้อภิปรายต้องรับผิดชอบเอง

กระทั่ง นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.พรรคก้าวไกล ได้ลุกขึ้นประท้วงประธานสภา ว่า ผู้ประท้วงได้ตัดจังหวะ และใช้เวทีแห่งนี้ชี้แจง ขอให้ประธานสภาเด็ดขาดไม่ให้บุคคลรายนี้ลุกชี้แจงอีก

นายศุภชัย ใจสมุทร ได้ประท้วง ขอให้นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ถอนคำพูด ว่าจะตัดจังหวะ อยากอภิปรายก็อภิปรายไป ผมมีศักดิ์ศรีพอ โปรดพึงระวัง ระบบอาวุโสในสังคมมันมีอยู่ นายณัฐวุฒิ จึงได้ขอถอนคำพูด

ต่อมา นายคารม พลพรกลาง ลุกขึ้นประท้วงอีกว่า พยายามอดทนมาตลอด และขอประท้วงว่า ไม่ได้เอาเวทีสภามาเล่นละคร แต่ในญัตติ มีแต่คำว่าวัคซีนลึกลับ ไม่มีคำว่าวัคซีนลวงโลก นายวิโรจน์ ได้กล่าวว่า ไม่เคารพกันก็ เคารพท่านประธาน นายสุชาติ จึงได้กล่าวว่า คำว่าวัคซีนลวงโลก อยู่ในญัตติ เพราะมีคำว่า ฉ้อฉล หลอกลวงประชาชน เป็นคำที่อยู่ในประเด็น และต้องไม่เลวร้าย หรือไม่สมควร

ด้านนายวิรัช พันธุมะผล ส.ส.ภูมิใจไทย ก็ลุกขึ้นประท้วง เกี่ยวกับการใช้วาจาใส่ร้าย นายวิโรจน์ ก็กล่าวสวนทันทีอีกว่า “ท่านประธาน วันนี้งูชุมจริงๆ” นายคารม ลุกขึ้นประท้วงซ้ำอีกว่า มีการเสียดสี ผมเป็น ส.ส. ที่มีจิตสำนัก จะบอกว่าผมงูเห่า ก็พูดมาเลย นายสุชาติ จึงได้กล่าวว่า สภาไม่มีงู ขอให้ถอนคำพูด

จากนั้น นางอมรัตน์ ได้ลุกขึ้นประท้วง ซึ่งประธานสภา กล่าวว่า “ส.ส.นครปฐม จะประท้วงอะไร” นางอมรัตน์ ตอบกลับว่า “ชื่ออมรัตน์ ไม่ได้ชื่อ นครปฐม” และขอประท้วงผู้ลุกขึ้นประท้วง ว่าผิดข้อบังคับข้อ 71 เนื่องจาก ผู้ประท้วงไม่ได้บอกว่าอยู่พรรคอะไร ไม่ทราบว่า ผู้ประท้วงสังกัดพรรคอะไร และนั่งอยู่ในที่นั่งของพรรคอะไร

นายวิโรจน์อภิปรายกล่าวต่ออีกว่า การดำรงอยู่ในตำแหน่ง พล.อ.ประยุทธ์ และ อนุทิน ทุกชั่วโมงจะมีผู้เสียชีวิต 10 ศพ เทียบเคียงได้ว่าประเทศนี้มีเหตุการณ์เครื่องบินตกทุกวัน หากสภาผู้แทนราษฎรยังปล่อยให้คนทั้ง 2 คนนี้ก่อกรรมทำเข็ญกับประชาชนในฐานะผู้แทนราษฎรจะมองหน้าประชาชนที่ต้องสูญเสียพ่อแม่คนที่เขารักได้อย่างไร ไม่กระจายความเสี่ยงในการจัดหาวัคซีน นำเอาเงินแผ่นดิน 600 ล้านบาทไปอุดหนุนบริษัทเอกชนโดยประชาชนไม่ได้รับความมั่นคงด้านวัคซีนอย่างที่โฆษณาชวนเชื่อ ระบบสาธารณสุขล้มเหลว

“ผมอยากจะบอกผ่านท่านประธานว่า ลูกคุณคุณก็รัก ผมมีลูกสาวของผมคนหนึ่ง อายุเพียงแค่ 7 ขวบเรียนอยู่ ป.1 เมื่อวานนี้ผมเห็นชื่อของเขาอยู่ใน PowerPoint ถึงขั้นตามเด็ก ป.1 แล้วหรือ ถ้าอยากจะตามไปตามพ่อผมโน่น พ่อผมรอท่านประยุทธ์อยู่นานแล้ว หัวเด็ดตีนขาดทั้ง 2 คนนี้ก็คงไม่ยอมลาออกจากตำแหน่งแน่ๆ ขอให้พวกเขาลาออกจากคนยังดูง่ายกว่า จึงเป็นหน้าที่ของผู้แทนราษฎรที่ต้องช่วยกอบกู้ความหวังประชาชนด้วการดึงให้ทั้ง 2 คนพ้นจากตำแหน่ง” นายวิโรจน์ กล่าว

นายศุภชัย ลุกขึ้นประท้วงอีกว่า ขอปรึกษาว่าเมื่อสักครู่ นายวิโรจน์ ใช้ถ้อยคำเกินกว่าที่จะใช้กัน พูดถ้อยคำรุนแรง คิดว่าถ้าจะปล่อยมาตรฐานอภิปายไม่ไว้วางใจจะใช้ถ้อยคำรุนแรงแบบนี้ได้ไม่ดีแน่ แต่จะบอกว่าสิ่งที่กำลังจะอภิปรายให้ประชาชนรับรู้ต้องอยู่บนพื้นฐานความสุภาพ  การใช้ถ้อยคำ “ตายไปแล้วต้องตกนรกแน่ หรือว่า พ่อผมรออยู่” เกินสมควรของปัญญาชนที่จะใช้ และขอปรึกษาว่ามีผู้อภิปรายทำให้ประชาชนตื่นตระหนก ตื่นกลัว เช่นรัฐบาลกำลังจะฉีดวัคซีนไขว้ หากใครฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียดอาจก่อให้เกิดความปั่นป่วนระดับประเทศแน่

ขณะที่ประธานสภา ระบุว่า เป็นการใส่ร้ายเสียดสี “ขอให้ปลาทางต้องไปสู่นรก” คำนี้ไม่ดีเป็นคำใส่ร้ายไม่สุภาพด้วยในการใช้ในสภา ขอให้ถอน นายวิโรจน์ จึงถอนประโยคดังกล่าว และกล่าวต่อว่า นายศุภชัย ก็มีลูก ถ้าเห็นชื่อลูกตนเองอยู่ใน PowerPoint ท่านก็คงจะรู้สึกแบบผม

นายศุภชัย ลุกขึ้นกล่าวครั้งสุดท้ายระบุว่า เพื่อให้นายวิโรจน์ เกิดความสบายใจ 30 ปีที่แล้วผมก็โดน กอ.รมน สันติบาลตาม ผมสู้มาก่อนคุณเยอะแล้ว ขอบพระคุณครับ

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า