ส.ส.เพื่อไทย ถามหางบกลาง 2,800 ล้าน รัฐสนับสนุน 9 บริษัทวิจัยวัคซีน ชี้ สัปเหร่อทำงานหนักกว่านายกฯ

ส.ส.เพื่อไทย ถามหางบกลาง 2,800 ล้านบาท รัฐบาลสนับนสนุน 9 บริษัทวิจัยวัคซีน นายกฯ ได้ติดตามหรือไม่ ในขณะที่การบริหารจัดการวัคซีนยังมีปัญหา

วันที่ 2 ก.ย. 2564 น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข โดยระบุว่าประเด็นวัคซีนเป็นประเด็นใหญ่ การจัดซื้อส่อพิรุธโดยเฉพาะราคาต่างของวัคซีนซิโนแวค ที่บริษัทผลิตวัคซีนขายให้และราคาที่รัฐบาลไทยกำหนดเอง ครม.อนุมัติเงินซื้อ 5,562 ล้านบาท แต่ราคาซื้อจริง 3,959 ล้านบาท ส่วนต่าง 1,600 ล้านบาท ยังไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ใคร  “ค้าความตายหากินบนซากศพของประชาชน” จึงอยากให้ นายกฯ และนายอนุทิน ตอบคำถามให้ชัดเจนประเด็นนี้เพราะการชี้แจงในภาที่ผ่านมายังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน

จิราพร ยังกล่าวอีกว่า การฝากความหวังวัคซีน แอสตร้าเซนเนก้า มองว่าเป็นการแทงม้าตัวเดียว แต่นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้แทงม้าตัวเดียว เพราะมีการเอาเงินไปสนับสนุน 9 บริษัทในประเทศไทยเพื่อทำการวิจัยพัฒนาวัคซีน มีก้าวหน้าไปถึงไหนแล้ว มีหลักฐานเอกสาร ที่ระบุว่ พล.อ.ประยุทธ์ ใช้งบกลาง 2,800 ล้านลาทเศษ สนับสนุน 9 บริษัท รวมถึงสยามไบโอไซเอนซ์เพื่อการพัฒนาวิจัยวัคซีน เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับวัคซีนโควิด-19 ซึ่งในรายละเอียดของผู้รับทุนสนับสนุนจะต้องทำรายงานการเงินเสนอต่อผู้ให้ทุนเป็นงวดๆ พร้อมกับรายงานความก้าวหน้าโครงการ และรายงานฉบับสมบูรรณ์ตามกำหนด เวลาที่กำหนดไว้

จึงอยากถาม พล.อ.ประยุทธ์ว่าได้ติดตามความก้าวหน้าวิจัยวัคซีน 9 บริษัทหรือไม่

เมื่อย้อนกลับไปดูในรายงานประชุม ศบค. วันที่ 22 ก.ค. 2563 พล.อ.ประยุทธ์ ทำข้อสั่งการให้ กระทรวงต่างประเทศเป็นผู้เจรจาเพื่อสร้างความร่วมมือด้านวัคซีนกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด พิจารณาการสนับสนุนงบประมาณผลิตและถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อให้ไทยมีโอกาสใช้วัคซีนได้เป็นประเทศแรกๆ ของโลกตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ แต่วัคซีนที่จะถูกส่งมาเลื่อนแล้วเลื่อนอีก หากจะใช้เงินภาษีประชาชนไปใช้ต้องเอารายงานบริษัทต่างๆ ที่ได้รับทุนมาแสดงให้สภาผู้แทนราษฎรแห่งนี้ได้ดู

ขณะที่การจัดซื้อ ชุดตรวจ ATK 8.5 ล้านชุด พล.อ.ประยุทธ์ โกหกกลางสภาว่าไม่เคยสั่งการให้สั่งซื้อ ATK ต้องผ่านองค์การอนามัยโลก แต่เมื่อย้อนกลับไปดูเอกสารการประชุม ศบค. วันที่ 16 ส.ค. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ มีข้อสั่งการว่าการซื้อ ATK ต้องผ่านองค์การอนามัยโลก และ อย. โดยมีลายเซ็นนายกฯ

นอกจากนี้ยังได้แสดงหนังสือขงกระทรวงสาธารณสุขที่ได้ประเมินความเสียหายทางเศรษฐกิจ 400,000 ล้านบาทหากไม่สามารถจัดหาวัคซีนได้ เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2563 นั่นหมายความว่าหากผิดพลาดจริง นายกฯ และคณะจะต้องรับผิดชอบมูลค่าความเสียหายหรือไม่

ขณะเดียวกัน นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.ภูมิใจไทย ลูกขึ้นประท้วงการอภปราย โดยระบุว่า น.ส.จิราพร นำข้อมูลเดิมที่เคยมีการอภิปรายอยู่แล้วมาเสนอซ้ำ ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สธ. เคยชี้แจงไปแล้ว ประเด็นราคาส่วนต่างจัดซื้อวัคซีนซิโนแวค

น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เอาตัวรอดจากการชี้แจงในสภา มักเอาประเทศไทยไปเทียบกับประเทศที่แย่กว่าทั้งแง่ของสถานการณ์โควิด-19 และ GDP

“หากนายกฯ อยากทำประโยชน์ให้ประชาชนในช่วงวิกฤต ขอให้เอาเงินเดือนน 3 เดือนคืนไป และขอให้ท่านไปไหนก็ได้สัก 3 เดือน หายไปจากประเทศไทยได้ยิ่งดี และท่านจะรู้ว่าการหายไปของท่านคือสิ่งดีสุดสำหรับประชาชนและประเทศชาติ”

“ประเทศเราในขณะนี้อยู่ในภาวะ ที่สัปเหร่อทำงานหนักกว่า นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ เวิร์คฟอร์มโฮม ปิดทองหลังพระ แต่พระต้องใส่ชุดพีพีอี ใส่หน้ากากช่วยเหลือประชาชน ทุกอย่างกลับตาลปัตรไปหมด ประชาชนต้องรอตรวจ รอเตียง รอตายกลางถนน จนเตาเผาศพพัง แต่รัฐบาลก็ยังอยู่ได้ จริงๆ เตาเผาศพต้องอยู่ แต่รัฐบาลต้องไป”