SHARE

คัดลอกแล้ว

การเดินเกมล้มโต๊ะคือลงมติในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาเเละ 5 รัฐมนตรี คราวนี้เพื่อเปลี่ยนดุลอำนาจการเมืองของใครบางคนในพรรคพลังประชารัฐ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 4 กันยายนนี้ ประเมินสถานการณ์เเล้ว…น่าจะฝันค้าง

แม้การขยับการเมืองจากฝั่งประชาชนเเละฝ่ายต้านพลเอกประยุทธ์ ยังมีเนือง ๆ ทั้งบนถนนเเละโลกออนไลน์ แต่ภาวะโควิด-19 เเบบนั้นมันปั่นอารมณ์ร่วมจากสังคมส่วนใหญ่ให้เทใจไล่พลเอกประยุทธ์ยากยิ่ง

  • ฝ่ายค้านเก็บแต้มไว้ไปสู่การเลือก

การป่วนรายวันเกี่ยวกับบริหารการและจัดหาวัคซีน ,ชุดตรวจ ATK ,การตรวจหาผู้ติดเชื้อรายวัน ,การรักษาพยาบาล ,การดูเเลบุคลากรด่านหน้ายังปรากฏเเละเป็นเเต้มลบกับรัฐบาล เเต่เอาเข้าจริงการเสนอทางออกที่เป็นรูปธรรมของคนการเมืองขั้วตรงข้ามพลเอกประยุทธ์ก็ไม่ปรากฏให้สังคมเชื่อมั่นเเละเทใจว่าควรเปลี่ยนผู้นำ เพราะยังมีฝ่ายหนุนที่ยังเชื่อมั่นในการบริหารของพลเอกประยุทธ์ อยู่ด้วยการที่มองว่าหากเปลี่ยนตัวผู้นำตอนนี้แล้วใครจะมาทำแทนยังไม่มีคนที่เหมาะสม

เหลียวไปมองการขยับของฝ่ายค้านที่ส่งเสียงให้พลเอกประยุทธ์ลาออก จากญัตติไม่ไว้วางใจ เพราะพลเอกประยุทธ์ทำบ้านเมืองบอบช้ำสุดขีดจากหลายบาดเเผลเละควรมีสำนึกเเบบผู้นำชาติอื่น ๆ ที่เเสดงสปิริตกับการบริหารโควิด-19 ที่ผิดพลาดบ้าง ดังนั้นหัวหน้ารัฐบาลไทยควรเปิดทางให้คนอื่นทำหน้าที่เเทน

ก็น่าคิดว่าทำไมไม่ท้าให้ยุบสภาไปเลยเเละทำไมไม่ยื่นรายชื่อว่าที่นายกฯขึ้นมาเเทนพลเอกประยุทธ์ในญัตติไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ด้วย หรือเป็นเพราะฝ่ายค้านรู้ว่าจังหวะสังคมเวลานี้ไม่เอื้อเเละกระสุนไม่พอหากต้องมีการเลือกตั้งใหม่ สิ่งที่ฝ่ายค้านทำได้ในตอนนี้ก็คือการอภิปรายตอกย้ำความผิดพลาดของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ซ้ำ ๆ เพื่อหวังเก็บแต้มไว้ไปสู่การเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้าภายหลังรัฐบาลชุดนี้หมดวะระ…ดังนั้นพลเอกประยุทธ์ก็อ่านเกมออกเช่นกัน…

สงครามน้ำลายเเละการดิสเครดิตที่เกียกกายตอนนี้จึงเป็นเพียงปรากฏการณ์หนึ่งในหน้าข่าวรายวันเเละหวังไปขย่มต่อในวันหน้า เเต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะเวิร์คหากสมมติว่าพลเอกประยุทธ์แก้ปัญหาโควิด-19ได้เเบบผีจับยัด มีสิทธิ์กระเเสตีกลับ

  • “ผมผิดอะไร” คำถามคาใจ “ประยุทธ์”

ปฏิเสธไม่ได้ว่าในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ไฮไลท์ไม่ได้อยู่ที่เนื้อหาของฝ่ายค้านใช้อภิปรายในสภาแต่อย่างใด หากแต่สปอร์ตไลท์กลับส่องไปที่พรรคพลังประชารัฐ ( พปชร.)ที่คุกรุ่น เรื่องเสียงโหวต ที่มี “รายงานข่าว” การต่อรองเกิดขึ้น โดยเมื่อวันที่ 30 ส.ค. พรรคพลังประชารัฐ มีการประชุมที่นายวิรัช รัตนเศรษฐ และนายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค พปชร. เป็นประธานการประชุม ใช้เวลาสั้นๆ ไม่ถึง 30 นาที

นายไพบูลย์ อ่านข้อบังคับพรรคเรื่องการโหวตและย้ำว่า “ส.ส.มีเอกสิทธิ์แต่ต้องดำรงไว้ซึ่งฐานะสมาชิกพรรค” ซึ่งคำว่าส.ส.มีเอกสิทธิ์ นี้แปลง่ายๆก็คือ “ฟรีโหวต”
คอการเมืองวิเคราะห์ว่าการที่พรรคการเมืองจะ ปล่อยให้ ส.ส. ในพรรค “ฟรีโหวต” ได้นั้น มีเพียงเรื่องเดียวคือ ต้องมีปัญหาภายในพรรค

รายงานจากพปชร. แจ้งว่า หลังการประชุม ส.ส.พรรค พปชร. เสร็จลง บรรดาแกนนำพรรคระดับรัฐมนตรี ส.ส. และสมาชิกพรรคประมาณ 30-40 คน ได้เดินทางออกจากพรรค เพื่อเข้าพบ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค พปชร. ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ ซึ่งเป็นการคุยเชิงลับ ป้องกันการอัดเสียงหรือการแอบเปิดสายสนทนาให้ใครฟัง เลยมีการสั่งเก็บโทรศัพท์มือถือของทุกคน

“พลเอกประวิตร” ถามกลางที่ประชุมกันเลยทีเดียว ถึงกระแสข่าการกดดันนายกฯ เพื่อเปลี่ยนขั้วทางการเมือง ซึ่งเรื่องนี้ “พลเอกประยุทธ์” เองก็รู้ว่า“สมาชิกพรรคบางส่วนไม่เอานายกฯ” และได้ไลน์มาเล่าให้ “พล.อ.ประวิตร” รู้เรียบร้อยแล้ว ..

โดยช่วงหนึ่งของการประชุมพลเอกประวิตร ได้อ่านข้อความในไลน์ ซึ่งเป็นคำถามของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ฝากมาถาม ส.ส. ให้ทุกคนได้ฟังว่า “ทำไม ส.ส.ถึงไม่สนับสนุนผม มีเหตุผลอะไร ผมผิดอะไร แล้วถ้าจะไม่สนับสนุน จะหาใครมาเป็นนายกฯ ผมทำงานเหนื่อยขนาดนี้ แล้วจะให้ใครมาเป็น”

จากที่ ส.ส.หลายคนระบายว่า น้อยใจ“พลเอกประยุทธ์ ” ที่ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับ ส.ส. ว่า นายกฯ เหนื่อยมาก ที่ไม่มีเวลามาดูแลก็อย่าเพิ่งน้อยใจ และ “พี่ใหญ่ 3 ป.” คงเห็นสัญญาณอะไรแปลกๆ เลยย้ำอีกว่า “ห้ามไปแจกกล้วยให้พรรคเล็ก เพื่อคว่ำนายกฯ หรือ 2 รัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย ให้โหวตในทิศทางเดียวกันทั้งหมด”

  • แผนการคว่ำเก้าอี้นายกฯ  จากคนในกันเอง

เช้าวันที่ 31 ส.ค. รายงานข่าวแผนการคว่ำเก้าอี้นายกฯ ก็ปูดขึ้นมากระหึ่มทั่วสภาโดยผู้ก่อการคือ  ‘กลุ่ม4ช.’ คือ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ นางนฤมล ภิญโญศีลวัฒน์ รมช.แรงงาน นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม (สมาชิกกลุ่ม4ช. อีกคนคือ สันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง แต่ไม่ได้ร่วมขยับในครั้งนี้) ไปต่อรองกับพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเพื่อให้ปรับครม.หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

โดยอ้างว่าต้องคุมกระทรวงหลักเพื่อรองรับการเลือกตั้งครั้งหน้าจะได้มีผลงาน ผลักดันให้เปลี่ยนตัวนายกฯโดยเสนอให้ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รับหน้าที่แทนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และเสนอให้เปลี่ยนรมว.มหาดไทย ซึ่ง พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา ปฏิบัติหน้าที่นี้อยู่ จนทำให้พลเอกประยุทธ์ ไม่พอใจอย่างยิ่งและออกมาตำหนิการเคลื่อนไหวนี้อย่างรุนแรง แม้ร้อยเอกธรรมนัสจะปฏิเสธในเรื่องนี้นั้น เเละอ้างว่าจะจัดการรมช.คนหนึ่งที่ปล่อยข่าวนี้

จนร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ทนไม่ไหวต้องแถลงซัด ‘ไอ้ห้อยไอ้โหน’ ในพรรครัฐบาลพลังประชารัฐ ที่ปูดข่าวกล่าวหาเป็นขบวนการล็อบบี้คว่ำเก้าอี้นายกฯ พร้อมยืนยันไม่เป็นความจริง

ในวันที่ 2 ก.ย. นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “ข่าวว่า นายกรัฐมนตรี เซ็นคำสั่งปลด ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ แล้ว ถึงเวลาสงคราม ของ ผู้แทนของประชาชน+ประชาชน แล้ว ลุงคนดี vs ประชาชน

แม้ต่อมา ร้อยเอกธรรมนัส ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ข่าวดังกล่าวไม่ใช่เรื่องจริง

ร้อยเอกธรรมนัส ยังกล่าวต่อว่า ตนไม่ได้คุยกับ พลเอก ประยุทธ์ แต่พูดคุยกับ พลเอกประวิตร ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรค และตอนกลางวันตนก็ยังไปกินข้าวกับพล.อ.ประวิตร มา ได้พูดคุยกับพล.อ.ประวิตร และได้ตอบคำถามในการแถลงข่าวเมื่อวานชัดเจนหมดแล้ว

ผู้สือข่าวรายงานว่า ร้อยเอกธรรมนัส ได้เข้าพบ พลเอกประวิตร  ที่มูลนิธิป่ารอยต่อเพื่อเคลียร์ใจ และเวลาประมาณ 19.30 น. กลุ่ม 4 ช. (อีก 1 ช. ไม่ได้เข้าร่วม) ได้ปิดห้องคุยกันเพื่อหาคนรับผิดชอบ

  • “บ่มีอีหยังมาพังทลาย” สายสัมพันธ์ 3 ป. ลงได้

วันที่ 3 ก.ย. 2564 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวถึงการอภิปรายตลอด 3 วันที่ผ่านมาว่า ไม่มีอะไรแตกต่าง ฝ่ายค้านยังนำข้อมูลเดิม เรื่องเดิมมาโจมตี ไม่มีอะไรใหม่ เพราะบางเรื่องก็ได้รับการแก้ไขไปแล้ว ส่วนเรื่องคนจะล้มเก้าอี้นายกฯ พลเอกประยุทธ์ บอกว่า ขึ้นอยู่ว่าใครทำ ทำจริงหรือเปล่า ทำต่อหรือไม่และเขาเชื่อมโยงอยู่กับใคร ย้ำว่ามีการพูดคุยกับ พลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ตลอดคุยทุกวัน

“ส่วนเรื่องนี้ทุกคนก็รู้จักในความสัมพันธ์ของ 3ป.และตั้งฉายาให้เอง ไม่ใครจะมาทำร้ายผมได้หรอก ทุกคนอาจไม่รู้ ทุกคนอาจจะไม่รักเพื่อน รักคนอื่นเหมือนผมรักกัน 3 คน  พวกผมร่วมเป็นร่วมตายกันมา ชายแดนผมก็อยู่ ท่ามกลางสนามรบผมก็อยู่ด้วย และท่านก็เป็นผู้บังคับบัญชาตั้งแต่ก้าวแรกที่ผมเข้ามารับราชการ อยู่บ้านเดียวกัน กินนอนด้วยกันมา และโตมาก็ยังคบและเคารพกันอยู่ ทุกอย่างผมมีวันนี้ได้เพราะพี่ทั้งสองคนได้สั่งสอนผมมา แล้วก็จำได้ว่าพี่ชายทั้งสองคนไม่เคยสอนให้ผมทุจริต โกง ไม่มีเลย และไม่ต้องโทรคุย ผมอาจจะไปเยี่ยมเขาก็ได้” พลเอกประยุทธ์ กล่าว

เวลา 13.20น.  ที่ชั้น 6 รัฐสภาก่อนประชุมส.ส.พรรคพลังประชารัฐ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เดินทางมาถึงอาคารรัฐสภา โดย มีร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพปชร. นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน ในฐานะเหรัญญิกพรรคพปชร.รอรับ โดยพล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์อย่างมีอารมณ์ดุเดือด ก่อนการประชุมร่วมส.ส.ของพรรคว่า “ปัญหาในพรรคไม่มีอะไร นายกฯ ไปผมก็ไป”

ผู้สื่อถามย้ำว่าถ้านายกฯ ไปก็พร้อมไปด้วยกันใช่หรือไม่ พลเอกประวิตร กล่าวว่า “เออ”

เมื่อถามว่าพรรคพปชร.ยังมีเอกภาพหรือไม่ พลเอกประวิตร กล่าวว่า ยังมีเอกภาพ ต่อข้อถามว่าผลคะแนนลงมติจะมีปัญหาหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มีปัญหา

ด้านร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพปชร.กล่าวก่อนการประชุมส.ส.พรรคพปชร.ถึงการพูดคุยทำความเข้าใจกับพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า “ยังไม่ได้พูดคุย”

  • ผู้ก่อการยกธงขาว เตรียมรับการเช็กบิล

ฝ่ายค้านคงรู้ว่า เกมล็อบบี้ล้มโต๊ะจากใครบางคนในพรรคพลังประชารัฐในช่วงนี้ โดยมีรายงานข่าวว่าคือ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรเเละสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพปชร. ที่ไม่พอใจใครบางคนใน 3ป. (แหล่งข่าวกล่าวว่า คือพลเองประยุทธ์ จันทร์โอชา) ว่าไม่ดูดำดูดีกับพรรคเลย ขออะไรก็ไม่ให้แล้วจะเอาอะไรไปขายชาวบ้านหากหวังชนะเลือกตั้ง ดังนั้นต้องเปลี่ยนผู้นำเเละเเกนนำรัฐบาลบางคนออกไป จะเป็นเเรงบวกในการพลิกเกมนั้น

รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้ก่อการล้ม 3ป.ยอมยกธงขาวแล้ว เมื่อจับยามสามตาพินิจดูเเล้ว “ร้อยเอกธรรมนัส” ในฐานะผู้ก่อการล้ม3ป.โดนเช็กบิลชัวร์ แน่นอนว่าหากผู้ก่อการโดนเช็คบิลจริงย่อมมีการสูญเสียจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก โดน ยึดเก้าอี้รมช.คืน , ยึดเก้าอี้พ่อบ้านพรรคคืน,ยึดกล้วยคืนเเบบถาวร, สั่งสลายขุมกำลัง ,ไล่ตรวจภารกิจห้วงที่ผ่านมาว่าเเอบอ้างอะไรไปบ้าง?…เหล่านี้คือบทลงโทษขั้นต้นที่มีต่อผู้ก่อการล้ม 3ป.

เเละไม่กี่วันข้างหน้า การตอบเเทนน้ำใจหลายมุ้งในพปชร.ที่ยังเชื่อมั่น 3ป.มากกว่าผู้ก่อการล้ม 3ป.จะบังเกิด โปรดรอติดตามอีกไม่กี่อึดใจ…เเม้พลเอกประยุทธ์บอกว่าวันนี้ไม่ยุบสภาไม่ปรับครม. ตามกระเเสข่าว เเต่วันหน้าอะไร ๆ ก็เกิดได้ โดยเฉพาะการปรับครม. ที่คอการเมืองมองว่าขั้ว 4ช. ที่น่าจะปลิวเกือบหมด

  • แต่งตั้งโยกย้ายลงตัว “ประยุทธ์” อุ่นใจ

ต่อมาหันมองจังหวะการเมืองโดยรวมก่อนจะลงลึก คือไม่กี่วันนี้ส.ว.จะลงมติร่างพรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท เเละน่าจะไฟเขียว ตรงนี้รัฐบาลอุ่นใจไปได้เปราะหนึ่ง

ถัดมาคือการเเต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการที่ลงตัวไปหลายตำเเหน่งเเล้ว เเต่ไฮไลท์คือการวางตำเเหน่งในเเวดวงทหารเเละตำรวจ ที่เเว่วว่าลงตัวไปเเล้ว…เเบบนี้พลเอกประยุทธ์ยิ่งเบาใจ

การแก้รัฐธรรมนูญที่ยังไม่ยุติ..เเม้จะขยับไปในระดับที่หลายพรรคพอใจ เเต่หากยังมีอะไรยึกยักกันอีก สมมติว่าไม่กี่วันข้างหน้าพลเอกประยุทธ์ล้มโต๊ะคือยุบสภา กติกาเดิมที่เรียกร้องให้เเก้ไขยังถูกบังคับใช้เพื่อจัดการเลือกตั้ง เกมก็ยังอยู่ในมือพลเอกประยุทธ์อีกเช่นเคย…

หากมองไปที่บริบทตอนนี้จะพบว่าโควิด-19 ยังเเก้ไม่จบ ใครมาบริหารประเทศตอนนี้หากยกธงขาวก็เหมือนฆ่าตัวตายทางการเมือง ตัวอย่างคือยามที่พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ลาออกจากตำเเหน่งนายกรัฐมนตรีในห้วงวิกฤตต้มยำกุ้ง เมื่อปี2540 ภาพจำของสังคมที่มีต่อขงเบ้งเเห่งกองทัพอย่างพลเอกชวลิต เป็นเช่นไรก็ยอมรู้ดี

พลเอกประยุทธ์ย่อมอ่านออก เเละพรรคภูมิใจไทยที่กำกับดูเเลกระทรวงสาธารณสุขย่อมหนุนพลเอกประยุทธ์ต่อให้บรรเทาสถานการณ์ให้ดีขึ้นก่อน หากพลเอกประยุทธ์ไขก๊อกลาออก พรรคภูมิใจไทยเละเเน่ตอนลงพื้นทึ่พบชาวบ้านเพราะพรรคนี้คุมกระทรวงหมอ เเต่กลับปล่อยให้ชาวบ้านลำบากเเละเสียชีวิต พรรคภูมิใจไทยจะเอาอะไรไปหาเเต้ม ดังนั้นพรรคนี้ที่เป็นเบอร์สองบนเรือเหล็กย่อมหนุนพลเอกประยุทธ์เเบบยาวๆไป เเละพรรคร่วมรัฐบาลอื่น ๆก็ไม่งอเเงอยู่กันต่อบนเรือเหล็กแบบยาวๆ

บทสรุปคือหลังจบการซักฟอกงวดนี้ พลเอกประยุทธ์ต้องพลิกบทใหม่เพื่อสร้างเครดิตหลังล้างไพ่ในค่ายพปชร.ได้เบ็ดเสร็จ ดุลอำนาจมั่นคงขึ้น เเละคงจะอยู่ครบวาระสี่ปี ต่อจากนั้น3ป.จะขยับอะไรต่อ ค่อยมาดูกันเพราะเกมการเมืองห้วงนี้ ต้องประเมินเเบบห้ามกระพริบตา

ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการนัดเคลียร์ใจกันครั้งสุดท้าย ระหว่าง พลเอกประยุทธ์ และ ร้อยเอกธรรมนัส ที่มูลนิธิป่ารอยต่อ ผู้สื่อข่าวระบุว่า ร้อยเอกธรรมนัส ได้เดตรียมกราบขอโทษ พลเอกประยุทธ์ โดยมี พลเอกประวิตรเป็นพยาน

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า