ฝ่ายรัฐบาล-ฝ่ายค้านมาเลเซีย เซ็นสัญญาไม่ยุบสภาถึง ส.ค. ปีหน้า หวังสร้างเสถียรภาพการเมือง

ฝ่ายรัฐบาล-ฝ่ายค้านมาเลเซีย จับมือเซ็นสัญญาไม่ยุบสภาจนกว่า ส.ค. ปีหน้า ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญชี้ขั้วรัฐบาลได้ประโยชน์เพราะจะทำให้การเมืองมีเสถียรภาพ ขณะที่ฝ่ายค้านหวังแก้ข้อกำหนดต่างๆ เพื่อเปิดทางเอื้อฝ่ายค้านมากขึ้น

วันที่ 14 ก.ย. 2564 เว็บไซต์ The Straits Times สื่อสิงคโปร์รายงานว่า ขั้วการเมืองฝ่ายรัฐบาลมาเลเซีย จับมือกับกลุ่มปากาตัน ฮาราปัน (PH) ซึ่งเป็นขั้วการเมืองฝ่ายค้านเมื่อวานนี้ (13 ก.ย.) โดยทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในข้อตกลงว่า จะไม่ยุบสภาจนกว่าจะถึงเดือน ส.ค. ปี 2565

โดยการลงนามในครั้งนี้เกิดขึ้นระหว่างนายอิสมาอิล ซาบรี นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของมาเลเซีย กับนายอันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำฝ่ายค้าน โดยนายกัฐมนตรีมาเลเซียเปิดเผยว่า การทำข้อตกลงในครั้งนี้เป็นไปเพื่อสร้างเสถียรภาพทางการเมืองในมาเลเซียในช่วงเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ขณะเดียวกันยังมีจุดประสงค์เพื่อเดินหน้าปฏิรูปการบริหารราชการ สร้างความเข้มแข็งในระบบรัฐสภา และทำให้กระบวนการยุติธรรมเป็นอิสระ

ขณะที่นักการเมืองฝ่ายค้านของมาเลเซียยอมรับว่า ข้อตกลงในครั้งนี้จะมีผลให้มาเลเซียจะไม่มีการเลือกตั้งใหม่ไปจนกว่าวันที่ 31 ก.ค. 2565 โดยนายอันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำฝ่ายค้านมาเลเซียโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า เขาจะทำทุกทางที่เป็นไปได้เพื่ออนาคตของประเทศและประชาชน

แม้รายละเอียดของข้อตกลงจะยังไม่ประกาศออกมาชัดเจน แต่มีแนวโน้มว่า ประเด็นสำคัญที่อาจพิจารณาเพื่อปฏิรูปการเมืองมาเลเซีย คือ ข้อกำหนดจำกัดการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย รวมทั้งข้อกำหนดเกี่ยวกับอายุผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจากอายุ 21 ปี เหลือ 18 ปี ซึ่งมีแผนแก้ไขมาหลายปีแต่ยังไม่ลุล่วง

ข้อตกลงระหว่างฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านมาเลเซียเกิดขึ้น หลังการเมืองมาเลเซียในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีความไม่แน่นอน โดยนายกรัฐมนตรีมาเลเซียคนปัจจุบันเป็นผู้นำมาเลเซียคนที่ 3 ในช่วงเวลาแค่ 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนถึงความไร้เสถียรภาพทางการเมืองของมาเลเซีย ภายใต้สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19

นักวิเคราะห์ประเมินว่า พรรคฝ่ายค้านมาเลเซียอาจได้ประโยชน์จากการปฏิรูปการเมือง แต่ข้อตกลงฉบับนี้จะส่งผลดีต่อฝ่ายรัฐบาลมาเลเซียในแง่ที่ว่า ฝ่ายรัฐบาลจะไม่ถูกกดดันจากการทำงานภายใต้วิกฤติโควิด-19 ซึ่งรัฐบาลมาเลเซียชุดปัจจุบันยังมีจุดอ่อนอยู่มาก ทั้งคณะรัฐมนตรีที่หลายคนมาจากรัฐบาลชุดก่อนและถูกวิจารณ์ว่าไม่มีประสิทธิภาพ รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลหลายคนที่ถูกกล่าวหาว่าทุจริต รวมทั้งนายนาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรีที่ถูกกล่าวหาคอร์รัปชัน ซึ่งเพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษารัฐบาลชุดใหม่