‘แอปเปิล’ ปล่อยอัปเดต iOS ฉุกเฉิน แนะผู้ใช้รีบอัปเดตอุปกรณ์ทันที สกัดมัลแวร์ ‘ซีโร่ คลิก’

แอปเปิลแนะนำผู้ใช้ไอโฟน-ไอแพดรีบอัปเดตซอฟต์แวร์ ป้องกันมัลแวร์ ‘ซีโร่-คลิก’ ซึ่งอาจเปิดทางให้แฮกเกอร์สามารถเจาะเข้าระบบ แม้ไม่มีการคลิกเปิดลิงก์หรือไฟล์ใดๆ บนอุปกรณ์ก็ตาม

วันที่ 15 ก.ย. 2564 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า แอปเปิล ได้ปล่อยอัปเดตระบบปฏิบัติการฉุกเฉิน iOS 14.8 และ iPadOS 14.8 ตัวล่าสุดออกมา เพื่อสกัดกันมัลแวร์ ‘ซีโร่ คลิก’ แนะนำให้ผู้ใช้งานรีบอัปเดตอุปกรณ์ทันที ป้องกันแฮกเกอร์เจาะเข้าระบบ 

การปล่อยอัปเดตระบบปฏิบัติการฉุกเฉินออกมาครั้งนี้ มีขึ้นหลังแอปเปิลตรวจพบช่องโหว่ของมัลแวร์ที่เชื่อว่าอาจมาจาก ‘NSO Group’ บริษัทสัญชาติอิสราเอล ซึ่งเชี่ยวชาญในการพัฒนาระบบเจาะข้อมูลไซเบอร์ 

ขณะที่ NSO Group ยังคงไม่ได้ออกมายืนยันหรือปฏิเสธว่าอยู่เบื้องหลังมัลแวร์นี้ โดยกล่าวเพียง “จะเดินหน้าหาข่าวกรองและสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายทั่วโลกด้วยเทคโนโลยีเพื่อต่อสู้กับการก่อการร้ายและอาชญากรรม”

รายงานบนเว็บไซต์บีบีซี ได้อ้างการเปิดเผยของทีมนักวิจัยอิสระ ระบุว่า มีการตรวจพบข้อบกพร่องด้านความปลอดภัยของระบบปฏิบัติการ ซึ่งอาจทำให้แฮกเกอร์สามารถเจาะเข้าถึงอุปกรณ์ได้ผ่าน iMessage แม้ว่าผู้ใช้จะไม่มีการคลิกหรือเปิดไฟล์ใดๆ โดยปัญหาดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อระบบปฏิบัติการของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ทั้งหมด

ทั้งนี้ มัลแวร์ ‘ซีโร่ คลิก’ ถูกตรวจพบครั้งแรกโดยนักวิจัยจาก Citizen Lab ของมหาวิทยาลัยโทรอนโต ซึ่งเป็นหน่วยงานดูแลด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของแคนาดา โดยพบจากโทรศัพท์มือถือของนักเคลื่อนไหวชาวซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันที่ 7 ก.ย. ที่ผ่านมา แต่คาดว่าโทรศัพท์เครื่องดังกล่าวอาจติดมัลแวร์มาตั้งแต่เดือนก.พ. 

นักวิจัยได้แจ้งเตือนไปยังแอปเปิลทันที หลังพบว่ามัลแวร์ตัวนี้มีความซับซ้อนสูงซึ่งต้องใช้เงินหลายล้านดอลลาร์ในการพัฒนาขึ้นมา และยังสามารถกำหนดเป้าหมายการโจมตีเฉพาะบุคคลได้ โดยมัลแวร์นี้จะส่งผลกระทบต่ออุปกรณ์ของแอปเปิลทั้ง iPhone, Mac และ Apple Watch

ด้านแอปเปิลระบุว่า หลังจากได้รับรายงานเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 13 ก.ย. ที่ผ่านมา บริษัทได้ปล่อยแพตซ์ซอฟต์แวร์ iOS 14.8 และ iPadOS 14.8 เพื่อปกป้องความปลอดภัยของลูกค้าแอปเปิล 

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์กล่าวว่า แม้จะมีการตรวจพบมัลแวร์ แต่ผู้ใช้อุปกรณ์แอปเปิลไม่จำเป็นต้องกังวลมากเกินไป เพราะการโจมตีประเภทนี้ส่วนใหญ่มักจะตั้งเป้าหมายไว้สูง