ดิอาจิโอ ผู้นำด้านเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระดับพรีเมี่ยม เปิดตัว ‘Johnnie Walker Princes Street’ แลนมาร์กแห่งใหม่ที่พร้อมเปิดประตูต้อนรับผู้มาเยือนเข้าสู่โลกของวิสกี้ภายในอาคารสูงแปดชั้นอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ ณ ใจกลางเมืองหลวงเอดินบะระ ประเทศสก็อตแลนด์
ไอแวน เมเนเซส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิอาจิโอ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “วันนี้คือวันแห่งความภาคภูมิใจของทุกคนที่ดิอาจิโอ เมื่อปีที่แล้ว จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ได้เฉลิมฉลอง ครบรอบ 200 ปี นับตั้งแต่วันที่จอห์น วอล์กเกอร์ ผู้ก่อตั้ง ได้เปิดประตูจากร้านขายของชำเล็กๆ ของเขา และวันนี้ถือเป็นก้าวใหม่ของเรื่องราวอันน่าเหลือเชื่อของแบรนด์จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ Johnnie Walker Princes Street คือการลงทุนครั้งสำคัญในสก็อตช์วิสกี้และประเทศสก็อตแลนด์ เพื่อมุ่งสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับสถานที่ท่องเที่ยวที่เน้นประสบการณ์อันดื่มด่ำให้กับผู้มาเยือน ผ่านส่วนผสมที่ลงตัว ตั้งแต่มรดกอันน่าจดจำของประเทศสก็อตแลนด์ และผู้ผลิตสก็อตช์วิสกี้มากฝีมืออันน่าทึ่ง ไปจนถึงประสบการณ์ใหม่ๆ สำหรับผู้บริโภคยุคใหม่จากทั่วโลก ให้มาสัมผัสกับมนตร์วิเศษของสก็อตช์วิสกี้”
จุดเด่นที่น่าสนใจเกี่ยวกับ Johnnie Walker Princes Street
- มีพื้นที่ครอบคลุมกว่า 71,500 ตารางฟุต และนำแนวคิดเรื่องการนำเสนอบริการตามแบบฉบับของลูกค้า หรือ Personalisation มาใช้ในระดับที่ยังไม่เคยมีศูนย์รวมประสบการณ์ด้านเครื่องดื่มระดับโลกที่ไหนทำมาก่อน
- พนักงานมากความสามารถกว่า 150 คนที่มีความหลากหลายและพูดภาษาต่างๆ มากถึง 23 ภาษา จะทำให้เรื่องราวที่อายุยาวนาน 200 ปีกลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง
- ห้องเก็บวิสกี้ชั้นใต้ดินที่ได้กลายเป็นขุมทรัพย์วิสกี้อย่างแท้จริงด้วยวิสกี้ในถังไม้ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นที่สุดในโลกหลายชนิด ค่อยๆ หมักบ่มจนได้ที่และรอคอยให้ผู้มาเยือนได้ลิ้มรส
- อาคารที่ตั้ง ซึ่งเคยเป็นห้างสรรพสินค้าเก่าแก่อายุเกือบ 100 ปี มีพื้นที่สำหรับจำหน่ายสินค้าที่ทันสมัย ให้ผู้ที่มาซื้อสินค้าสามารถเลือกซื้อวิสกี้ที่มีเอกลักษณ์และพิเศษ บรรจุวิสกี้ลงขวดโดยตรงจากถังไม้บ่มวิสกี้ และยังสลักชื่อลงบนขวดได้อีกด้วย
- Johnnie Walker Princes Street เปิดประตูรับนักท่องเที่ยวด้วยรางวัล Green Tourism Gold Award ซึ่งเป็นรางวัลด้านความยั่งยืนสูงสุดสำหรับสถานที่ท่องเที่ยว โดยบริเวณระเบียงชั้นดาดฟ้าของตัวอาคารประกอบไปด้วยสมุนไพรที่นอกจากใช้ประดับตกแต่งอาหารแล้ว ยังใช้สำหรับเพิ่มกลิ่นหอมให้กับเครื่องดื่ม หลังคาสีเขียว และกล่องรังนกเพิ่มบรรยากาศด้านความหลากหลายทางชีวภาพ
- ไฮไลท์อยู่ที่ด้านบน มีรูฟท็อปบาร์ระดับโลกถึงสองแห่ง พร้อมด้วยระเบียงที่สามารถชมทัศนียภาพอันสวยงามของขอบฟ้าเมืองเอดินบะระ โดยบาร์ทั้งสองแห่งนั้นคือ Explorers’ Bothy บาร์วิสกี้ นำเสนอเครื่องดื่มแพริ่งกับเมนูที่ได้รับการคัดสรรมาอย่างประณีตจากทั้งสี่มุมเมืองของประเทศสก็อตแลนด์ นับเป็นการนำเสนอมุมเมืองทั้งสี่ของประเทศสก็อตแลนด์ในรูปแบบอาหารอีกด้วย
สำหรับ Johnnie Walker Princes Street ใช้เวลาสี่ปีครึ่งในการก่อสร้าง ถือเป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวสก็อตช์วิสกี้ในประเทศสก็อตแลนด์ ที่มีการลงทุนมูลค่า 185 ล้านปอนด์ของดิอาจิโอ ถือเป็นการลงทุนในครั้งเดียวที่ใหญ่ที่สุดในรูปแบบการท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องกับสก็อตช์วิสกี้เท่าที่เคยมีมา
บาร์บารา สมิธ กรรมการผู้จัดการ Johnnie Walker Princes Street กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยว ทั้งยังช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการให้ฟื้นตัวกลับมาอีกครั้ง หลังจากผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมากมานานถึง 18 เดือน
ในปี 2562 อุตสาหกรรรมสก็อตช์วิสกี้ได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากถึง 2.16 ล้านคน โดย Johnnie Walker Princes Street และโปรแกรมการลงทุนด้านการท่องเที่ยวจำนวน 185 ล้านปอนด์ของดิอาจิโอก็มุ่งที่จะฟื้นฟูการท่องเที่ยวด้านสก็อตช์วิสกี้สำหรับอนาคต การลงทุนดังกล่าวยังรวมถึงการเปลี่ยนโฉมประสบการณ์การเยี่ยมชมโรงกลั่นทั่วสก็อตแลนด์ ซึ่งรวมถึงโรงกลั่น Glenkinchie โรงกลั่น Clynelish โรงกลั่น Cardhu และโรงกลั่น Coal Ila ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ในเขตโลว์แลนด์ ไฮแลนด์ สเปย์ไซด์ และไอส์ลาตามลำดับ ทั้งหมดนี้ถูกเชื่อมต่อเข้ากับ Johnnie Walker Princes Street เพื่อสร้างแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ของประเทศสก็อตแลนด์