SHARE

คัดลอกแล้ว

ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด ส.ส.เพื่อไทย กรณีกล่าวหาตบทรัพย์อธิบดีกรมน้ำบาดาล 5 ล้าน พิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 64 เจ้าตัวโต้ ชี้มูลไม่เป็นธรรม ยอมรับเป็นโทรศัพท์ส่วนตัวจริง แต่ไม่ใช่คนโทร

วันที่ 1 ต.ค. 2564 นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงข่าวกรณีนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เปิดเผยว่าในที่ประชุมอนุกรรมาธิการแผนบูรณาการ 2 ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 ระบุว่า มีอนุกรรมาธิการบางคนโทรศัพท์เรียกเงิน 5 ล้านบาท แลกกับการผ่านงบประมาณกรมทรัพยากรน้ำบาดาล และต่อมา ป.ป.ช.ได้มีการสั่งตั้งอนุกรรมการไต่สวน นายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ ส.ส.มุกดาหาร พรรคเพื่อไทย และนางนันทนา สงฆ์ประชา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาภิวัฒน์

นายนิวัติไชย กล่าวว่า จากการไต่สวน นายศักดิ์ดา ให้ข้อมูลว่านายอนุรักษ์ได้เรียกรับเงินทางโทรศัพท์ โดยมีนางนันทนา เป็นผู้โทรศัพท์ประสานงาน จากการไต่สวนและการเช็คข้อมูลจากโทรศัพท์ ช่วงระยะเวลาที่มีการโทร เชื่อได้ว่านายอนุรักษ์ ได้มีการเรียกรับเงินจากนายศักดิ์ดาจริง มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149 ประกอบ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มาตรา 123/5 ฐานเรียกรับ ยอมรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดเพื่อตัวเองโดยไม่ชอบ และยังเป็นการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามมาตราฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ

สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ ในส่วนของความผิดวินัย ป.ป.ช.จะยื่นคำร้องไปยังศาลฎีกาโดยตรง ส่วนคดีอาญาจะยื่นคำร้องไปยังอัยการสูงสุดเพื่อฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไป ส่วนข้อกล่าวหานางนันทนาไม่มีมูลว่าเกี่ยวข้องกับการเรียกรับเงินดังกล่าว แต่ได้แจ้งข้อสังเกตไปยังสภาฯ ในเรื่องที่นางนันทนาโทรประสานงาน ทั้งที่ไม่ใช่หน้าที่

‘อนุรักษ์’ โต้ ป.ป.ช. ชี้มูลไม่เป็นธรรม ยันไม่เคยเรียกรับเงิน

ด้านนายอนุรักษ์ กล่าวว่า เพิ่งทราบข่าวจากสื่อมวลชน ถือเป็นเรื่องที่เร็วมาก ซึ่งเรื่องนี้ได้ยื่นแก้ข้อกล่าวหาไปแล้วและมีพยานบุคคล แต่ ป.ป.ช.กลับไม่เรียกสอบพยานที่เกี่ยวข้อง เหมือนเป็นการฟังความฝ่ายเดียวแล้วชี้มูล ดังนั้นจะนำประเด็นนี้ไปร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการ ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการไต่สวน ของ ป.ป.ช.

นายอนุรักษ์ ยืนยันว่า ไม่ได้เรียกรับเงิน ตามที่ ป.ป.ช. กล่าวหา แต่ยอมรับว่าเบอร์โทรศัพท์ ที่ถูกใช้เป็นหลักฐานว่านำไปโทรหาอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลนั้น เป็นเบอร์ของตังเองจริง แต่ไม่ใช่เสียงของตน ยืนยันไม่ได้เรียกเงิน เพราะมี ส.ส. คนหนึ่งนำโทรศัพท์ไปใช้โทรพูดคุยกับอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลต่อ หลังจากที่ผมได้คุยเรื่องเอกสาร ดังนั้นถ้ามีหลักฐานว่าผมเรียกรับเงินจริง ควรเอาคลิปเสียงมาเปิดว่า มีการเรียกรับเงินอย่างไร ตอนนี้ยังไม่เคยเห็นคลิปเสียงที่มีการกล่าวอ้าง แต่มีการชี้มูลเกิดขึ้น และถ้าไม่มีหลักฐานจริงแล้ว ป.ป.ช. ชี้มูลถือว่าไม่เป็นธรรม

นายอนุรักษ์ กล่าวต่อว่า ส่วนประเด็นที่ว่าเรียกรับเงินแลกกับการผ่านงบประมาณนั้น ขอถามกลับว่ามีอำนาจตัดงบประมาณได้อย่างไร เพราะการพิจารณางบประมาณเป็นอำนาจของสภาผู้แทนราษฎร ต้องใช้มติในสภาฯ ไม่ใช่อำนาจของอนุกรรมาธิการฯ ดังนั้นเมื่อไม่มีอำนาจจะอ้างว่าไปเรียกรับเงิน เพื่อแลกกับการผ่านงบประมาณได้อย่างไร ถือว่าไม่มีเหตุผล

ทั้งนี้เรื่องดังกล่าว นายศักดา ได้เคยชี้แจงในที่ประชุม คณะกรรมาธิการ กฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสิระ เจนจาคะ เป็นประธาน เมื่อวันที่ 19 ส.ค. 2563 โดยระบุว่า กรมทรัพยากรน้ำฯ เข้าชี้แจง อนุ กมธ. เมื่อวันที่ 17 ก.ค.2563 วันที่ 21 ก.ค. 2563 และ วันที่ 22 ก.ค. 2563 และ วันที่ 5 ส.ค. 2563 แต่เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเวลา 19.10 น.วันที่ 4 ส.ค. 2563 มีคนโทรศัพท์มาหา พร้อมแนะนำตัวว่าเป็น กมธ. ได้ของาน ขอเงิน

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า