มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ ออสเตรเลีย ประกาศลาออกจากตำแหน่ง หลังถูกตั้งข้อหามีเอี่ยวทุจริต

มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ ของออสเตรเลีย ประกาศลาออก หลังถูกกล่าวหามีส่วนพัวพันกับพฤติกรรมละเมิดความไว้วางใจของประชาช

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นางกลาดีส์ เบเรจิกเลียน มุขมนตรีผู้มีบทบาทสำคัญในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ รัฐเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง หลังจากคณะกรรมาธิการต่อต้านการคอร์รัปชั่นอิสระของรัฐนิวเซาท์เวลส์ (ICAC) ออกมาเปิดเผยว่า กำลังเร่งสืบสวนว่านางเบเรจิกเลียนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมที่เป็นการละเมิดความไว้วางใจของประชาชนหรือไม่

การลาออกอย่างไม่คาดคิดของนางเบเรจิกเลียนมีขึ้นในขณะที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีฐานะทางเศรษฐกิจใหญ่กว่าสิงคโปร์, ไทย หรือมาเลเซีย กำลังต่อสู้กับการระบาดของไวรัสโควิด-19 ครั้งใหญ่ และอยู่ระหว่างเตรียมการยกเลิกมาตรการจำกัดพื้นที่ซึ่งดำเนินมานานหลายเดือน ขณะที่ออสเตรเลียเตรียมเปิดพรมแดนระหว่างประเทศอีกครั้งในเดือนพ.ย. นี้

นางเบเรจิกเลียนเปิดใจว่า ประเด็นที่ถูกสอบสวนเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต แต่เธอรู้สึกว่าถูกกดดันให้ต้องลาออก เพราะการสืบสวนต้องยังต้องใช้กรอบเวลาที่ยาวนาน พร้อมกับกล่าวด้วยว่า รัฐนิวเซาท์เวลส์จะต้องมีความเชื่อมั่นในตัวผู้นำ ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19

“ดิฉันทำงานโดยยึดความซื่อสัตย์เป็นที่ตั้งสูงสุดเสมอมา” นางเบเรจิกเลียนกล่าว

ด้านคณะกรรมาธิการต่อต้านการคอร์รัปชั่นอิสระของรัฐนิวเซาท์เวลส์ (ICAC) ได้ออกแถลงการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ของหน่วยงานว่า จะมีการดำเนินการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะเพิ่มเติม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสอบสวนในวันที่ 18 ต.ค. นี้

ทั้งนี้ นางเบเรจิกเลียนนับเป็นมุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์คนที่ 2 ที่ต้องลาออกจากตำแหน่งเพราะข้อกล่าวหาของ ICAC โดยก่อนหน้านี้ นายแบร์รี่ โอ ฟาร์เรล อดีตผู้ว่าการรัฐนิวเซาท์เวลส์ ต้องลาออกจากตำแหน่งในปี 2557 เนื่องจากมีหลักฐานว่า เขาไม่ได้แจ้งต่อคณะกรรมาธิการฯ เกี่ยวกับการรับของขวัญเป็นไวน์มูลค่า 3,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 100,000 บาท)