ไทยติดเชื้อโควิดเพิ่ม 11,140 ราย เสียชีวิต 116 คน เล็งล็อกดาวน์ 4 จังหวัดภาคใต้

ไทยติดเชื้อโควิดเพิ่ม 11,140 ราย เสียชีวิต 116 คน เล็งล็อกดาวน์ 4 จังหวัดภาคใต้

วันที่ 8 ต.ค. 2564 นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ศบค. สรุปภาพรวมผู้ติดเชื้อในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ลดลงอย่างต่อเนื่อง มีผู้ติดเชื้อคิดเป็นร้อยละ 22 ส่วนพื้นที่ต่างจังหวัดมีผู้ติดเชื้อร้อยละ 57 แต่ภาพรวมก็เริ่มลดลงเช่นกัน ขณะที่พื้นที่ภาคใต้ยังคงมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับกรุงเทพฯ และปริมณฑล อยู่ที่ร้อยละ 21

ส่วนการติดเชื้อเป็นคลัสเตอร์ พบในหลายจังหวัดโดยเฉพาะงานศพ เช่น จังหวัดอุดรธานี สุรินทร์ กาญจนบุรี จันทบุรี จากข้อมูลวันที่ 21 กันยายน – 7 ตุลาคม พบผู้ติดเชื้อจากการไปร่วมงานศพ 838 ราย ใน 30 จังหวัด จำนวน 87 งาน พบผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนมากกว่า 5 ราย 30 คลัสเตอร์ โดยคลัสเตอร์ที่พบผู้ติดเชื้อมากคือ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี 148 ราย, อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี 115 ราย, อำเภอเบญจลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ 108 ราย ปัจจัยหลักมาจากการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อยืนยันรายก่อนหน้า ไม่สวมหน้ากากอนามัย รับประทานอาหาร/ดื่มสุราร่วมกัน เล่นการพนันในงานศพ นอกจากนี้ ยังมีคลัสเตอร์อื่นๆ เช่น ร้านทำป้าย ล้งผลไม้เก็บลำไย โกดังเก็บสินค้า ที่จังหวัดจันทบุรี/ วงหมูกระทะ จังหวัดลำปาง/ แคมป์คนงานก่อสร้าง ปราจีนบุรี ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี/ ร้านเบเกอรี่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ /หอพัก ที่จังหวัดเชียงใหม่

นพ.เฉวตสรร เปิดเผยว่า ที่ประชุม ศปก.ศบค. เห็นชอบ การปรับมาตรการรับผู้โดยสารบนอากาศยาน ตามความสามารถของอากาศยาน โดยผู้ที่จะเดินทางได้จะต้องฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ หรือต้องมีผลตรวจ ATK หรือ RT-PCR ภายใน 72 ชั่วโมง ซึ่งการคัดกรองจะต้องเข้มงวดตั้งแต่เข้าไปในพื้นที่ ประชาชนต้องเตรียมตัวให้พร้อมก่อนการเดินทาง หากเป็นไข้ก็ควรหลีกเลี่ยงห้ามเดินทางเด็ดขาด ส่วนการบริหารจัดการภายในสนามบินจะต้องมีการเว้นระยะห่าง ปรับระบบการระบายอากาศ ห้ามผู้โดยสารเดินไปมาบนเครื่องบิน ห้ามเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน

นอกจากนี้ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก กล่าวว่า ขณะนี้ถึงทางแยกของสถานการณ์แพร่ระบาด ถ้าเราไม่มีมาตรการที่ดีพอ การติดเชื้อรายใหม่อาจจะเพิ่มสูงขึ้นได้อีกถึงวันละ 25,000 ราย แต่หากสามารถฉีดวัคซีนได้ตามเป้าหมาย รวมถึงใช้มาตรการป้องกันตัวเองแบบครอบจักรวาล universal prevention เราก็อาจจะได้เห็นผู้ติดเชื้อที่ลดลงเรื่อยๆ จนถึงจำนวนน้อยกว่า 5 พันราย ซึ่งอยู่ที่ความร่วมมือของทุกคน อยากเชิญชวนให้ทุกคนออกมาฉีดวัคซีนกันให้มากๆ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้

ความคืบหน้าวาระแห่งชาติฉีดวัคซีน 50 ล้านคน 100 ล้านโดส ก่อนสิ้นปี 2564

ฉีดวัคซีนเข็ม 2 เพิ่ม 351,862 ราย ฉีดสะสม 22,548,799 โดส เหลืออีก 85 วัน จะต้องฉีดวัคซีนอีก 41.5 ล้านโดส สถิติล่าสุด ‘หมอพร้อม’ รายงานข้อมูลวันที่ 28 ก.พ. – 7 ต.ค. 2564 ฉีดวัคซีนเพิ่ม 799,671 โดส สะสม 58,451,838 โดส จำแนกเป็น

• เข็ม 1 : เพิ่ม 383,326 ราย สะสม 34,293,702 โดส หรือ 51.81%
• เข็ม 2 : เพิ่ม 351,862 ราย สะสม 22,548,799 โดส หรือ 34.06%
• เข็ม 3 : เพิ่ม 31,467 ราย สะสม 1,608,274 โดส หรือ 2.42%
• เข็ม 4 : เพิ่ม 16 ราย สะสม 1,063 โดส

วัคซีน Sinovac
– เข็มที่ 1 17,022,736 โดส
– เข็มที่ 2 3,512,537 โดส
– เข็มที่ 3 0 โดส

วัคซีน AstraZeneca
– เข็มที่ 1 10,427,076 โดส
– เข็มที่ 2 14,420,736 โดส
– เข็มที่ 3 1,118,941 โดส

วัคซีน Sinopharm
– เข็มที่ 1 5,746,557 โดส
– เข็มที่ 2 3,542,071 โดส
– เข็มที่ 3 0 โดส

วัคซีน Pfizer
– เข็มที่ 1 578,315 โดส
– เข็มที่ 2 530,378 โดส
– เข็มที่ 3 487,676 โดส

ล็อกดาวน์เข้มงวดมากขึ้นในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้
ด้านพล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 หรือ ผอ.ศปก.ศบค. ยอมรับว่า มีแนวโน้มที่จะต้องล็อกดาวน์เข้มงวดมากขึ้นในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้ หลังพบการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพิ่มต่อเนื่อง เพราะต้องมีมาตรการเพื่อทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ส่วนมาตรการจะเข้มงวดอย่างไร ยังไม่มีข้อสรุป ต้องหารืออีก 2 ครั้ง และนำเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่ ศบค. ในวันที่ 14 ตุลาคมนี้ก่อน