SHARE

คัดลอกแล้ว

จับตาพายุโซนร้อน ‘คมปาซุ’ ขึ้นฝั่งเวียดนาม 13-14 ต.ค.นี้ หลังพัดถล่มฟิลิปปินส์ ทำให้เกิดน้ำท่วม ดินถล่ม มีผู้เสียชีวิต 9 ราย สูญหาย 11 ราย ขณะกรมอุตุฯ ออกประกาศฉบับที่ 3 ระวังฝนตกหนักเกือบทุกภาคของประเทศไทย

วันที่ 12 ต.ค. 2564 สำนักข่าวรอยเตอร์ว่า พบผู้เสียชีวิต 9 รายและสูญหาย 11 ราย จากเหตุการณ์น้ำท่วมและดินถล่ม หลังจากพายุโซนร้อนคมปาซุ (Kompasu) พัดถล่มฟิลิปปินส์

รายงานระบุว่า พายุโซนร้อนคมปาซุซึ่งมีความเร็วลมสูงสุดอยู่ที่ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้พัดเข้าสู่ฟิลิปปินส์ตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ ทำให้เกิดฝนตกหนัก ก่อนจะมีดินถล่มในหลายพื้นที่ ส่งผลทางการต้องอพยพประชาชนเกือบ 1,600 รายไปยังพื้นที่ปลอดภัย 

สำนักงานป้องกันภัยพิบัติแห่งชาติฟิลิปปินส์ระบุว่า ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลจากหน่วยงานระดับภูมิภาค โดยในเบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิต 4 รายจากเหตุการณ์ดินถล่มที่จังหวัดเบงเก็ต ทางตอนเหนือของประเทศ และอีก 5 รายจากเหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลันที่เกาะปาลาวัน ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ก็กำลังดำเนินการค้นหาผู้สูญหายอีก 11 คน หลังเกิดเหตุการณ์ดินถล่ม โดยนายแฮร์รี โร้ก โฆษกประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ได้ออกมาเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต กำลังเฝ้าติดตามการรับมือภัยพิบัติของรัฐบาล

สำหรับพายุโซนร้อนคมปาซุ นับเป็นพายุโซนร้อนลูกที่ 13 ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในปีนี้ โดยคาดว่าจะคลื่นตัวออกจากฟิลิปปินส์เข้าสู่ทะเลจีนใต้ในวันนี้ ก่อนจะเคลื่อนผ่านเกาะไหหลำ ประเทศจีน และขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนในวันที่ 13-14 ต.ค. 

ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศฉบับที่ 3 พายุ คมปาซุ ลงวันที่ 12 ต.ค. 2564 ระบุว่า เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (12 ต.ค. 2564) พายุโซนร้อนกำลังแรง “คมปาซุ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 18.4 องศาเหนือ ลองจิจูด 117.0 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะไหหลำประเทศจีน และขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่ 13-14 ตุลาคม 2564 หลังจากนี้จะอ่อนกำลังลงตามลำดับ ลักษณะเช่นนี้จะทำให้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือในช่วงวันดังกล่าว

อนึ่ง ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้

จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า