SHARE

คัดลอกแล้ว

ศบค. ย้ำเปิดประเทศ 1 พ.ย.นี้ มีเวลาเตรียมตัวอีก 2 สัปดาห์ วันนี้ที่ประชุมใหญ่ ศบค.หารือแผนรองรับการเปิดประเทศ คาดได้ข้อสรุปวันพุธที่ 20 ต.ค.นี้ 

วันที่ 18 ต.ค. 2564 พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แถลงความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 พร้อมเปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมในการเปิดประเทศวันที่ 1 พ.ย.นี้ว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กได้หารือถึงมาตรการและการเตรียมความพร้อมในการเปิดประเทศ ซึ่งนับตั้งแต่วันนี้จะเหลือเวลาเตรียมตัวอีก 2 สัปดาห์ ก่อนเปิดประเทศในระยะที่ 1 เริ่ม 1-30 พ.ย.นี้ โดยที่แผนการเปิดประเทศ มีการพูดคุยหารือจากหลายหน่วยงาน มีการปรับหลายครั้ง ซึ่งยังไม่มีรูปแบบที่ดีที่สุด แต่จะมีความเป็นไปได้มากที่สุดที่จะดำเนินการไปได้อย่างปลอดภัย ระบบสาธารณสุขมีความมั่นคง

พญ.สุมนี กล่าวว่า การระบุรายชื่อประเทศเข้าไทย ในข้อเท็จจริงคือบางประเทศยังไม่อนุญาตให้คนออกนอกประเทศตัวเอง แต่การเปิดเที่ยวบินก็เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับคนไทยในประเทศนั้นๆ ให้สามารถเดินทางกลับไทยได้สะดวกขึ้น

สำหรับการเปิดประเทศได้มีการวางแผนเป็นระยะๆ มีการเตรียมความพร้อม 3 ด้าน คือ สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ต้องทรงตัวหรือคงตัว, ต้องการพิจารณาถึงขีดความสามารถด้านสาธารณสุขว่ามีความพร้อมในการป้องกัน, ควบคุม และการรักษาหรือไม่ สุดท้ายพื้นที่นำร่องเปิดการท่องเที่ยวสีฟ้า 17 จังหวัดจะต้องมีการฉีดวัคซีนต้านโควิดไม่น้อยกว่า 70% ดังนั้นการเปิดประเทศจะต้องดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป และทยอยเปิดในพื้นที่ที่มีความพร้อมก่อนภายใต้มาตรการที่กำหนด

ผอ.สำนักสื่อสารความเสี่ยง ระบุว่า 1 พ.ย.นี้ การเปิดประเทศระยะที่ 1 จะรับต่างชาติที่มาจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำและเดินทางโดยเครื่องบินเท่านั้น ได้รับวัคซีนครบโดส มีผลตรวจ RT-PCR เป็นลบไม่ติดโควิด และต้องทำประกันสุขภาพ 50,000 เหรียญสหรัฐฯ ก่อนเข้าประเทศไทย เมื่อเข้ามาในประเทศไทยแล้วจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดก่อนจะเข้าพื้นที่สีฟ้าได้ใน 17 จังหวัด

“หากมีสถานการณ์เปลี่ยนแปลงหลังเปิดประเทศไปแล้วจะต้องมีการเตรียมแผนเผชิญเหตุ ซึ่งวันนี้ที่ประชุม ศบค. จะมีการหารือในข้อสรุปต่างๆ ก่อนจะรายงานให้ทราบถึงมาตรการในวันพุธที่จะถึงนี้ต่อไป” พญ.สุมนี กล่าว

ย้ำข้อกำหนดใหม่ ผ่อนคลายเพิ่ม แต่ให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดออกประกาศตามสถานการณ์รได้

พญ.สุมณี  แถลงย้ำข้อกำหนดฉบับที่ 35 ตาม พ.ร.กฉุกเฉิน ล่าสุด 8 ข้อ ว่า เป็นการปรับปรุงพื้นที่จังหวัดตามสถานการณ์ เพื่อให้สอดคล้องกับการระบาดในสถานการณ์ปัจจุบัน โดยจังหวัดที่ได้รับการปรับพื้นที่สถานการณ์ตามข้อกำหนด ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมด้านบุคลากร สถานที่ เพื่อแจ้งให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่ดำเนินการ ตามมาตรการข้อห้ามและข้อปฏิบัติ ทั้งนี้ กรณีที่มีการแพร่ระบาดของโรคในระดับอำเภอทางผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถปรับพื้นที่ของตนเองให้มีมาตรการที่เข้มงวดกว่าระดับจังหวัดได้

ส่วนการปรับเวลาห้ามออกนอกเคหสถานสำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ปรับเวลาเป็น 23:00 น ถึง 3:00 น ของวันรุ่งขึ้น ต่อเนื่องจนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2564 โดยกำหนดให้เงื่อนไขของการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่และกรณีบุคคลที่ได้รับการยกเว้น หรืออนุญาตไว้ก่อนหน้านี้ยังคงบังคับใช้ต่อไป มาตรการควบคุมแบบบูรณาการสำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ที่ให้สถานที่ กิจการ กิจกรรม ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการแล้ว ตามข้อกำหนดที่ได้ประกาศเปิดดำเนินการต่อไปโดยมีคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพฯ หรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดดูแล มี 5 กิจการ ได้แก่ ร้านจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม โรงภาพยนตร์ ห้างสรรพสินค้า สนามกีฬา สวนสาธารณะ ให้เปิดดำเนินการได้แต่ไม่เกิน 22:00 น. ร้านสะดวกซื้อ ตลาดนัด ตลาดสดเปิดเพื่อจำหน่ายสินค้าได้ทุกประเภทตามเวลาปกติจนถึง 22:00 น.

พญ.สุมณี กล่าวว่า กรณีเครื่องเล่น เปิดให้บริการได้โดยต้องขออนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดก่อน ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุสามารถเปิดให้บริการลักษณะของผู้ดูแลผู้สูงอายุแบบเช้าไปเย็นกลับได้ โดยให้คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพฯ หรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด อนุญาตตามความเหมาะสม โดยมีเงื่อนไขทางผู้ให้บริการและผู้รับบริการจะต้องได้รับวัคซีนตามที่กำหนดและมีการสุ่มตรวจหาเชื้อด้วย ATK ให้กับผู้ให้บริการทุกสัปดาห์ โรงแรม ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม สถานที่จัดนิทรรศการ หรือที่มีลักษณะคล้ายกันสามารถเปิดให้บริการเพื่อจัดประชุมสัมมนา หรือจัดงานพิธีตามประเพณีนิยมได้จนถึง 22.00 น.

สำหรับรายงานสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 10,111 ราย โดยเป็นการติดเชื้อในประเทศ 10,087 ราย (แยกเป็นจากระบบเฝ้าระวังและบริการสุขภาพ 9,718 ราย จากการตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 328 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 41 ราย) และเดินทางมาจากต่างประเทศอีก 24 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ปี 63 รวม 1,793,812 ราย อย่างไรก็ตาม หากรวมยอดผู้ป่วยจากการตรวจ ATK จำนวน 1,700 ราย ตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่จะมีถึง 11,811 รายฃ มีผู้เสียชีวิตอีก 63 ราย ทำให้ยอดเสียชีวิตขยับไปที่ 18,336 ราย หายป่วยอีก 10,612 ราย รวมยอดรักษาหาย 1,668,250 ราย ยังรักษาอยู่จำนวน 107,226 ราย เป็นการรักษาอยู่ในรพ.41,894 ราย ในรพ.สนาม 65,322 ราย ทั้งนี้ มีผู้ป่วยอาการหนัก 2,831 ราย มีผู้ป่วยหนักนี้ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจถึง 644 ราย

ผู้เสียชีวิต จำนวน 63 ราย เป็นเพศชาย 39 ราย เพศหญิง 24 ราย อายุ 17-97 ปี อยู่ในพื้นที่ กทม.มากที่สุด 9 ราย แต่ในภาคใต้เสียชีวิตรวมถึง 21 ราย โดยปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดความรุนแรงของโรคและเสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป และมีโรคประจำตัว เป็นโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคไต โรคอ้วน ติดเตียง ซึ่งเป็นโรคประจำตัวที่เป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดความรุนแรงของโรคเพิ่มขึ้น โดยในจำนวนนี้ เป็นการติดเชื้อในพื้นที่ 63 ราย อาศัยในพื้นที่เสี่ยง 22 ราย และเป็นการติดจากคนในครอบครัว 7 ราย และคนอื่นๆ เพื่อน เพื่อนร่วมงาน คนรู้จัก 33 ราย

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า