ตำรวจบุกตรวจค้นชุมชนวัดม่วง หลังกลุ่มคู่อริ ‘บาส มีดคู่’ โพสต์เฟซบุ๊กขู่ล้างแค้น

ตำรวจบุกตรวจค้นชุมชนวัดม่วง หลังกลุ่มคู่อริ ‘บาส มีดคู่’ โพสต์เฟซบุ๊กขู่ล้างแค้น แต่ยังไม่พบตัวคนโพสต์ ส่วนคู่กรณี 4 คนศาลให้ประกันตัว

วันที่ 18 ต.ค. 2564 คดีที่นายณัฐวุฒิ พึ่งฤกษ์ดี หรือบาส ใช้มีดต่อสู้กลุ่มคู่อริ 6 คนที่เข้ามารุมทำร้ายจนอีกฝ่ายเสียชีวิต 2 ศพ และบาดเจ็บสาหัส 1 คน

หลังเกิดเหตุนายณัฐวุฒิถูกจับกุมและศาลอนุญาตให้ประกันตัวโดยใช้หลักทรัพย์ 5 แสนบาท ขณะที่คู่กรณีคือ กลุ่มวัยรุ่นแก๊งวัดม่วง มีการโพสต์ข้อความลักษณะข่มขู่ 

ล่าสุดวันนี้ตำรวจสืบสวน สน.เพชรเกษม ร่วมกับตำรวจสืบสวนนครบาล 9 และตำรวจ 191 สนธิกำลังกันนำหมายค้นของศาลอาญาธนบุรี เข้าตรวจค้นบ้านพักในชุมชนวัดม่วงรวม 9 จุด 13 เป้าหมาย หลังจากพบว่ามีการโพสต์ข้อความข่มขู่ในสื่อสังคมออนไลน์ เกี่ยวกับกรณีนายณัฐวุฒิที่ทะเลาะวิวาทกับวัยรุ่นเจ้าถิ่นที่อาศัยอยู่ในชุมนุมวัดม่วง 

พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า หลังจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ตรวจสอบกลุ่มที่โพสต์ข้อความดังกล่าวว่ามีจริงหรือไม่โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือนายณัฐวุฒิ กลุ่มคู่กรณีทั้ง 6 คน และกลุ่มที่โพสต์สร้างสถานการณ์ โดยจากการตรวจค้น ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ส่วนผู้ที่โพสต์ข้อความยังไม่พบตัว อยู่ระหว่างการสืบสวนหาตัวมาดำเนินคดี

ด้านทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความของนายณัฐวุฒิบอกว่า กรณีมีการโพสต์ข้อความข่มขู่ทางเฟซบุ๊ก ตอนนี้ได้รวบรวมหลักฐานการหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา เพราะมีการข่มขู่ มีการโชว์อาวุธปืน ซึ่งเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับ 100,000 บาท ซึ่งเป็นโทษหนัก พร้อมฝากเตือนถึงคนที่โพสต์ให้ยุติการกระทำให้เห็นแก่พ่อแม่ และอย่าคิดว่าเป็นเฟซบุ๊กอวตารแล้วตามไม่ได้ เป็นนักเลงจริงต้องรู้จักหยุด รู้จักพอ รู้จักอภัย เพราะนักเลงไม่ใช่อันธพาล

ขณะที่นายณัฐวุฒิหลังได้รับการประกันตัวก็เข้ารับการรักษาตัวจากการถูกทำร้ายร่างกายจนแขนหักที่โรงพยาบาลพระจอมเกล้า จังหวัดเพชรบุรี ขณะนี้สามารถขยับนิ้วมือได้แล้ว แพทย์ให้นอนพักรักษาตัวอีก 2 วันก็สามารถกลับไปพักรักษาตัวที่บ้านได้

สำหรับคดีนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ วันที่ 12 ต.ค. ที่ผ่านมาต้นเหตุมาจากการที่นายณัฐวุฒิ ขี่รถจักรยานยนต์จากจังหวัดนครปฐม มาหาแฟนสาวที่บ้านซอย 39 ถนนกาญจนาภิเษก แขวงหลักสอง เขตบางแค กทม. แล้วเกิดมีการขับปาดแซงกันบนถนนกับกลุ่มคู่อริที่อาศัยอยู่ในละแวกนั้น ทำให้กลุ่มคู่อริไม่พอใจ ยกพวกไปหาเรื่องถึงหน้าบ้าน

นายณัฐวุฒิจึงใช้มีดสปาต้ายาว 18 นิ้ว และมีดปลายแหลมยาว 15 นิ้ว ออกมาต่อสู้ โดยแทงและฟันกลุ่มคู่อริ จนทำให้ นายสมเดช อายุ 25 ปี และนายธิติวุฒิอายุ 19 ปี เสียชีวิต ส่วนนายพันกร อายุ 20 ปี อาการสาหัส 

หลังเกิดเหตุ ตำรวจจับจับกุมตัวนายณัฐวุฒิ ตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นและทำร้ายร่างกายฯ ขณะที่ฝั่งคู่กรณีที่อ้างว่าแค่มาเจรจารเคลียร์ปัญหา ไม่ได้มารุมทำร้าย

ต่อมาโซเชียลแชร์คลิปอีกมุม ขณะที่นายณัฐวุฒิโดนรุมทำร้าย ซึ่งแย้งกับคำให้การฝั่งคู่กรณี หลังคลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไปจึงมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ว่าที่นายณัฐวุฒิทำไปเป็นการป้องกันตัวเองหรือไม่ ทำให้นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา พร้อมด้วยนายสาริต แสงจันทร์ หรือเสี่ยเปีย เข้าช่วยเหลือขอประกันตัวนายณัฐวุฒิและศาลอนุญาติให้ปล่อยตัวนายณัฐวุฒิชั่วคราว โดยหลักทรัพย์เป็นเงินสด 5 แสนบาท เป็นหลักประกัน

จากนั้นกลุ่มของผู้ตายทั้ง 2 คน ซึ่งใช้ชื่อว่า ‘เด็กวัดม่วง’ เกิดความไม่พอใจ และมีการตั้งกลุ่มเฟซบุ๊กชื่อ ‘พี่น้องเด็กวัดม่วง’ ขึ้นมาและมีการโพสต์ข่มขู่ นายณัฐวุฒิ รวมถึงหมอปลาที่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือด้วย ซึ่งบางโพสต์มีการระบุว่า จะนัดรวมตัวกันบุกบ้านพักหมอปลา

ทำให้พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ต้องออกมาปรามว่า ว่าต้องอยู่กันให้เรียบร้อย ตำรวจจะไม่ปล่อยให้ใครก็ตามทำผิดกฎหมาย หากฝ่าฝืนจะดำเนินคดีไม่มีละเว้น กระทั่งวันนี้ตำรวจเข้าตรวจค้นชุมชนวัดม่วง 

ส่วนทางด้านกลุ่มคู่กรณีของนายณัฐวุฒิ 4 คน วันนี้ตำรวจคุมตัวไปขออำนาจศาลฝากขัง ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น ร่วมกันบุกรุกเคหสถานและร่วมกันทำให้ผู้อื่นเกิดความหวาดกลัว ศาลพิจารณาคำร้องและความจำเป็นแล้ว อนุญาตให้ฝากขังได้

ภายหลังญาติของผู้ต้องหาทั้งสี่ ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวชั้นฝากขัง โดยศาลอาญาธนบุรี พิจารณาแล้วอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวโดยตีราคาประกันคนละ 150,000 บาท