ตร.ให้ประกันตัว ‘เต้ มงคลกิตติ์’ คดีโพสต์หมิ่น ‘ศักดิ์สยาม’ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา-ไม่คิดหนี

‘เต้ มงคลกิตติ์’ ได้ประกันตัว วงเงิน 45,000 บาท หลังจากถูกออกหมายจับ จาก สภ.บุรีรัมย์ โดยตำรวจยืนยันการออกหมายจับเป็นไปตามขั้นตอนไม่ได้กลั่นแกล้ง

วันที่ 21 ต.ค. 2564 นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ เต้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เปิดเผยภายหลังเดินทางมา สภ.บุรีรัมย์ รับทราบข้อกล่าวหาตามหมายจับ ฐานโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่นำจะเกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณากับ พ.ต.ท.ไชยา สระโสม สารวัตร(สอบสวน) สภ.เมือง บุรีรัมย์ จากการกล่าวหานายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กรณีติดเชื้อโควิด-19 จากการไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา ว่า การมามอบตัวครั้งนี้ ไม่เคยคิดจะหลบหนี พนักงานสอบสวนให้ใช้เงินสดประกันตัว 45,000 บาท

ส่วนอีกคดีที่เพิ่งได้รับแจ้งอีก 1 ข้อหา ฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงาน หลังพบข้อความบทสัมภาษณ์ออกสื่อ ที่เขียนระบุข้อความเกี่ยวการถูกออกหมายจับด้วยถ้อยคำว่า “เป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง เพราะอยู่ในท้องที่บุรีรัมย์ และตั้งข้อสังเกตว่าตำรวจและศาลจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นลูกน้องผู้มีอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังทางการเมือง” นายมงคลกิตติ์ เห็นว่าเป็นการเอาหลักฐานจากสื่ออื่นมาแจ้งความ ขณะนี้รับทราบทุกข้อกล่าวหา แต่ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ นายมงคลกิตติ์ ได้เดินทางมาถึง สภ.บุรีรัมย์ เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมาโดยเมื่อมาถึงได้ระบุว่า หากตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ไม่ให้ประกันตัว ก็พร้อมติดคุก เพราะไม่มีเงินประกันตัว พร้อมกันนี้ยังได้เตรียมขัน แก้วและแปรงสีฟันมาด้วย

ขณะที่ พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ แถลงยืนยันกรณีนายมงคลกิตต์อ้างว่าหมายเรียกไม่ถูกต้องว่า หลังพนักงานสอบสวน รับแจ้งความจากนายทิวา การกระสัง วันที่ 23 เม.ย.64 ตำรวจออกหมายเรียกในวันเดียวกัน แต่เกิดความผิดพลาดที่พนักงานสอบสวน เอาแบบฟอร์มการออกหมายเรียกฉบับเก่าในคดีอื่นมาเรียบเรียง แต่ไม่ได้ลบวันที่ ที่ระบุเป็นวันที่ 10 เม.ย. 64 จึงทำการยกเลิกหมายเรียกครั้งแรกไป

ต่อมาวันที่ 2 พ.ค.64 พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกไป ถือเป็นครั้งที่ 1 ระบุให้มาพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 5 พ.ค.แต่นายมงคลกิตติ์ ขอเลื่อนการให้ปากคำ วันที่ 8 ส.ค. 64 พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกอีกครั้ง ให้มาพบพนักงานสอบสวน ในวันที่ 17 ส.ค. 64 โดยส่งหมายไปที่ สน.บางศรีเมือง และส่งทางไปรษณีย์ แต่ไม่ยอมมาพบ ถือเป็นการออกหมายเรียกครั้งที่ 2
วันที่ 6 ก.ค. 64 พนักงานสอบสวน ได้ขอศาลออกหมายจับ แต่ศาลยกคำร้อง โดยศาลระบุให้ออกหมายเรียกอีกครั้ง วันที่ 20 ก.ย. 64 พนักงานสอบสวน จึงออกหมายเรียกให้มาพบในวันที่ 1 ต.ค. 64 ถือเป็นการออกหมายเรียกครั้งที่ 3 แต่ยังไม่มาพบอีก

จากนั้นวันที่ 4 ต.ค. 64 พนักงานสอบสวนได้ขอศาลออกหมายจับ ถือเป็นการขอออกหมายจับครั้งที่ 2 แต่ศาลยกคำร้องระบุให้ออกหมายเรียกอีกครั้ง วันที่ 4 ต.ค. 64 จึงออกหมายเรียกนายมงคลกิตต์ อีก 1 ครั้งถือเป็นครั้งที่ 4 ให้มาพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 18 ต.ค. แต่ไม่มาพบ วันที่ 20 ต.ค.จึงขอหมายออกหมายจับอีกครั้ง ศาลจึงออกให้ ตามหมายจับที่ จ.231 /2564

ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวด้วยว่า รวมทั้งหมดออกหมายเรียกนายมงคลกิตต์ จำนวน 4 ครั้ง ขอออกหมายจับ 3 ครั้ง ยืนยันทำตามขั้นตอนตามกฎหมายทุกประการ ไม่มีการกลั่นแกล้งใคร