SHARE

คัดลอกแล้ว

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ วิจารณ์รัฐประหารซูดานเป็นการก้าวถอยหลัง เรียกร้องกองทัพเร่งคืนอำนาจให้ประชาชน ยุติการใช้ความรุนแรงกับผู้ประท้วง  

วันที่ 29 ต.ค. 2564 ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ถึงสถานการณ์ประท้วงในซูดาน ซึ่งเป็นผลมาจากรัฐประหารเมื่อวันที่ 25 ต.ค. ที่ผ่านมา จนเหตุการณ์บานปลาย เกิดการเผชิญหน้าระหว่างทหารกับกลุ่มชุมนุม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 ราย ระบุว่าชาวซูดานต้องได้รับอนุญาตให้จัดกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างสันติ พร้อมเรียกร้องกองทัพยุติความรุนแรง ปล่อยตัวผู้ประท้วงที่ถูกจับกุม และคืนอำนาจให้ประชาชนโดยเร็ว 

“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เป็นการก้าวถอยหลังครั้งใหญ่ แต่สหรัฐฯ จะยังคงยืนอยู่เคียงข้างชาวซูดาน และการต่อสู้ทางการเมืองด้วยสันติวิธีของพวกเขา” ข้อความในแถลง

การณ์ระบุ พร้อมเสริมว่า “เสรีภาพ ความเสมอภาค การปกครองภายใต้หลักนิติธรรม และการเคารพสิทธิมนุษย์ ล้วนเป็นรากฐานสำคัญที่จะนำไปสู่ความมั่นคงและเจริญรุ่งเรืองของซูดานในอนาคต เฉกเช่นเดียวกับที่อื่นๆ ทั่วโลก”

แถลงการณ์ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุว่า “ผู้นำและองค์กรต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงสหภาพแอฟริกา, สันนิบาตอาหรับ, สหภาพยุโรป, กองทุนการเงินระหว่างประเทศ, องค์การความร่วมมืออิสลาม, ธนาคารโลก และล่าสุดคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ต่างก็ส่งสัญญาณที่ชัดเจนไปยังกองทัพซูดานว่า ชาวซูดานจะต้องได้รับอนุญาตให้เคลื่อนไหวทางการเมืองได้อย่างสันติ และกองทัพต้องคืนอำนาจให้กับประชาชนโดยเร็วเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนผ่านที่นำโดยรัฐบาลพลเรือน”

การก่อรัฐประหารในซูดานครั้งล่าสุดนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างกองทัพกับแนวร่วมภาคการเมืองและประชาชนในรัฐบาลเฉพาะกาลเพื่อเปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตยนับตั้งแต่การโค่นประธานาธิบดีโอมาร์ อัลบาชีร์ ผู้นำเผด็จการที่ครองอำนาจยาวนาน 3 ทศวรรษ เมื่อเดือนเม.ย. 2562 

ชาวซูดานจำนวนมากออกมาชุมนุมประท้วงบนถนนในกรุงคาร์ทูม และอีกหลายเมืองทั่วประเทศ หลังจากที่กองทัพก่อรัฐประหาร ยึดอำนาจจากรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีอับดัลลา แฮมด็อก ซึ่งได้ถูกทหารควบคุมตัวไปพร้อมกับภริยา และสมาชิกคณะรัฐมนตรีจำนวนหนึ่ง เมื่อวันจันทร์ (25 ต.ค.) ที่ผ่านมา จนสถานการณ์เริ่มรุนแรงขึ้น เมื่อมีการปะทะระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมกับกองทัพที่เข้ามาสลายการชุมนุม โดยมีรายงานว่าทหารใช้ทั้งกระสุนยางและกระสุนจริงยิงประชาชนที่ออกมาประท้วงส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตล่าสุดอย่างน้อย 11 ราย

ด้านพลเอกอับเดล ฟัตตาห์ อัล-เบอร์ฮาน ผู้บัญชาการกองทัพซึ่งเป็นผู้นำการก่อรัฐประหารในครั้งนี้ ได้ออกมาปกป้องการตัดสินใจเข้ายึดอำนาจว่า เป็นการป้องกันไม่ให้เกิดสงครามกลางเมือง และขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างเจรจากับหลายฝ่าย รวมถึงนายกรัฐมนตรีอับดัลลา ฮัมด็อก เพื่อเร่งจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลชุดใหม่ 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า