SHARE

คัดลอกแล้ว

สรุปสาระสำคัญ ศบค. แถลงต้อนรับไทยเปิดประเทศ เน้นย้ำมาตราการเดินทางท่องเที่ยวแบบไม่กักตัว, สถานการณ์โควิด-19 ไทยดีขึ้น แต่ต้องเร่งฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว ชี้หากวัคซีนเพียงพอจะฉีดให้แรงงานข้ามชาติด้วย และสุดท้ายชี้แจมปมสงสัยสุ่ใตรวจ ATK ในนักเรียน ให้ตรวจเฉพาะกลุ่มที่มีความเสี่ยงเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องตรวจทุกคน เมื่อพบการแพร่ระบาดให้สอบสวนโรคทันที

วันที่ 1 พ.ย. 2564 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8,165 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 7,631 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 7,241 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 390 ราย มาจากเรือนจำ 525 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 6 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 1,920,189 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 9,574 ราย ทำให้มียอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 1,801,702 ราย อยู่ระหว่างรักษา 99,227 ราย อาการหนัก 2,221 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 494 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 55 ราย เป็นชาย 26 ราย หญิง 29 ราย เป็นผู้เสียชีวิตที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 40 ราย มีโรคเรื้อรัง 12 ราย พบผู้เสียชีวิตมากสุดอยู่ใน กทม. 10 ราย ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 19,260 ราย ขณะที่สถานการณ์โลก มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 247,461,079 ราย เสียชีวิตสะสม 5,014,947 ราย

สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดวันที่ 1 พ.ย. ได้แก่ กทม. 625 ราย นครศรีธรราช 539 ราย สงขลา 476 ราย ปัตตานี 448 ราย เชียงใหม่ 378 ราย นราธิวาส 351 ราย ตรัง 295 ราย ยะลา 290 ราย ชลบุรี 259 ราย สมุทรปราการ 249 ราย ขณะที่ จ.อำนาจเจริญ และนครพนม เป็น 2 จังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันที่ 1 พ.ย.

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ภาพรวมของทั้งประเทศทุกพื้นที่ถือว่าตัวเลขการติดเชื้อลดลง รวมไปถึง 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่กระทรวงสาธารณสุขยังเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิดในพื้นที่ 10 จังหวัด ได้แก่ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา เชียงใหม่ ตาก ระยอง จันทบุรี และขอนแก่น เนื่องจากยังพบการติดเชื้อสูงอยู่ ขณะเดียวกันพบคลัสเตอร์ใหม่หลายแห่ง อาทิ พบผู้ติดเชื้อจากบุญบั้งไฟที่ จ.หนองคายและเดินทางข้ามไปยัง จ.อุดรธานี คลัสเตอร์งานแต่งที่ จ.เชียงใหม่ คลัสเตอร์แคมป์คนงานที่ จ.ชลบุรี นครนายก เชียงใหม่ ประจวบคีรีขันธ์ คลัสเตอร์โรงเรียนและวิทยาลัยที่ จ.เชียงใหม่และแม่ฮ่องสอน คลัสเตอร์แรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมืองที่ จ.กำแพงเพชร และพิจิตร จึงฝากผู้ที่จัดงานต่างๆ ให้เข้มข้นมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด ทั้งการคัดกรองผู้ร่วมงานและจัดสถานที่ให้มีระยะห่าง

  • ย้ำมาตรการคุมเข้มไทยเปิดประเทศวันแรก 

ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวย้ำถึงมาตรการผ่อนคลายมาตรการเปิดประเทศ โดยที่สนามบินสุวรรณภูมิได้มีการทดสอบระบบไทยแลนด์พาสครั้งแรก และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเที่ยวที่มาถึงแล้วคือจากประเทศสิงคโปร์ และประเทศญี่ปุ่น ผู้โดยสารเที่ยวบินที่มาจากญี่ปุ่นส่วนใหญ่เป็นคนไทยที่ต้องการเดินทางกลับบ้าน มีต่างชาติเพียง 11 รายเท่านั้น ทั้งนี้ การเดินทางเข้ามาของนักท่องเที่ยวยังคงเป็นการทยอยรับเข้ามา ระหว่างนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะทำการเช็กระบบว่ามีประสิทธิภาพหรือไม่ โดยรับผู้เดินทางจาก 61 ประเทศ 2 เขตปกครองฯ ผู้ที่เข้ามาต้องไดัรับวัคซีนครบ,ตรวจไม่พบเชื้อ มีประกันฯ มีหลักฐานค่าที่พัก SHA+ หรือ AQ  1 วัน (รอตรวจหาเชื้อ) เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางถึงไทยจะต้องตรวจ RT-PCR และโหลดแอพฯ หมอชนะ เมื่อผลตรวจไม่พบเชื้อก็จะเข้าตามระบบต่อไป

  • ปรับสูตรฉีดวัคซีน 4 จังหวัดภาคใต้ เตรียมฉัดวัคซีนแรงงานข้ามชาติ

พญ.อภิสมัย เปิดเผยว่า ที่ประชุท ศบค.ชุดเล็กวันนี้ได้ให้ความสำคัญคือจะต้องฉีดวัคซีนเพิ่มในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสาน โดยเฉพาะพื้นที่ติดขอบแนวชายแดนที่มีการฉีดวัคซีนน้อย รวมถึงพื้นที่สีฟ้า 17 จังหวัด ที่ยังมีบางจังหวัดฉีดวัคซีนไม่ครบเกณฑ์เป้าหมาย 70% ซึ่งในเดือน พ.ย.นี้จะดำเนินการให้ทัน ยืนยันวัคซีนมีเพียงพอ เพราะนอกจากจะเปิดรับนักท่องเที่ยวแล้วจะมีแรงงานเข้ามาทำงานด้วย ที่ประชุม ศบค.จึงเห็นชอบที่จะฉีดวัคซีนให้แรงงานข้ามชาติด้วย ซึ่งเมื่อวัคซีนเพียงพอในแต่ละจังหวัดแล้วจะประกาศให้ผู้ประกอบการนำแรงงานข้ามชาติที่อยู่ในความดูแลไปรับการฉีดวัคซีน

เดือน พ.ย.นี้ ถ้าวัคซีนเป็นไปตามแผนที่คาดการณ์ไว้จะมีวัคซีน 24 ล้านโดสเข้ามาในไทย เราจะมีวัคซีนเพียงพอครอบคลุมประชากรชาวไทยและเพียงพอที่จะฉีดให้แรงงานข้ามชาติที่เข้ามาทำงานในไทยด้วย เพราะถ้าแรงงานปลอดภัย ชุมชนนั้นๆ และคนไทยก็จะปลอดภัยด้วย ทั้งนี้ขอให้ผู้ประกอบการทุกด้านเร่งสำรวจเพื่อให้กระทรวงสาธารณสุขจัดสรรวัคซีนให้อย่างเพียงพอ

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า สำหรับสูตรวัคซีนที่จะฉีดให้ 4 จังหวัดชายแดนใต้ กระทรวงสาธารณสุขได้ปรับสูตรเป็นวันซีนไฟเซอร์ทั้ง 2 เข็ม เพื่อเป็นการตอบโต้เชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เฉพาะที่มีการแพร่ระบาดอยู่ในชายแดนภาคใต้

  • สุ่มตรวจ ATK นักเรียน ทำเฉพาะกลุ่มเสี่ยง

ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวถึงการเปิดเทอมวันแรก การสุ่มตรวจ ATK สับหรับโรงเรียนที่นักเรียน ครู และบุคลกร ฉีดวัคซีนครอบคลุมแล้ว การตรวจเชื้อโควิด-19 ด้วยชุดตรวจ ATK ในส่วนของข้อกำหนดฉบับที่ 34 กระทรวงศึกษาธิการประกาศไว้เกี่ยวกับหลักเกณฑ์การเปิดเรียน การคัดกรองโควิด-19 ในโรงเรียน สิ่งสำคัญคือให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด กำหนดได้ตามความเหมาะสมของการระบาดในพื้นที่ ซึ่งข้อสรุปของแต่ละพื้นที่จะต้องมีการประชุมร่วมกัน

ทั้งนี้ โรงเรียนจะต้องมีการประเมินตนเองตามมาตรการที่กรมอนามัยกำหนด ครูและบุคคลกรก็ต้องประเมินตนเองด้วยเช่นกันรวมถึงเช็กประวัติความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ด้วยทุกวัน

“การตรวจ ATK คงไม่ใช่การตรวจนักเรียนทุกคน ไม่จำเป็นต้องตรวจแบบปูพรม และไม่จำเป็นต้องตรวจอาทิตย์ละ 2 ครั้ง ทั้งนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสถานการณ์แพร่ระบาดในพื้นที่ จากผลการหารือของกรมควบคุมโรคระบุว่า การตรวจ ATK ในเด็กไม่จำเป็นต้องตรวจแบบปูพรม ไม่จำเป็นต้องตรวจทุกคน ทุกสัปดาห์”

การตรวจ ATK แนะนำให้ตรวจเฉพาะนักเรียนกลุ่มเสี่ยง เช่น มีประวัติว่าคนในบ้านติเชื้อโควิด-19 นักเรียนคนนั้นก็จะต้องตรวจ ATK หรือโรงเรียนอาจใช้มาตรการขอให้นักเรียนที่มีความเสี่ยงหยุดเรียนชั่วคราวก่อน ทั้งนี้ต้องสื่อสารกับผู้ปกครองให้เข้าใจตรงกันว่าหากมีการติดเชื้อในครอบครัวจะขอให้เด็กอยู่บ้านกักตัวครบ 14 วันก่อน

เมื่อมีการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดแล้วหากมีการติดเชื้อโควิด-19 อีกจะต้องมีการพิจารณาอย่างรอบครอบเพราะการปิกโรงเรียนอาจไม่ใช่คำตอบ จะต้องมีการสอบสวนโรคให้ละเอียดเพื่อให้เกิดแนวทางและมาตรการดูแลจุดที่มีความเสียง ปิดการเรียนการสอนเฉพาะชั้นเรียนนั้นๆ

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า