SHARE

คัดลอกแล้ว

‘สุเทพ เทือกสุบรรณ’ ไม่เห็นด้วยแก้ไข ม.112 เพราะบัญญัติไว้เหมาะสมถูกต้องแล้ว กังวลใจนำไปสู่ข้อขัดแย้ง พร้อมเล่าที่มาของการตรากฎหมาย

วันที่ 4 พ.ย. 2564 นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท.) แสดงความเห็นกรณี ม.112 ผ่านทาง “คุยกับลุง EP4 ม.112 ในมุมมองของผม” สรุปว่า การแก้ไข ม.112 ขณะนี้ยังไม่เห็นว่าผู้ที่จะแก้ไขนำเสนอรายละเอียดอย่างไร จะแก้ส่วนไหน หรือจะแก้ทั้งหมด เรารอไว้ก่อนให้เห็นร่างจะเสนอแล้วค่อยวิพากษ์วิจารณ์กัน

นายสุเทพ กล่าวว่า มาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ม.112 มีวัตถุประสงค์ที่มาอย่างไร ซึ่งเนื้อหาสาระของ ม.112 บัญญัติไว้ว่า ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือ ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี เนื้อหาสาระมีแค่นี้ จึงยังไม่รู้ว่าจะแก้ตรงไหน

“การตรากฎหมาย ขึ้นในประเทศ เป็นไปหลักการปกครองของบ้านเมือง เดิมทีประเทศไทยของเราปกครองด้วยระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์อำนาจอธิปไตย อำนาจสูงสุดในการปกครองประเทศ เป็นของพระมหากษัตริย์ ทรงใช้พระราชอำนาจในการปกครองประเทศ เพื่อประชาชน เพื่อพัฒนาประเทศ เพื่อความอยู่ดีกินดี ของพสกนิกรทั้งหลาย แต่ว่าในปี 2475 เราได้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการปกครองประเทศไทย จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นระบอบประชาธิปไตย ระบอบประชาธิปไตย ถือว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย แต่ว่าจะต้องใช้อำนาจนั้นกันอย่างไร” นายสุเทพ กล่าว

นายสุเทพ กล่าวว่า มีตัวบทกฎหมาย เป็นหลักยึด เรียกว่า เป็นการปกครองตามหลักนิติรัฐ นิติธรรม กฎหมายสูงสุดใารปกครองประเทศก็คือ กฎหมายรัฐธรรมนูญ มีบทบัญญัติไว้โดยเฉพาะคือ บทบัญญัติในหมวดที่ 2 พระมหากษัตริย์ และในมาตรา 6 ของรัฐธรรมนูญ ว่า องค์พระมหากษัตริย์ ทรงดำรงอยู่ในฐานะเป็นที่เคารพ สักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ผู้ใดจะกล่าวหา หรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ ในทางใดๆมิได้ ตรงนี้เป็นเรื่องสากลที่เขาทำกันทุกประเทศ เขาจะต้องมีกฎหมาย เพื่อปกป้องประมุขของประเทศ ที่ดำรงฐานะ อยู่ในฐานะสูงสุด เป็นศูนย์รวมใจของคนทั้งประเทศ ไม่ว่าจะปกครองในระบอบ ที่มีพระมหากษัตริย์ทรง เป็นประมุข หรือ จะเป็นการปกครองแบบสาธารณรัฐ ที่มีประธานาธิบดี เป็นประมุขก็ตาม ต้องมีกฎหมายแบบอย่างนี้ นี่ก็คือที่มาของกฎหมายอาญา ม.112

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า เราตรากฎหมายอาญาม.112 ขึ้น เพื่อปกป้องพระมหากษัตริย์ ไม่ให้ผู้ใดละเมิด จริงๆ แล้ว เราไม่ได้ปกป้องเฉพาะพระมหากษัตริย์ ผู้ทรงเป็นพระประมุขของประเทศ เรามีกฎหมายอาญา ม.133 ปกป้องประมุขของรัฐอื่น ประเทศอื่นเช่นเดียวกัน ข้อความเหมือนกันเลย สาระในกฎหมายที่บัญญัติไว้ มีข้อความเหมือนกัน ม.133 บัญญัติว่า ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือ แสดงความอาฆาตมาดร้าย ราชาธิบดี ราชินี ราชสามี รัชทายาท หรือประมุขแห่งรัฐต่างประเทศ ต้องระวางคุกจำโทษ ตั้งแต่ 1 ปี ถึง 7 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2 หมื่นบาท ถึง 1 แสน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

“พี่น้องประชาชนเห็นไหม เรามีกฎหมายอาญาปกป้องทั้ง พระประมุข ที่เป็นพระมหากษัตริย์ของเรา และเราให้เกียรติ ปกป้องประมุขของประเทศอื่น และลองนึกดูว่า ถ้าเราไม่เขียนปกป้อง ประมุขของประเทศอื่นไว้ หากมีคนไทยคนไหนเครื่องร้อนขึ้นมา ไปหมิ่นประมาท ไปดูหมิ่น หรือไปแสดงความอาฆาตมาดร้าย ประมุขประเทศอื่น ไม่ว่าจะเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ หรือพระราชาธิบดี หรือ ประธานาธิบดี ถ้าเกิดมีคนไทยทำอย่างนั้นขึ้นมา เป็นเรื่องระหว่างประเทศ ประชาชนเขาก็คงไม่ยอมว่า ทำไมคนไทยถึงไปล่วงละเมิดดูหมิ่นประมุขของประเทศเขา อันนี้ก็เรียกว่า เป็นสงครามได้ เป็นเรื่องใหญ่ได้” นายสุเทพ กล่าว

นายสุเทพ กล่าวด้วยว่า สิ่งที่บัญญัติไว้ในกฎหมายอาญา เรื่องการ ปกป้องประมุขของประเทศจึงเป็นหลักสากล ประเทศอื่นเขาก็ทำกันทั้งนั้น พี่น้องประชาชนไปอเมริกา อยู่ดีๆ จะไปยื่นด่าประธานาธิบดี หรือ ไปแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อประธานาธิบดีของเขา ก็จะถูกกฎหมายของเขาดำเนินการลงโทษจำคุก นี่เป็นเรื่องที่เป็นปกติสากล ที่นี้ในประเทศของเรา เพราะคนไทยมีความกตัญญู รู้คุณ ต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ประเพณี การปกครองของประเทศ เราจึงได้มีบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ และบทบัญญัติของกฎหมายอาญา มาตราอื่นรองรับในกฎในกติกาของรัฐธรรมนูญ

“พี่น้องประชาชนเข้าใจที่มา ม.112 แล้ว เราก็จะได้ติดตามได้ว่าแล้วคนที่เขาตั้งใจ จะแก้ไขกฎหมายอาญามาตรานี้ เขาคิดอะไร เขาต้องการทำอะไร เพื่อเป้าหมายอะไร มันไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย ที่คนไทยจะต้องมาทะเลาะกันในเรื่องนี้ แต่ว่าที่ต้องเป็นเรื่องใหญ่ เพราะเมื่อก่อนมันไม่เคยมีใครคิด ที่จะไปดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ หรือ จะไปแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ เพราะฉะนั้นคนไทย ก็เลยไม่ได้ให้ความสนใจเรื่องกฎหมายอาญา ม.112 ไม่มีใครเดือดร้อนที่กฎหมายอาญาม.112 บัญญัติเอาไว้ เพราะไม่มีคนไทยคนไหนเขาคิดทำอย่างนั้น แล้วทุกคนก็คิดว่าที่ตรากฎหมาย แบบนี้ไม่กระทบกระเทือนชีวิตความเป็นอยู่ อนาคตของใครเลย แต่วันนี้พอจะมีคนมาติดแก้ไขก็เลยต้องไปดูว่า ทำเพื่ออะไร ผมกังวลใจลึกๆ ว่า เรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่นำไปสู่ ข้อขัดแย้งของคนในประเทศ” นายสุเทพ กล่าว

นายสุเทพ กล่าวว่า สารภาพเลยว่ายืนอยู่ข้างไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขกฎหมายอาญาม.112 เพราะเห็นว่าที่บัญญัติไว้แค่นี้ เหมาะสมถูกต้องแล้ว สำหรับประเทศไทยของเรา พี่น้องคนไทยคิดเห็นเหมือนกันหรือไม่

ขอบคุณภาพ เฟซบุ๊ก สุเทพ เทือกสุบรรณ

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า