SHARE

คัดลอกแล้ว

ไฟเซอร์เผยผลทดลองทางคลินิกยา ‘แพกซ์โลวิด’ มีประสิทธิภาพลดการเสียชีวิตและเข้าโรงพยาบาล 89% สูงกว่า ‘โมลนูพิราเวียร์’ ที่มีประสิทธิภาพ 50%

วันที่ 5 พ.ย. 2564 เว็บไซต์บลูมเบิร์กรายงานว่า ไฟเซอร์ อิงค์ บริษัทยารายใหญ่ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ยารักษาโรคโควิด-19 ของบริษัทช่วยลดการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและการเสียชีวิตในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงได้ถึง 89% นับได้ว่าเป็นผลลัพธ์ที่จะช่วยยกระดับการรักษาโรคโควิด-19 

ไฟเซอร์เผยในแถลงการณ์ว่า บริษัทจะไม่รับผู้ป่วยรายใหม่เข้าร่วมการทดลองอีกต่อไป เนื่องจากพบข้อบ่งชี้ว่าตัวยามีประสิทธิภาพสูงในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 และจะรีบดำเนินการส่งผลการทดลองนี้ให้กับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) เพื่อขออนุมัติการใช้ยาดังกล่าวเป็นกรณีฉุกเฉินโดยเร็วที่สุด

ไฟเซอร์เปิดเผยว่า จากการทดลองในอาสาสมัครจำนวน 1,219 คน หลังจากรักษาด้วยยาเป็นเวลา 5 วัน พบว่าสามารถลดอัตราการเข้าโรงพยาบาลลงได้มาก เมื่อกินยาหลังเริ่มมีอาการ 3-5 วัน 

ยาดังกล่าว ซึ่งมีชื่อว่า ‘แพกซ์โลวิด’ (Paxlovid) จะเข้าไปจับตัวกับเอมไซน์ที่เรียกว่าโปรตีนเอส เพื่อหยุดยั้งการเพิ่มจำนวนของไวรัส ในลักษณะเดียวกับยาที่ใช้รักษาเอชไอวีบางตัว

ผลการทดลองพบว่า มีผู้ป่วยที่ได้รับยาของไฟเซอร์ภายใน 3 วันหลังมีอาการ มีจำนวนเพียง 0.8% ที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล และไม่มีผู้ใดเสียชีวิต โดยอัตราดังกล่าวใกล้เคียงกับผู้ที่ได้รับยาภายใน 5 วันหลังมีอาการ ขณะที่ผู้ได้รับยาหลอกจำนวน 7% ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล และบางคนเสียชีวิตในเวลาต่อมา

การเปิดเผยล่าสุดของไฟเซอร์นับเป็นอีกหนึ่งความหวังในการรักษาโรคโควิด-19 ด้วยยาเม็ดที่สามารถรับประทานเองที่บ้าน ซึ่งถูกมองว่าจะมาเป็นเครื่องมือสำคัญในการควบคุมวิกฤตการแพร่ระบาดทั่วโลก

ก่อนหน้านี้ เมอร์ค แอนด์ โค และ ริดจ์แบ็ก ไบโอเทราพิวติกส์ ได้ยื่นผลการทดลอง ‘โมลนูพิราเวียร์’ ยารักษาโควิด-19 ที่ทั้งสองบริษัทร่วมกันพัฒนา พบว่าสามารถลดความเสี่ยงจากการป่วยหนักหรือเสียชีวิตลงครึ่งหนึ่งในผู้ป่วยโควิดที่มีอาการเล็กน้อยถึงปานกลางต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ โดยกำลังอยู่ระหว่างรอการอนุมัติในขณะนี้ 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า