ปภ. รายงาน ฝนตกหนัก น้ำป่าทะลัก 3 จังหวัดใต้ น้ำท่วมฉับพลัน บ้านกว่า 100 หลังคาเรือน ได้รับผลกระทบ
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานสถานการณ์อุทกภัยจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ตั้งแต่วันที่ 6 – 7 พ.ย. 2564 ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช กระบี่ รวม 4 อำเภอ 5 ตำบล 8 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 143 ครัวเรือน ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ภาพรวมสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังบางพื้นที่
1.สุราษฎร์ธานี เกิดเหตุฝนตกหนักน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวิภาวดี และอำเภอชัยบุรี รวม 3 ตำบล 3 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 55 ครัวเรือน ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายแล้ว
2.นครศรีธรรมราช เกิดเหตุฝนตกหนักน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่อำเภอบางชัน รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 50 ครัวเรือน ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายแล้ว
3.กระบี่ เกิดเหตุฝนตกหนักน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่อำเภอปลายพระยา รวม 1 ตำบล 4 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 38 ครัวเรือน
จ.กระบี่ น้ำป่าทะลักเข้า รพ.ปลายพระยา
หลังเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องนานหลายชั่วโมงเมื่อวันที่ 6 พ.ย. ที่ผ่านมา ทำให้หลายพื้นที่ จ.กระบี่ ทั้งที่ อ.เขาพนม และ อ.ปลายพระยา เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าจากคลองยา และคลองบางหลน หลากเข้าท่วมหลายพื้นที่ในเขตเทศบาลตำบลปลายพระยา ถนนสายหลักเส้นอ่าวลึก-พระแสง ถูกน้ำท่วมสูงประมาณ 40 – 50 ซม. เป็นระยะทางกว่า 200 เมตร รถเล็กสัญจรผ่านไปมาลำบาก ต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางถนนเซ้าท์เทิร์นซีบอร์ดในการเดินทางไปยัง จ.สุราษฎ์ธานี แทน
นอกจากนี้น้ำยังไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในเขตเทศบาล รวมทั้งบ้านชาวบ้านใน ต.ปลายพระยา อีกหลายร้อยหลัง ระดับน้ำสูง 1 เมตร ประกอบกับเป็นช่วงน้ำทะเลหนุนสูง ทำให้ระดับน้ำท่วมขังนาน 2 – 3 ชม.
ขณะที่ รพ.ปลายพระยา ถูกน้ำป่าหลากเข้าท่วมพื้นที่ สูง 20 – 30 ซม. เจ้าหน้าที่ต้องย้ายรถฉุกเฉิน รถผู้ป่วย ออกจากบริเวณโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน รวมทั้งเคลื่อนย้ายเครื่องมือทางการแพทย์ ออกจากจุดเสี่ยง
ขณะที่ผู้นำชุมชนในหมู่ 3 ต.เขาเขน อ.ปลายพระยา ช่วยกันอพยพชาวบ้าน ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียง ออกไปยังจุดปลอดภัยเป็นการชั่วคราว เนื่องจากยังไม่มั่นใจว่าจะมีน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้นอีกหรือไม่ ชาวบ้านส่วนใหญ่ ต่างบอกว่าไม่เคยเกิดน้ำท่วมแบบนี้มาตั้งแต่ปี 2554
จ.นครศรีธรรมราช น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอบางขัน บ้านเรือนเสียหาย 50 หลัง ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 200 คน
ปภ.จังหวัดนครศรีธรรมราชรายงานเมื่อเวลาประมาณ 18.40 น. วันที่ 6 พ.ย. 2564 ได้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่อำเภอบางขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช ทำให้มีน้ำขังรอการระบายและท่วมในพื้นที่ หมู่ที่ 14 ตำบลบ้านลำนาว อำเภอบางขัน และมีน้ำท่วมเส้นทาง รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้
จากการสำรวจเบื้องต้นมีบ้านเรือนได้รับความเสียหาย 50 หลังคาเรือน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 200 คน
ศูนย์ประสานการปฏิบัติฯ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช สาขาทุ่งใหญ่ ได้ประสานนายอำเภอบางขัน และอบต.บ้านลำนาว ลงพื้นที่เร่งดำเนินการซ่อมแซมเส้นทางที่ถูกน้ำท่วม และได้ประสานแขวงทางหลวง เพื่อวางแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไป
ทั้งนี้ ฝนตกลงมาติดต่อกัน 3 วัน ทำให้น้ำไม่สามารถระบายได้ทัน ประกอบกับน้ำฝนที่ตกลงบนเขาทำให้น้ำจากเทือกเขาไหลลงมาสมทบจึงทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน
จ. สุราษฎร์ธานี ฝนตกหนักน้ำป่าไหลหลากใน 2 อำเภอ
ในหลายพื้นที่ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีฝนตกหนัก เมื่อวันที่ 6 พ.ย. ที่ผ่านมา ทำให้น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน พื้นที่ 2 อำเภอ 3 ตำบล 3 หมู่บ้าน
ประชาชนได้รับผลกระทบ 55 ครัวเรือน ความเสียหายอยู่ระหว่างการสำรวจ
เจ้าหน้าที่ได้ให้ความช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว พร้อมจัดส่งเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน ช่วงเช้าวันนี้ (7 ต.ค. 64) ฝนหยุดตก ระดับน้ำลดลงกลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว
ด้าน นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้สั่งการให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี แจ้งเตือนทุกอำเภอเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และคลื่นลมแรง ตั้งแต่วันที่ 7 – 13 พ.ย. 2564 พร้อมกับเตรียมความพร้อมเข้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ตลอด 24 ชั่วโมง