SHARE

คัดลอกแล้ว

‘ปารีณา’ ขึ้นศาลฎีกาฯ นัดแรกในคดีฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีบุกรุกพื้นที่ป่า เตรียมพยานต่อสู้ 10 ปาก มั่นใจพยานหลักฐาน

วันที่ 9 พ.ย. 2564 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดพิจารณาคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ในคดีบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนใน จ.ราชบุรี อันเป็นการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวและส่วนรวม ซึ่งการพิจารณาคดีนัดแรก น.ส.ปารีณา ต้องเดินทางมาศาล

โดย น.ส.ปารีณา เดินทางมาพร้อมกับ นายทิวา การกระสัง ทนายความ พร้อมระบุว่า ได้เตรียมรายชื่อพยานในการต่อสู้คดีทั้งหมด 10 ปาก ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินเดิม เป็นเจ้าหน้าที่ปฏิรูปที่ดิน และเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ โดยจะต่อสู้เพื่อยืนยันว่า ไม่ได้บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนตามที่ถูกกล่าวหา แต่เป็นการรับมรดกที่ดินส่งต่อมาจากบิดา ตั้งแต่ก่อนที่จะประกาศเป็นเขตปฏิรูปที่ดิน

น.ส.ปารีณา กล่าวว่า ขณะนี้รู้สึกสบายใจมากขึ้น ตั้งแต่เปลี่ยนทนายความเพื่อมาต่อสู้คดี มั่นใจในความบริสุทธิ์ และตั้งแต่ศาลประทับรับฟ้องในคดีนี้ มีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปมาก แต่เมื่ออยู่ภายใต้กฎหมายต้องปฏิบัติตาม

สำหรับคดีดังกล่าว สืบเนื่องจาก ป.ป.ช. ยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ กรณีบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนในจังหวัดราชบุรี อันเป็นการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวและส่วนรวม โดยศาลเห็นว่า ป.ป.ช.บรรยายพฤติการณ์ชัดเจน ดำเนินการครบถ้วนจึงมีคำสั่งให้รับคำร้องและให้ น.ส.ปารีณา หยุดปฏิบัติหน้าที่ เมื่อวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ กฎหมาย ป.ป.ช. ปี 2561 มาตรา 81 ระบุว่า หากศาลฎีกาพิพากษาว่า มีความผิดตามที่ถูกกล่าวหา ให้ผู้ต้องคำพิพากษานั้น พ้นจากตำแหน่งนับแต่วันที่หยุดปฏิบัติหน้าที่ และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้น และจะเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดเวลาไม่เกิน 10 ปีด้วยหรือไม่ก็ได้ หากผู้ใดถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง จะไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ส.ว. สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นตลอดไป และไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ

คดีนี้ ป.ป.ช.ได้ชี้มูลไปเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา โดย โฆษก ป.ป.ช. แถลงว่า ตั้งแต่ปี 2545-2546 นายทวี ไกรคุปต์ บิดาของ น.ส.ปารีณา ได้เข้ามาประกอบกิจการเลี้ยงไก่ และระหว่างการครอบครองต่อมา น.ส. ปารีณา ก็เข้ามาเป็นผู้ซื้อขายไฟฟ้าเพื่อใช้ประกอบกิจการปศุสัตว์เรื่อยมา และจากการตรวจสอบ ไม่ปรากฏว่า น.ส. ปารีณา เข้ามายื่นคำขอใช้ที่ดินปฏิรูป แต่กลับมีพฤติการณ์ถือครอง และกระจายการถือครอง ก่อนดำเนินการถือครองในชื่อของ น.ส.ปารีณา อีกครั้ง ซึ่ง ป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิด น.ส. ปารีณา ว่าฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงใน 2 ข้อหา คือ เป็น ส.ส.กระทำการอันเป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตนกับประโยชน์ส่วนรวม ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมหรือที่เรียกว่า มีผลประโยชน์ทับซ้อน และ เป็น ส.ส.กระทำการใดที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่งตามมาตรฐานทางจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและให้เสนอเรื่องต่อศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัย

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า