สธ.เผยโควิด 4 จ.ชายแดนใต้ขาลง เฝ้าระวัง จ.เชียงใหม่ ยังติดเชื้อสูง เร่งฉีดวัคซีน

สธ.แถลงสถานการณ์โควิด-19 วัคซีนและมาตรการความปลอดภัยด้านสาธารณสุขรับการเปิดประเทศ พบ จ.ชายแดนใต้แนวโน้มผู้ติดเชื้อเริ่มลดลง ย้ำขอให้ปฏิบัติตามมาตรการเคร่งครัด เพื่อไม่ให้ประเทศกลับไปสู่จุดเดิมอีก

วันที่ 15 พ.ย. 2564 นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า สธ.มีมาตรการเร่งรัดการฉีดวัคซีน โดยหน่วยงานต่างๆ อาทิ สธ.จัดกิจกรรมสัปดาห์แห่งการฉีดวัคซีน 27 พ.ย.-5 ธ.ค. 64 จัดทีมฉีดวัคซีนเชิงรุก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และขยายให้กลุ่มแรงงานข้ามชาติ วอล์คอินได้ทุกจังหวัด ไม่ว่าจะเข้าเมืองมาผิดหรือไม่ผิดกฎหมาย ขณะที่กระทรวงมหาดไทยค้นหาเชิงรุกกลุ่มเป้าหมายที่ยังไม่ไดฉีดวัคซีนและนำมาฉีดวัคซีน

ทั้งนี้ขอความร่วมมือทุกคน ทุกจังหวัด ร่วมมือกันฉีดวัคซีนให้ครบถ้วน อย่างน้อย 100 ล้านโดส ภายในเดือน พ.ย. 2564 โดยขณะนี้ฉีดไปแล้ว 85 ล้านโดส แบ่งเป็นเข็มหนึ่ง 63% เข็มสอง 51% ของจำนวนประชากรในประเทศไทย

ส่วนพื้นที่ จ.ภาคใต้ 4 จังหวัด ประกอบด้วย จ.สงขลา จ.ปัตตานี จ.ยะลาและ จ.นราธิวาส แนวโน้มลดลง หลังควบคุมโรคประมาณ 1 เดือน และจังหวัดที่ต้องจับตาอยู่ คือ จ.นครศรีธรรมราช จ.เชียงใหม่ จ.ตาก จ.ตรัง จ.พัทลุง และจ.ขอนแก่น หลายจังหวัดอยู่ในแนวโน้มขาลง เว้น จ. เชียงใหม่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่าจะสูงกว่านี้หรือไม่

ขณะที่ผู้เสียชีวิต วันนี้ 45 ราย พบว่า มีอายุ 60 ปี ขึ้นไป และมีการเจ็บป่วยเรื้อรัง 96% ส่วนผู้เดินทางเข้าประเทศ พบอัตราการติดเชื้อต่ำ ยังไม่พบการแพร่เชื้อ

นพ.เฉวตสรร นามวาท ผอ.กองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในสภาวะฉุกเฉิน กล่าวว่า ภาพรวมการติดเชื้อในประเทศลดลง อยากให้เห็นความสำคัญในการฉีดวัคซีน ทั้งนี้ความเสี่ยงยังอยู่ใกล้ตัวการฉีดวัคซีนจึงเป็นมาตรการเสริมกับการป้องกัน

นพ.อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การขับเคลื่อน โควิด ฟรี เซ็ตติ้ง หลักการดำเนินการ ดูเรื่องกิจกรรมที่เป็นความเสี่ยง คือ การรวมกลุ่มสังสรรค์ การบริโภค และการแสดง การอยู่สถานที่แออัด

ส่วนจะมั่นใจได้อย่างไรว่าหากไม่ใช้มาตราฐาน SHA จะไม่เกิดคลัสเตอร์ นพ.อรรถพล กล่าวว่า มาตการโควิด ฟรี เซ็ตติ้ง มีมาตรการที่ชัดเจน หากปฏิบัติตาม เช่น ไม่รวมกลุ่มกันของพนักงานและต้องตั้งบุคคลให้มาดูแล มาตรการผู้เข้าใช้บริการต้องฉีดวัคซีน ตรวจเอทีเค ส่วนร้านอาหารทำตามข้อกำหนด งดกิจกรรมเรื่องเต้นรำร้องเพลง และการตะโกน หากปฎิบัติตามมั่นใจได้ว่าปลอดภัย

เมื่อถามว่า มีคลิปสถานประกอบการบางร้านที่ถนนข้าวสารปล่อยให้ออกมาร้องเพลงบนถนนในพื้นที่สาธารณะ เข้าข่ายทำผิดกฎหมายหรือไม่ จะทำความเข้าใจอย่างไร นพ.อรรถพล กล่าวว่า ต้องทำความเข้าใจว่าไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน ซึ่งมีหน่วยงานติดตามตรวจสอบแจ้งเตือนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป และการส่งเรื่องร้องเรียนเข้ามาของประชาชนถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เราดำเนินการตรวจสอบได้

ด้าน นพ.เกียรติภูมิ กล่าวด้วยว่า กรณีร้านที่ถนนข้าวสาร อยากให้ทุกคนลองจินตนาการดูว่าหากไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของสาธารณสุขแล้วเกิดการแพร่ระบาดของโรง ตัวเลขการติดเชื้อสูงอีกกระทบกับระบบสาธารณสุข แล้วเราต้องกลับไปเหมือนเดิมคือ หยุดกิจการต่างๆ ห้ามออกนอกเคหสถานอีก เป็นเรื่องที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น เราป้องกันได้ โดยอาศัยความร่วมมือทุกฝ่าย โดยเดือนธันวาคมมีกิจกรรมเฉลิมฉลองอีกหลายอย่าง หากเราไม่ช่วยกันก็คงไม่สามารถจัดงานได้ จึงขอทุกคนร่วมมือกันฉีดวัคซีนและปฏิบัติตามมาตรการส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด