แพทย์จุฬาฯ ย้ำความจำเป็นฉีดวัคซีนโควิดกระตุ้นเข็ม 3 เผยตามหลักการของการให้วัคซีนเพื่อกระตุ้นให้ภูมิต้านทานขึ้นสูงและอยู่นาน
วันที่ 20 พ.ย. 2564 ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ภาพและข้อความเกี่ยวกับภูมิต้านทานและความจำเป็นที่ต้องมีการกระตุ้นเข็ม 3 โดยระบุว่า จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกจะเห็นว่าการระบาดของโรคโควิด-19 ในขณะนี้มีการระบาดอย่างมากในทวีปยุโรป และรองลงมาคืออเมริกา ส่วนใหญ่เป็นประเทศที่ได้รับวัคซีนในอัตราที่ค่อนข้างสูง และวัคซีนที่ใช้จะอยู่ในกลุ่ม mRNA และ virus vector
ศ.นพ.ยง ระบุว่า ในทวีปยุโรปจำนวนผู้ป่วยขณะนี้มากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยที่รายงานทั้งโลก แสดงให้เห็นว่าหลังฉีดวัคซีนมายาวนานถึง 6 เดือนหรือกว่านั้นก็ยังมีการระบาดของโรคเป็นจำนวนมาก
จากข้อมูลดังกล่าวทำให้หลายประเทศได้ตระหนักถึงการลดลงของภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นจากการฉีดวัคซีนที่ผ่านมา และความจำเป็นของการกระตุ้นเข็มที่ 3 มีหลายประเทศเริ่มมีการให้เข็มที่ 3 กันมากขึ้นเพื่อลดการระบาดของโรคลง
สำหรับประเทศไทย ตั้งเป้าหมายไว้ว่าภายในสิ้นเดือนนี้ การฉีดวัคซีนทั้งประเทศน่าจะได้ครบหรือใกล้เคียง 100 ล้านโดส และภายในสิ้นปีนี้ประชากรไทยได้ครบ 2 เข็มอย่างน้อยไม่น้อยกว่า 70% และถ้าได้มากกว่า 80% ก็ยิ่งดี สิ่งที่จะต้องคำนึงต่อไปคือการให้เข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นให้ภูมิต้านทานขึ้นสูงและอยู่นาน ตามหลักการของการให้วัคซีน เช่น การให้วัคซีนในเด็กจำเป็นจะต้องมีเข็มกระตุ้นเสมอ เพื่อจะได้ให้ภูมิขึ้นสูงและคงอยู่นาน และต้องตระหนักว่าถึงฉีดวัคซีนครบ 2 หรือ 3 เข็มก็ตาม วัคซีนไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ แต่ลดการเกิดโรค ความรุนแรงของโรคได้ ลดการเสียชีวิต เราคงยังต้องปฏิบัติตัวในวิถีชีวิตใหม่ต่อไป
ที่มา : https://www.facebook.com/yong.poovorawan