สธ. เร่งหาวิธีตรวจจับ ‘โอไมครอน’ จ่อทบทวนคงใช้ RT-PCR นักท่องเที่ยวเข้าประเทศ ห่วงเชื้อจะเข้าทางเส้นทางธรรมชาติ
วันที่ 29 พ.ย. 2564 นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงการรับมือโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน (Omicron) ว่า ขณะนี้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้มีมาตรการป้องกันในระดับแรกแล้ว ส่วนการตรวจจับค้นหาเชื้อโอไมครอนจะเดินทางเข้ามาในประเทศจะต้องทำเต็มที่ รัดกุมและทันต่อสถานการณ์
ทั้งนี้ที่มีการปรับแผนอนุญาตให้ตรวจแบบ ATK แล้วสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้แทนการตรวจ RT-PCR ในประเทศกลุ่มเสี่ยงที่เข้ามาในไทย ขณะนี้จะต้องมีการทบทวนขยายเวลายังคงใช้ RT-PCR เหมือนเดิม ซึ่งเป็นมาตรการเข้มข้นเพื่อการตรวจจับค้นหาโอไมครอนที่จะมาจากต่างประเทศ
นายสาธิต กล่าวต่อว่าส่วนที่มีการเสนอในหลายๆ รูปแบบจะต้องมีการติดตามข้อมูลให้มีความชัดเจนมากที่สุด ตนได้สั่งการไปที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ทุกศูนย์ของกรมวิทย์ฯ รวมทั้งภาคีเครือข่ายจะต้องมีวิธีตรวจจับหาโอไมครอนให้ได้ดีที่สุด แต่ขณะนี้โดยเทคนิคมีการประเมินว่าถ้าเชื้อเป็นเดลตาบางส่วนและอัลฟาบางส่วนให้ตั้งข้อสังเกตว่าเป็นโอไมครอน และในสเต็ปต่อไปจะมีน้ำยาตรวจจับโอไมครอนโดยตรง
นายสาธิต กล่าวว่า เราต้องยอมรับว่าเราไม่สามารถมีวัคซีนกับยาไปดักหน้าไวรัสทุกสายพันธุ์ เรามีแต่การติดตามข้อมูลให้เร็วที่สุด ส่วนบริษัทวัคซีนเขาก็คงจะเริ่มคิดค้นมีข้อมูลให้มากที่สุดเพื่อศึกษาวิจัย ทำวัคซีนเพื่อสู้กับการกลายพันธุ์
ฉะนั้นไม้ตายของประชาชนจะต้องรักษามาตรการป้องกันแบบครอบจักรวาล ซึ่งเป็นสิ่งที่ป้องกันไวรัสได้ทุกสายพันธุ์ แต่อย่างไรก็ดีอย่าเพิ่งตื่นตระหนกมากเกินไปเพราะการติดตามข้อมูลยังไม่มากพอ หากถามว่าไวรัสโอไมครอนมีการแพร่กระจายได้เร็วมากกว่าเดลตากี่เท่าหรือไม่อย่างไร และเท่าที่เห็นยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าจะมีอาการรุนแรงมากขึ้นในกลุ่มคนอายุเท่าไร จึงต้องรอข้อมูลที่ชัดเจนจริงๆ ถ้ามีข้อมูล 2 ส่วนนี้จึงจะน่าตื่นตระหนก
ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลจากทุกศูนย์ของกรมวิทย์ฯ และเครือข่าย 300 กว่าแล็บ ว่าโอไมครอนหลุดรอดมาในประเทศไทย แต่โดยธรรมชาติจะเริ่มป้องกันได้ยากสำหรับการแพร่ระบาดของทุกไวรัส แม้จะป้องกันได้ทั้งทางอากาศ แต่ห่วงช่องทางธรรมชาติซึ่งเป็นหัวใจสำคัญ แต่การตรวจจับให้เร็วที่สุดจะเป็นการป้องกันที่ดีที่สุด จึงจะพยายามทำให้ดีที่สุดในการป้องกันอย่างเข้มข้น แต่โดยธรรมชาติเวลาโรคระบาดจะไปทั่ว ถ้าหยุดการเดินทางจริงๆ ต้องหยุดทั้งโลก ซึ่งสุดท้ายคือต้องหาวัคซีนมาป้องกันให้ได้